ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน|ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ที่ผ่านมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถือเป็นท่าอากาศยานหลักและมีความสำคัญในด้านการคมนาคมขนส่งและเศรษฐกิจแก่ประเทศไทย

บทความวันที่ 2 ธ.ค. 2551, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 710 ครั้ง


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน

 

            ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ที่ผ่านมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถือเป็นท่าอากาศยานหลักและมีความสำคัญในด้านการคมนาคมขนส่งและเศรษฐกิจแก่ประเทศไทย โดยมีปริมาณการเดินทางและขนส่งสินค้าทางอากาศสูงที่สุดในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่มีเทศกาลส่งท้ายปีใหม่ต้อนรับปีเก่าและมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้เป็นช่วงที่มีปริมาณการเดินทางและขนส่งสินค้าทางอากาศสูงกว่าทุกช่วง

 

            โดยจำนวนผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 17.7 และ 22.5 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งปี และการขนส่งสินค้าทางอากาศมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 18.0 และ 19.2 ของปริมาณสินค้าที่ขนส่งทั้งปี ธุรกรรมผ่านท่าอากาศยานที่ต้องหยุดชะงักลง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จึงหมายถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจและโอกาสทางการแข่งขันที่อาจสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

 

            เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนส่งผลกระทบให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองต้องปิดให้บริการนับตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 มาจนถึงขณะนี้ ผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์ และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าท่าอากาศยานทั้งสองจะสามารถเปิดให้บริการได้เมื่อใด ได้สร้างความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยหากรวบรวมความเสียหายที่หน่วยงานต่างๆ ประเมินออกมานั้น ในเบื้องต้นพบว่าสูงกว่า 2 แสนล้านบาท จากผลกระทบของธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ

 

            อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลอาจควบคุมสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติได้ แต่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ระบบเศรษฐกิจไทยนั้นจะยังคงมีต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สถานการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนออกไปสู่ประชาชนและธุรกิจของชาวต่างชาติรุนแรงที่สุด

 

            ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในสายตาของชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบต่อศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในอนาคต และกลายเป็นโอกาสให้ประเทศคู่แข่งอื่นๆ ใช้จุดอ่อนของประเทศไทยในการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับตัวเอง ดึงรายได้และโอกาสมหาศาลไปจากประเทศไทย อันจะนำมาซึ่งความสูญเสียต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวอย่างที่ประเมินค่ามิได้ ทั้งในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาค การลงทุนจากต่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนโอกาสของไทยในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำคัญในภูมิภาค

 

            ดังนั้นความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งปีจนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจนั้น จำเป็นต้องเร่งแก้ไขและหาทางออกโดยด่วน เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยได้รับการซ้ำเติมจากปัญหาไปมากกว่านี้

 

    ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติ

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก