เมื่อไม่นานมีชายคนหนึ่งโทรมาหานักสืบกุ้ง เล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง

บทความวันที่ 29 มี.ค. 2562, 11:10

มีผู้อ่านทั้งหมด 1208 ครั้ง

รักซ้อน...ซ่อนชู้

    เมื่อไม่นานมีชายคนหนึ่งโทรมาหานักสืบกุ้ง เล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง ตนได้แต่งงานกับภรรยา อยูกินกันฉันสามีภริยามาประมาณ 15 ปี มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคน อายุ 10 ขวบ  เขาและภรรยาทำงานที่โรงงานเดียวกัน  ต่อมาเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ป่วยต่อเนื่องจนเป็นกลายอัมพฤกษ์ครึ่งซีก     เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก  ภรรยาก็ลาออกจากงาน ช่วงหลังภรรยามีพฤติกรรมเริ่มไม่ค่อยสนใจเอาใจใส่ ทั้งๆที่สามีป่วยเดินไม่ได้  ลักษณะท่าทางเธอทำตัวออกห่าง   วันเสาร์อาทิตย์ ภรรยาอ้างว่าไปนอนค้างบ้านพ่อตาแม่ยาย โดยอ้างเหตุผลกับทางครอบครัวฝ่ายชายว่าต้องไปดูแลแม่ แม่อายุมากแล้วเดินไม่ค่อยสะดวก  เธอจะนอนค้างบ้านแม่คืนวันเสาร์กลับอาทิตย์ช่วงบ่ายหรือเย็น เป็นแบบนี้มาเป็นปีแล้ว บางครั้งวันธรรมดาก็ออกไปจากบ้าน ไปค้างบ้านเพื่อน บอกว่าไปช่วยเพื่อนขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด เพื่อหารายได้พิเศษ   ครอบครัวสามีก็เชื่อมาตลอด อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของสามี บังเอิญเห็นเธอเดินอยู่ในห้างกับเพื่อนชายคนหนึ่งแบบสนิทสนมเกิน เพื่อนจึงแอบถ่ายรูปมา...ให้ดู เขา..จำได้ว่าเพื่อนชายที่เดินเล่นกับภริยาตัวเองในห้างนั้น  เป็นคนคุ้นหน้าเคยทำงานที่เดียวกับเขาและเธอมาก่อน   แต่เอ..ตอนที่อยู่โรงงานเขาและเธอไม่เคยพูดคุยกันเลย  จึงเริ่มสงสัยว่าทำไมทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมาก  ประกอบกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเธอ  กลับบ้านดึก บางทีไม่กลับ เสาร์อาทิตย์ไม่เคยอยู่บ้าน มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่? เขาจึงมอบหมายภารกิจนี้ให้นักสืบกุ้งทำหน้าที่ สะกดรอย ส่วนเขาขอกลับไปนอนพักรักษาตัวที่บ้านญาติเพื่อเปิดทางให้เธอเต็มที่ ถ้าเธอมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจริง   ให้เธออยู่บ้านกับลูก 2 คน เริ่มงานวันแรกทีมงานไปเฝ้าที่หน้าบ้าน ช่วงเช้าเธอขับรถ-ไปส่งลูกที่โรงเรียนก็กลับเข้าบ้าน  ไม่ออกไปไหนจนกระทั่งเย็นออกไปรับลูก เป็นแบบนี้จันทร์ถึงศุกร์ เขาให้ข้อมูลของชายที่สงสัยมา ทีมงานไปแอบสังเกตุการณ์ดู  ในบ้านชายที่สงสัยอยู่เป็นครอบครัว มีภรรยาและลูกอีก 2 คนชายคนนี้ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะไปทำงานและรับลูกไปโรงเรียนด้วย วันจันทร์ถึงศุกร์ไม่ไปไหนหลังเลิกจากงานก็กลับเข้าบ้าน ลักษณะท่าทางจะเป็นคนดี ดิฉันกับทีมงานก็เลยคิดกันว่า “ ผู้ว่าจ้างคิดมากหรือเปล่า”  ภารกิจของเราสิ้นสุดแล้วไม่ได้อย่างที่เขาคิด ช่วงเย็นของวันศุกร์ก่อนจบงาน ผู้ว่าจ้างโทรมา “คุณกุ้ง พรุ่งนี้มีทีมงานมั้ยครับ ภรรยาผมเธอบอกว่าจะไปบ้านญาติต่างจังหวัด 2-3 วัน ไปกับครอบครัว มีแม่และหลานไปด้วย  อยากให้ตามไปดูครับ” “ได้ค่ะ”  “บ้านแม่ยายอยู่ที่ไหนค่ะ” “ผมไม่เคยไป เท่าที่รู้น่าจะบางบัวทอง” (คนอะไรไม่รู้จักบ้านแม่ยาย)  “ตั้งแต่แม่ยายย้ายบ้านผมไม่เคยไปเลยครับ “อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ” ดิฉันจัดการสั่งทีมงานเรียบร้อย  พรุ่งนี้เช้าวันเสาร์ไปเฝ้าที่หน้าบ้านแต่เช้า  ตกดึกGPS ส่งตำแหน่งสัญญาณกลับมา หมู่บ้าน.. อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี “นี่มันสัญญาณ GPS รถของเป้าหมายนี้นี่” เราแอบติดไว้ขณะทำงาน จะถอดเก็บเมื่อปิดคอร์ส เรายังไม่ทันถอด GPS    ผู้ว่าจ้างสั่งงานเพิ่มให้ตามต่ออีก  แต่ช่วง ณ.เวลานี้  ยังถึงเช้าวันเสาร์เลย แล้วเธอไปไหนดึกๆแบบนี้ นักสืบคงหลับกันหมดแล้ว  ดิฉันได้เช็คตำแหน่งและแคปหน้าจอไว้  รถของเธอไปจอดที่บ้านหลังหนึ่ง เช้ามา “โอโอ้! ไปบ้านหลังนี้เลยนะ เมื่อคืนเป้าหมายออกจากบ้าน ไปอยู่ตรงนี้”  ดูด้วยว่าบ้านหลังที่เธอมาจอดรถเป็นบ้านใคร?   ทีมงานไปถึงเวลาประมาณ 8 โมงเช้า เห็นรถของเป้าหมายรถจอดอยู่ในบ้านหลังตามที่ GPS บอกตำแหน่ง บ้านปิดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่  เห็นหน้าต่างแย้ม หน้าบ้านมีผ้าตากไว้  อาจเพราะยังเช้าอยู่  ช่วงสายๆ ชาวบ้านทยอยออกจากบ้าน  ไปทำงาน  ออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน  เที่ยงแล้วก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวของคนในบ้านหลังนี้ “หรือว่าเธอรถนำรถมาจอดทั้งไว้เฉยๆ แล้วไปเที่ยวกับครอบครัวตามที่บอก “ดูไปเรื่อยๆก่อน” จนกระทั่งบ่ายเห็นหญิงคล้ายเป้าหมายหญิง สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เดินออกจากบ้านหลังนั้น เดินมาหน้าบ้านเก็บผ้าที่ตากไว้และลากราวตากผ้าเข้าไป ลักษณะภายนอกของบ้านเหมือนบ้านร้าง บริเวณภายในรั้วบ้านเต็มไปด้วยใบไม้แห้งร่วงเต็ม...หน้าบ้านต้นไม้แห้ง  ในบ้านมีรถของเธอที่เข้ามาจอดเมื่อคืน นอกนั้นไม่มีความเคลื่อนไหว  ทีมงานขับรถวนไปมาแถวหน้าบ้าน จอดนานชาวบ้านจะสงสัย  ดับเครื่องยนต์เมื่อไหร่หมดลมหายใจแน่ ....อากาศร้อนมาก!!  โชคดีหมู่บ้านนี้ลักษณะเป็นหมู่บ้านไม่ใหญ่มากนัก ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน ไม่มีคนเดินวุ่นวาย อาจเพราะอากาศร้อนด้วย   ช่วงใกล้ค่ำเห็นชาย เราดูจากรูปที่ได้มาลักษณะคล้ายคนที่ผู้ว่าจ้างสงสัย ออกจากบ้านเดินลัดเลาะถัดไปอีก 3 ซอย ไปเอารถมอเตอร์ไซค์ที่จอดแอบไว้ ขับมาที่หน้าบ้าน รับเป้าหมายหญิงออกไปที่ตลาดนัดใกล้กับหมู่บ้านที่พัก เธอและชายคนนี้เดินเลือกซื้ออาหารหลายอย่าง และเดินเลือกซื้อของจูงมือกันแบบผัวเมีย  หลังจากเดินเที่ยวตลาดเสร็จแล้วทั้งสองก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กลับมาที่บ้าน โดยชายนำรถเข้าไปจอดไว้ในบ้าน  ทั้งสองคนเข้าไปในบ้าน บ้านเปิดไฟเฉพาะด้านในแบบสลัว จนกระทั่งประมาณ 4 ทุ่ม ชายเดินออกมาแต่งตัวเรียบร้อยสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงสแลค สวมแจ๊คเก็ตทับ ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปทางปากซอย  นักสืบเฝ้าสังเกตุการณ์บริเวณใกล้บ้านจนถึงเที่ยงคืน ไม่เห็นชายที่สงสัยกลับมาอีก ส่วนหญิงปิดไฟนอน  ทีมงานกลับบ้านพักผ่อนบ้าง พรุ่งนี้มาใหม่  เช้าของวันอาทิตย์  ทีมงานมีเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของหญิงเป้าหมายอีก ไม่มีความเคลื่อนไหว  เห็นป้าข้างบ้านเดินจูงสุนัขออกมาเล่นหน้าบ้านได้จังหวะจึงเข้าไปพูดคุยด้วย ป้าให้ข้อมูลว่า ป้ามาซื้อบ้านที่นี่ไว้ 2 หลังตั้งแต่เปิดโครงการ และชี้ไปหลังที่เป้าหมายอยู่ “หลังนี้ป้าให้เช่า มีสองผัวเมียมาเช่าอยู่หลายเดือนละ เดือนละ 3,000 บาท เค้าจะมาเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ช่วงนี้อากาศมันร้อน ส่วนใหญ่คนจะอยู่แต่ในบ้าน” ป้าจูงหมาขี้เสร็จแล้วก็กลับเข้าบ้านไป  ไม่รู้หรอกว่าคนที่ป้าคุยด้วยคือนักสืบ อิอิ!! จบข่าว งานนี้   เธอมีชู้จริงๆ ตามข้อมูลที่ป้าพูด เป๊ะเลย! พฤติกรรมตามที่ผู้ว่าจ้างเล่าให้ฟังก่อนว่าจ้าง  นี่เธอแอบคบหนุ่มโรงงานคนนี้มานานเท่าไหร่แล้ว แต่ที่แน่ๆ หนุ่มคนนี้ก็มีครอบครัว มีลูกเช่นกัน หนุ่มโกหกเมีย เหมือนที่เธอโกหกผัวเพื่อออกจากบ้านมาอยู่ด้วยกัน ความรักอะไรมันจะซับซ้อน ซ่อนรักแบบนี้  โลกนี้มีหลายใบจริงๆ แล้วแต่ว่าใครจะสร้างมันขึ้นมาบ้าง มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งนะค่ะ!