ข่าวทนาย/นักสืบ
– ลูกจ้างชั่วคราวขอเพิ่มเงินเดือนทนายคลายทุกข์ขอนำคดีเกี่ยวกับลูกจ้างชั่วคราวประท้วงเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิของตัวเอง
เนื้อหาข่าว
ลูกจ้างชั่วคราว รพ.รัฐขู่หยุดงานประท้วงขอเงินเดือนเพิ่ม
ลูกจ้างชั่วคราว รพ.รัฐทั่วประเทศกว่า 9 หมื่นคน ขู่หยุดงานประท้วงขอเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการ รวมทั้งค่าเสี่ยงภัยในพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้ ขีดเส้นให้เวลารัฐบาล 1 เดือน ครวญเงินเดือนไม่เคยขึ้นนับแต่เข้าทำงาน ขณะที่ สธ.เตรียมอุ้มผู้มีเงินเดือนน้อย พร้อมปรับเงินเพิ่มรายปี 1-6% เล็งเชิญตัวแทนลูกจ้างมาถกอีกรอบหาข้อสรุปสัดส่วนเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น
กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ รวมตัวกันเรียกร้องขอเพิ่มสวัสดิการ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มกราคม ที่ห้องประชุมเล็ก คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ตัวแทนกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ ในนามภาคีลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลของรัฐแห่งประเทศไทย นำโดยนางกนกพร สุขสนิท ประธานภาคีฯ นายนิติกร กาละดี ประธานสมาคมลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง พร้อมเครือข่ายกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย น.ส.จันทร์เพ็ญ สุวรรณมณี ลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลปัตตานี ร่วมกันออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องขอความเห็นใจต่อนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวในโรงพยาบาลรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ในเรื่องสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างชั่วคราวควรได้รับตามระบบราชการ ที่ยังไม่สามารถเทียบได้ในระบบกฎหมายแรงงานและมาตรฐานสากลตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ลูกจ้างชั่วคราวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ในปัจจุบัน
นางกนกพร กล่าวว่า ลูกจ้างชั่วคราวในสังกัดโรงพยาบาลของรัฐบาลทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่กว่า 9 หมื่นคน จากโรงพยาบาลของรัฐบาลทั้งหมด 875 แห่ง กำลังได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่แพงขึ้นทุกวัน ขณะที่ไม่เคยได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนตั้งแต่เข้าทำงาน รวมทั้งปัญหาเรื่องของสวัสดิภาพความปลอดภัยต่างๆ ก็ถูกละเลย กลุ่มภาคีลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลของรัฐจึงต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือและขอความเห็นใจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข 4 ข้อ คือ
1.ให้มีการจัดทำระเบียบของลูกจ้างชั่วคราวสังกัดกระทรวงสาธารณสุขขึ้นมาโดยเฉพาะ เนื่องจากขณะนี้ระเบียบข้อบังคับของลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ ยังไม่มีใช้อย่างเป็นทางการ ทำให้ลูกจ้างชั่วคราวกว่า 9 หมื่นคน สังกัดโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ ขาดสิทธิ์และสวัสดิการในการดูแลเท่าเทียมกับข้าราชการและลูกจ้างประจำ ทั้งๆ ที่กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวบางแห่งต้องทำงานอย่างหนักมากกว่ากลุ่มข้าราชการและลูกจ้างประจำ อีกทั้งมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อโรคง่ายกว่า แต่ยังขาดสวัสดิการ เงินเดือน และที่พักรองรับ ทำให้ขาดความมั่นคงในอาชีพ
2.ควรแก้ไขระเบียบกระทรวงสาธารณสุขข้อ 9 วรรคสี่ โดยเพิ่มข้อความในระเบียบว่าให้สามารถจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างชั่วคราวนอกงบประมาณได้ตามคำสั่งและตามมติ ครม. โดยไม่ขัดต่อระเบียบเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกจ้างชั่วคราวสามารถได้รับเงินค่าครองชีพตามคำสั่งของกระทรวงการคลังที่ ก ค 0427/ว 103 ลงวันที่ 19 กันยายน 2551 โดยกระทรวงการคลังอนุมัติเพิ่มให้แก่ผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 11,700 บาท แต่ลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขไม่มีโอกาสได้ เพราะผิดต่อระเบียบและกฎหมาย ดังนั้นภาคีลูกจ้างชั่วคราวของรัฐแห่งประเทศไทยและสมาคมลูกจ้างเงินบำรุงจึงเห็นว่ารัฐบาลควรจะมีการแก้ไขระเบียบดังกล่าว เพื่อให้ลูกจ้างชั่วคราวทั่วประเทศได้รับผลประโยชน์
3.ให้มีการจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัยให้แก่ลูกจ้างชั่วคราวนอกงบประมาณสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการจ่ายให้ แต่ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2548 เพราะระเบียบข้อ 9/4/ ทำให้เป็นช่องว่างที่ผู้บริหารไม่สามารถจ่ายค่าเสี่ยงภัยได้ทำให้ลูกจ้างชั่วคราวเสียสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ที่พึงจะได้รับตามหนังสือ ปน.00165/1997 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งเงินค่าเสี่ยงภัยจะได้รับเพียงกลุ่มข้าราชการและกลุ่มลูกจ้างประจำเท่านั้น ทั้งๆ ที่กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวที่ทำงานก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน
และสุดท้าย 4.กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวอยากขอความเห็นใจจากกระทรวงสาธารณสุขให้จัดทำแท่งอัตราเงินเดือนของลูกจ้างชั่วคราวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยยึดหลักค่าใช้จ่ายต่อคนในภาวะค่าครองชีพที่สูงตามความจริง โดยมีการปรับแท่งเงินเดือนให้สูงขึ้น จากเดิมที่มีเพดานค่าจ้างสูงสุดเพียง 6,800 บาท และให้มีการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นทุกปีสอดคล้องกับค่าครองชีพและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
นางกนกพรกล่าวต่อว่า หลังจากออกแถลงการณ์ขอความเห็นใจต่อรัฐบาลแล้ว สัปดาห์หน้าจะทำหนังสือข้อเรียกร้องไปยื่นต่อ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้เวลารัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข 1 เดือน ในการแก้ไขระเบียบ และตอบสนองตามข้อเรียกร้อง หากรัฐบาลยังนิ่งเฉย ลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศกว่า 9 หมื่นคน จะร่วมกันนัดหยุดงานประท้วง เพื่อให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง แต่การนัดหยุดงานประท้วงครั้งนี้จะไม่สร้างความเดือดร้อนหรือละทิ้งผู้ป่วยหรือสร้างความเสียหายให้แก่โรงพยาบาลแต่อย่างใด
ด้าน น.ส.จันทร์เพ็ญ สุวรรณมณี ลูกจ้างชั่วคราวโรงพยาบาลปัตตานี ตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อปี 2547 ลูกจ้างชั่งคราวโรงพยาบาลของรัฐในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยเป็นเวลา 10 เดือน เดือนละ 2,500 บาทต่อคน ต่อมาในปี 2548 ได้ปรับลดลงเหลือคนละ 400 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน หลังจากกลางปี 2548 ก็ไม่ได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยอีกเลย และที่ผ่านมาเกิดเหตุผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธปืนดักยิงลูกจ้างชั่งคราวโรงพยาบาลปัตตานี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ได้รับการช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มกับการเสี่ยงชีวิต โดยเฉพาะลูกจ้างชั่วคราวจะต้องเข้าเวรในช่วงกลางคืน จะต้องเสี่ยงภัยอย่างมาก อีกทั้งยังไม่มีสวัสดิการในเรื่องที่พักและค่าครองชีพ ขณะที่เงินเดือนก็น้อย ไม่เคยได้ปรับขึ้นตั้งแต่เข้าทำงาน ฉะนั้นจึงวิงวอนให้รัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ และนายวิทยา รมว.สาธารณสุข ได้เห็นใจพวกเรา รวมทั้งสวัสดิการของลูกจ้างชั่วคราวในสังกัดโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศที่กำลังได้รับความเดือดร้อนด้วย
ขณะที่ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา นายแพทย์ 10 ด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข รับผิดชอบกำลังคนและค่าตอบแทน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กระทรวงกำลังดำเนินการจัดทำบัญชีเงินเดือนลูกจ้างชั่วคราวใหม่ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการไม่แตกต่างจากข้าราชการและลูกจ้างประจำ การเพิ่มเงินเดือนลูกจ้างชั่วคราว หากใครทำงานมานานจะได้เพิ่มในสัดส่วนที่น้อย ส่วนใครที่ยังมีเงินเดือนน้อยจะได้รับการเขยิบขึ้นมาก ส่วนจะเพิ่มขึ้นเท่าไรจะต้องหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้จะปรับเงินเพิ่มรายปีผ่านการประเมินผลงานทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยใช้รูปแบบการประเมินเหมือนกับที่ใช้ประเมินข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและจะมีการปรับเพิ่มค่าตอบแทน 1-6%
"ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกับกลุ่มตัวแทนลูกจ้างชั่วคราวที่ออกมาเรียกร้องแล้ว มีความเข้าใจกันดี และเร็วๆ นี้จะเชิญตัวแทนลูกจ้างชั่วคราวมาหารือร่วมกับตัวแทนโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในฐานะฝ่ายนายจ้างอีกครั้ง เพื่อกำหนดสัดส่วนเงินเดือนที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงหลักเกณฑ์ในการปรับเงินเดือนให้ชัดเจนขึ้น" นพ.สุพรรณ กล่าว
นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่มีการเรียกร้องให้จ่ายค่าครองชีพคงจะไม่สามารถจ่ายให้ได้เหมือนข้าราชการและลูกจ้างประจำ เพราะไม่เฉพาะแต่ลูกจ้างชั่วคราวสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้นที่ไม่ได้รับเงินค่าครองชีพ ลูกจ้างชั่วคราวสังกัดหน่วยงานอื่นก็ไม่ได้รับเงินส่วนนี้เช่นกัน หากจะดำเนินการต้องแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม ในส่วนลูกจ้างชั่วคราวกระทรวงสาธารณสุขจะเพิ่มเงินรายปีให้แทนอยู่แล้ว
"กระทรวงดูแลลูกจ้างชั่วคราวดีมาก ได้รับสิทธิต่างๆ มากมาย คงไม่มีใครอยากออกจากงาน คำขู่ที่ว่าจะมีการหยุดงานประท้วงหากไม่ทำตามข้อเรียกร้องนั้น เชื่อว่าจะไม่มีลูกจ้างชั่วคราวคนไหนกล้าหยุดโดยไม่มีเหตุผล เพราะสัญญาจ้างเป็นแบบปีต่อปี ฝ่ายนายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ หากลูกจ้างประพฤติตนไม่เหมาะสม" นพ.สุพรรณ กล่าว
นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับค่าตอบแทนของบุคลากรด้านสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพนั้น ขณะนี้ได้จัดทำร่างการจ่ายค่าตอบแทนครอบคลุมทุกสายงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยภาพรวมจะเพิ่ม 6-7 รายการ เช่น ค่าอยู่เวรเพิ่ม 20% เป็นต้น คาดว่าจะเสนอให้ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามได้ภายในสัปดาห์นี้
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก