ถ้าจะฟ้องผู้กระทำละเมิดต้องสืบให้ดีนะครับ|ถ้าจะฟ้องผู้กระทำละเมิดต้องสืบให้ดีนะครับ

ถ้าจะฟ้องผู้กระทำละเมิดต้องสืบให้ดีนะครับ

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ถ้าจะฟ้องผู้กระทำละเมิดต้องสืบให้ดีนะครับ

โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ได้ว่า การกระทำของจำเลยเป็นผลโดยตรงให้โจทก์เกิดความเสียหาย

บทความวันที่ 1 ส.ค. 2559, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1562 ครั้ง


 ถ้าจะฟ้องผู้กระทำละเมิดต้องสืบให้ดีนะครับ

 
              โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ได้ว่า การกระทำของจำเลยเป็นผลโดยตรงให้โจทก์เกิดความเสียหาย จำเลยจึงต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ มีหลายคดีที่ทนายความโจทก์นำสืบว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเล่อ แต่ไม่ได้นำสืบว่าการประมาทของจำเลย เป็นผลให้โจทก์ได้รับความเสียหายโจทก์แพ้คดีครับ
 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3008 - 3009/2527
           รถของโจทก์ถูกรถของจำเลยชนโดยประมาทพังขวางอยู่กลางถนนแล้วถูกรถของบุคคลอื่นชนซ้ำโดยไม่ใช่ความประมาทของบุคคลนั้น แม้จะก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นก็เป็นผลโดยตรงอันเกิดจากความประมาทของฝ่ายจำเลยเป็นผู้ก่อขึ้นก่อน ดังนั้นจำเลยจึงต้องรับผิดในผลอันนี้ด้วย สำนวนแรกโจทก์มิได้ฟ้องผู้รับประกันภัยเป็นจำเลย คงฟ้องแต่ผู้อื่น เมื่อผู้รับประกันภัยเข้ามาเป็นโจทก์ในสำนวนที่สองโดยอ้างว่าเป็นผู้รับช่วงสิทธิในฐานะผู้รับประกันภัยฟ้องจำเลยอื่นและโจทก์ในสำนวนแรกให้ร่วมรับผิดอันเนื่องจากเหตุรถชนรายเดียวกัน โจทก์ในสำนวนแรกจึงมีสิทธิฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากผู้รับประกันภัยซึ่งเป็นโจทก์ในสำนวนที่สองได้ ไม่เป็นฟ้องซ้อน โจทก์ที่ 2 เป็นจำเลยตามฟ้องแย้งในสำนวนที่สองของโจทก์ที่ 1 ส่วนจำเลยเป็นจำเลยตามฟ้องสำนวนแรกของโจทก์ที่1 แม้จะเป็นค่าเสียหายรายเดียวกันแต่เป็นคนละคดีต้องเสียค่าขึ้นศาลต่างหากจากกัน เมื่อโจทก์ที่ 2 และจำเลยแพ้คดีและฎีกาต่อมาจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลเป็นรายคดีการที่ฎีการ่วมกันมาไม่ทำให้หน้าที่ที่จะต้องเสีย ค่าขึ้นศาลลดน้อยลง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดเป็นการเกินคำขอ เพราะโจทก์ขอเรียกดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2522 ศาลฎีกาควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2086/2523
             จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้กระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการต่อท่อสูบถ่ายน้ำมันเบนซินจากเรือบรรทุกน้ำมันเข้าคลังน้ำมันของจำเลยที่ 3 ที่ 4 เมื่อเดินเครื่องสูบน้ำมันแล้วเป็นเหตุให้น้ำมันเบนซิน 5,195 ลิตร รั่วไหลตกลงไปในแม่น้ำแผ่กระจายไปบนผิวน้ำถ่านที่เหลือจากการหุงต้มทิ้งลงในแม่น้ำตามปกติทำให้เกิดไฟลุกไหม้น้ำมันเบนซินบนผิวน้ำลุกลามไหม้บ้านเรือนทรัพย์สินของโจทก์อย่างรวดเร็วเป็นผลโดยตรงจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่ 1 และที่ 2 จำเลยทั้งสองต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้น
             จำเลยที่ 3 ที่ 4 ดำเนินกิจการคลังน้ำมันร่วมกันโดย ช. ลูกจ้างของจำเลยที่ 4 เป็นผู้จัดการคลังน้ำมันร่วมกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้จัดการของจำเลยที่ 3 ถือได้ว่าการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 3 และที่ 4 ผู้เป็นนายจ้างร่วมกัน จำเลยที่ 3 และที่ 4 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ด้วย

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก