การเพิกถอนโฉนดที่ดิน
กรมที่ดินมีคำสั่งให้เพิกถอนการออกโฉนดที่ดินหรือการออกเอกสารสิทธิที่ออกไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายถึงแม้ว่าจะมีการออกโดยเจ้าพนักงานที่ดินก็ตาม
ผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม มีการโอนเปลี่ยนมือหลายครั้ง ผู้ครอบครองปัจจุบันจะสุจริตหรือไม่ก็ตาม
หากที่ดินนั้นออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ราชการสามารถใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 สั่งเพิกถอนได้
ส่วนใครจะต้องรับผิดชอบนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ยกตัวอย่างเช่น
บุคคลที่แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน จนเจ้าพนักงานหลงเชื่อและออกโฉนดที่ดินก็จะมีความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย
ส่วนเจ้าพนักงานที่ดินก็จะมีความผิดฐานรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ
ส่วนผู้ที่ครอบครองปัจจุบันก็ไม่สามารถอ้างหรือยกอายุความมายังหน่วยงานของรัฐได้
เนื่องจากถูกกฎหมายปิดปาก คำถามจึงตามมาว่า
ศรีสุบรรณฟาร์มจะไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับใครก็ต้องดูว่าใครเป็นผู้โต้แย้งสิทธิ์ในเบื้องต้น
จำเลยที่ 1
น่าจะเป็นกรมที่ดินจะต้องถูกฟ้องที่ศาลปกครองและอาจจะถูกฟ้องในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีบทลงโทษทางอาญา
นอกนั้นศรีสุบรรณฟาร์มอาจจะต้องไปฟ้องกรมบังคับคดีซึ่งเป็นผู้ทอดตลาด
แต่ก็มีกฎหมายที่คุ้มครองคนขายทอดตลาด ต้องดูกันต่อไปว่าผลคดีจะเป็นอย่างไร
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติประมวลกฎหมายที่ดิน
มาตรา 61 เมื่อความปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
หรือได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
หรือจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ใดโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีหรือผู้ตรวจราชการกรมที่ดินมีอำนาจหน้าที่สั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้
ก่อนที่จะดำเนินการตามวรรคหนึ่ง
ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นคณะหนึ่ง
โดยมีอำนาจเรียกโฉนดที่ดิน
หนังสือรับรองการทำประโยชน์เอกสารที่ได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เอกสารที่ได้จดแจ้งรายการทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา
พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อให้โอกาสคัดค้าน
ถ้าไม่คัดค้านภายในกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ให้ถือว่าไม่มีการคัดค้าน
คณะกรรมการสอบสวนการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อย่างน้อยต้องมีเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและตัวแทนคณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่เป็นกรรมการ
การสอบสวนตามวรรคสองต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จและส่งให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ได้มีคำสั่งให้ทำการสอบสวนในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้คณะกรรมการสอบสวนรายงานเหตุที่ทำให้การสอบสวนไม่แล้วเสร็จต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งเพื่อขอขยายระยะเวลาการสอบสวน
โดยให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งสั่งขยายระยะเวลาดำเนินการได้ตามความจำเป็นแต่ไม่เกินหกสิบวัน
ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่ได้รับรายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนตามวรรคสี่
เมื่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งพิจารณาประการใดแล้ว
ก็ให้ดำเนินการไปตามนั้น
การดำเนินการเพิกถอนหรือแก้ไขตามความในมาตรานี้
ถ้าไม่ได้โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์มา
ให้ถือว่าโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นสูญหาย
และให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเพื่อดำเนินการต่อไป
ถ้ามีการคลาดเคลื่อนเนื่องจากเขียนหรือพิมพ์ข้อความผิดพลาดโดยมีหลักฐานชัดแจ้งและผู้มีส่วนได้เสียยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว
ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจหน้าที่แก้ไขให้ถูกต้องได้
ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำ
สั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขอย่างใดแล้วให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นตามวิธีการที่อธิบดีกำหนด
การตั้งคณะกรรมการสอบสวน
การสอบสวน
การแจ้งผู้มีส่วนได้เสียเพื่อให้โอกาสคัดค้านและการพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไข
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
เนื้อหาข่าวนำมาเสนอเพื่อประกอบการรายงาน
เพิกถอนที่ดิน
บ.ศรีสุบรรณนับพันไร่ [29 เม.ย. 51 - 05:15]
เมื่อวันที่
28 เม.ย. ที่กรมที่ดิน นายบุญเชิด คิดเห็น รองอธิบดีกรมที่ดิน รักษาการอธิบดีกรมที่ดิน
แถลงถึงผลการตรวจสอบการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครราชสีมา
และ จ.จันทบุรีว่า จากการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. โดยมิชอบ ในพื้นที่ต.น้ำหัก
อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 81 แปลงพื้นที่ 2,120 ไร่
จากนั้นจึงโอนขายให้บริษัทเอกชนเป็นทอดๆ
จนท้ายที่สุดบริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม เป็นผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด จากการตรวจสอบปรากฏว่า
น.ส. 3 ก. ที่ออกโดยการเดินสำรวจปี 2524 จำนวน 22 แปลง เนื้อที่ 687 ไร่ ชอบด้วยกฎหมาย
แต่ น.ส.3 ก. ที่ออกปี 2529 จำนวน 59 แปลง เนื้อที่ 1,338 ไร่ พบว่าเป็นการออก น.ส.3
ก.โดยไม่ชอบตามมาตรา 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ต้องเพิกถอนตามมาตรา 61
โดยมอบหมายให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา
จากนั้นจะต้องส่งเรื่องให้อธิบดีกรมที่ดินเพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ แต่บริษัทศรีสุบรรณฟาร์มไม่ถือว่ามีความผิด
เพราะซื้อต่อมาอย่างถูกต้อง ส่วนกรณีรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาสอยดาว อ.โป่งน้ำร้อน
จ.จันทบุรีนั้น พบว่า 14 แปลง เนื้อที่ 1,157 ไร่ ที่จะต้องเพิกถอนตามมาตรา 61
?เฉลิม? เอาที่คืนหลวงกว่าแสนไร่
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ในเร็วๆนี้จะนำที่ของหลวงที่ถูกบุกรุก
ทั้งที่ป่าสงวนและ ที่ราชพัสดุทั่วประเทศ จำนวน 6.4 ล้านไร่ ใน 59 จังหวัดทั่วประเทศกลับคืนมา
โดยตั้งใจจะจัดเป็น 3 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มแรกโดยหากเป็นคนจน จะหามาตรการให้ความช่วยเหลือ
กลุ่มที่ 2 หากครอบครองด้วยความเข้าใจผิด จะยึดที่คืนหลวงและให้เช่าอย่างถูกกฎหมาย
และกลุ่มที่ 3 ถ้าตั้งใจบุกรุก จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และเชื่อว่าในเร็วๆนี้จะเอาที่คืนหลวงได้ประมาณ
1 แสนไร่
ที่กรมที่ดินแถลงข่าวว่า
การออก น.ส.3 ก. ของบริษัทศรีสุบรรณ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้
และจะปล่อยให้กรมที่ดินเป็นผู้ชี้แจง เพราะหากให้ความเห็นจะกลายเป็นเรื่องการเมือง
ได้สั่งการให้กรมที่ดินปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 3 ข้อ คือ 1. ทำตามกฎหมาย 2.ห้ามกลั่นแกล้ง
และ 3.ห้ามให้ความช่วยเหลือ ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
เคยพูดว่าจะลาออกจากการเมืองหากผิดจริงนั้น นายสุเทพพูดเองเออเอง ผมไม่ทราบและไม่ขอแสดงความเห็น
หากเกิดอะไรขึ้น นายสุเทพต้องเป็นคนตอบคำถามกับสังคมเองผมจะไม่เข้าไปยุ่ง จะขอใช้เวลาทำงาน? รมว.มหาดไทยกล่าว
?สุเทพ? ไม่หวั่นอันธพาลการเมือง
นายสุเทพ
เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเคยมีประสบการณ์เวลายุคที่อันธพาลครองเมือง
เคยทำมาก่อนตอนคดีป่าท่าชนะ ที่มีการตั้งพยานเท็จเพื่อจะเอาตนเข้าคุกให้ได้ กล่าวหาว่าเป็นพ่อค้าไม้เถื่อน
ครั้งนั้นหนักกว่าครั้งนี้มาก แต่ดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เรื่องจึงจบไป และคราวนี้คิดว่าเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม
เพียงแต่ต่างข้อเท็จจริงออกไป ครั้งก่อนที่มีคนทำสำนวนแข็งแรง เพราะมีการให้รางวัลเลื่อนให้เป็นรองอธิบดี
จึงได้มีการดำเนินการกับตน แต่ครั้งนี้ไม่ทราบว่ามีรางวัลตำแหน่งอธิบดีล่อหรือไม่ ต้องสงสัยไว้ก่อนและต้องตรวจสอบต่อไป
ส่วนจะฝากบอกอะไรถึง
ร.ต.อ.เฉลิมในตอนนี้นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมบอกอะไรก็ไม่รู้เรื่อง สอนอะไรก็ไม่ได้ เพราะแก่เกินแกง
โรคที่เป็นนั้นเป็นเอามาก และรักษาไม่หายแล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในที่สุดคนที่บริสุทธิ์
เป็นฝ่ายถูกต้องจะต้องชนะ กรณีที่เกิดขึ้นถือว่า เป็นเพียงขั้นเริ่มต้น เชื่อว่าจะยังมีตามมาอีกเยอะ
หาก ร.ต.อ.เฉลิมมีอำนาจอยู่ในบ้านเมืองนี้ ก็ต้องทำใจไว้ก่อนว่าอาจจะต้องเจออะไรมากกว่านี้
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจากเวปไซด์ไทยรัฐ