ข่าวนักสืบ - จับแล้วเสี่ยเต็นท์รถ
นายทุนแบงก์ปลอม
นักสืบทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนของชุดสืบสวนที่สามารถสืบหาแหล่งผลิตแบงก์ปลอมได้ เบื้องหน้าเป็นเสี่ยเต็นท์รถ เบื้องหลังเป็นนายทุนผลิตแบงก์ปลอม ปลอมวีซ่า พาสปอร์ต และบัตรเครดิต งานนี้ต้องขอชมเชยการนำงานชุดสืบสวนสอบสวนของ
บช.ภาค 3
ที่สามารถหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
จับแล้วนายทุนใหญ่ผลิตแบงก์ปลอม ผบช.ภาค 3 "กฤษฎา"
ส่งทีมเข้ากรุงบุกรวบคาบ้านพักย่านคลองจั่น
เป็นเสี่ยเต็นท์รถที่ลูกน้องซัดทอดไว้ก่อนหน้านี้ หลังแกะรอยตามรวบลูกน้องคนสนิทและเมียได้สำเร็จ
ยึดของกลางผลิตแบงก์ปลอมได้เพียบ ไม่เท่านั้นยังปลอมแบงก์ต่างประเทศอีกหลายชาติ
รวมทั้งพาสปอร์ต วีซ่า บัตรเครดิต อย่างไรก็ตามเสี่ยนายทุนใหญ่ปฏิเสธทุกข้อหา
ขอให้การชั้นศาล แม้ลูกน้องทั้งหมดจะซัดทอดหมดเปลือกแล้วก็ตาม
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่บช.ภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น
ผบช.ภาค 3 พร้อมด้วยพล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง
ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และพ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา
หัวหน้าชุดสืบสวนจับกุม แถลงข่าวจับกุมนายศรราม หรือพงษ์เดช ติงวัฒนะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 ซอยลาดพร้าว 115 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เสี่ยเต็นท์ขายรถยนต์มือสอง
นายทุนใหญ่การผลิตแบงก์ปลอม พร้อมด้วยนายอลงกต เที่ยงคืน อายุ 33 ปี ลูกน้องคนสนิทนายศรราม และนางกัลยา ท่านมุข อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 5
ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ภรรยานายอลงกต พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์
เครื่องปริ๊นเตอร์ เครื่องปั๊มเอกสารนูน เครื่องตัดกระดาษ แผ่นฟอยล์สีทอง แผ่นโลหะ
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ผลิตธนบัตรปลอมของไทย กัมพูชา
พาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม ตราประทับทางราชการประเทศต่างๆ และวีซ่าปลอมอีกหลายประเทศ
รวม 48 รายการ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2551 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.ภ.จว.นครราชสีมา บุกจับกุมนายสนอง เงินจันทร์ อายุ 54 ปี นายวิทยา บัวรอด
อายุ 28 ปี และนายดำรงชัย มะยมหิน อายุ 35 ปี ได้ที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก เลขที่ 4032/2
ถ.จตุรทิศ แขวงและเขตดินแดง กทม. พร้อมยึดของกลางธนบัตรปลอมราคาฉบับละ 1 พันบาท จำนวน 46 ฉบับ
กระดาษชนิดมันที่ใช้ผลิตธนบัตรปลอมจำนวน 800 แผ่น แท่นพิมพ์ 2 แท่น แผ่นแถบสะท้อนแสง แผ่นเพลต สำหรับทำแม่พิมพ์ เครื่องอัดเพลต 1 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ 2 ชุด
เครื่องปริ๊นเตอร์สี 2 เครื่อง สีกระป๋องที่ใช้พิมพ์ธนบัตร
ที่รองกระดาษ กาวทาเพลต และอุปกรณ์ผลิตธนบัตรปลอมรวมอีกกว่า 10 รายการ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่า
ร่วมกันผลิตธนบัตรปลอมมานานหลายเดือนแล้ว โดยนายทุนใหญ่คือนายพงษ์เดช
เจ้าของเต็นท์ขายรถยนต์มือสองย่านสายไหม กทม. มีนายอลงกต ลูกน้องคนสนิท
เป็นผู้ว่าจ้างให้ผลิตธนบัตรปลอม ฉบับละ 1 พันบาท จำนวน 1
หมื่นฉบับ แลกกับเงินค่าจ้าง 2 แสนบาท
ต่อมาศาลจังหวัดนครราชสีมาออกหมายจับนายอลงกต ลูกน้องคนสนิทนายพงษ์เดช
จากนั้นชุดสืบสวนบก.ภ.จว.นครราชสีมา นำโดย
พ.ต.อ.พงษ์เดช
พรหมมิจิตร รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.มนัส ชมเชย
สว.สส.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.อิทธิพล
นาคคำ ผกก.ประจำสำนักงานผู้ช่วยผบ.ตร.(พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง) พ.ต.ท.ไพศาล ร่วมสุข
รองผกก.สภ.ลืออำนาจ ช่วยราชการบช.ภาค 3 พ.ต.ท.พงษ์ชิต พุ่มชุมพล
รองผกก.ช่วยราชการ บช.ภาค 3 พ.ต.ท.ปฏิยุทธ์ สิงหะวิโรจน์
สว.สส.สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นำกำลังตามแกะรอยนานนับเดือนจนจับกุมนางกัลยา ท่านมุข อายุ 34 ปี ภรรยานายอลงกตได้เป็นคนแรก เมื่อวันที่ 27 ม.ค.
ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านอัมรินทร์ ย่านโชคชัย 4 กทม.
จากนั้นชุดสืบสวนจับกุมนายอลงกตได้ในค่ำวันเดียวกัน
ขณะกบดานอยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยลาดพร้าว-วังหิน 62 โชคชัย 4 กทม. กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 28 ม.ค.
ติดตามจับกุมนายศรราม หรือพงษ์เดช นายทุนใหญ่ได้ภายในบ้านพักเลขที่ 235 ซอยลาดพร้าว 115 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
จากการสอบสวนนายอลงกตรับสารภาพว่า นายศรราม
หรือพงษ์เดช ว่าจ้างให้ติดต่อพรรคพวก 3 คนที่ถูกจับก่อนหน้านี้
พิมพ์ธนบัตรปลอมที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก จำนวน 1 หมื่นฉบับ
ด้วยเงินค่าจ้าง 2 แสนบาท
และจะมีลูกค้ามารับธนบัตรปลอมไปกระจายสู่ตลาดอีกครั้ง
ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยนายศรรามสัญญาว่าจะให้บ่อปลา
1 บ่อ ในต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นค่าจ้าง
ซึ่งลักลอบผลิตธนบัตรปลอมฉบับละ 1 พันบาท ส่งขายไปแล้วกว่า 1 หมื่นฉบับ เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท
นายอลงกตรับสารภาพอีกว่า นอกจากนี้นายศรรามยังสั่งผลิตธนบัตรปลอมของอีกหลายประเทศ
อาทิ แอฟริกาใต้,
กัมพูชา และพม่า ตลอดจนพาสปอร์ต วีซ่า
และบัตรเอทีเอ็มปลอมอีกหลายประเทศ ส่วนนางกัลยา
ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตธนบัตรปลอม
เป็นเพียงช่วยขนสิ่งของหลบหนีระหว่างที่ตำรวจติดตามตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้นายอลงกต ลูกน้องคนสนิท
จะรับสารภาพและซัดทอดนายศรรามอย่างหมดเปลือก แต่นายศรรามยังให้การปฏิเสธทุกข้อหา
ยืนยันขอให้การชั้นศาลเท่านั้น
ด้านพล.ต.ท.กฤษฎาเปิดเผยว่า
การจับกุมนายทุนผู้บงการผลิตธนบัตรปลอมแก๊งนี้ถือเป็นการถอนรากถอนโคน
เพราะเป็นขบวนการระดับชาติ การสืบสวนพบหลักฐานการผลิตธนบัตรปลอมอีกหลายประเทศ
พร้อมเอกสารสำคัญอย่างอื่น เช่น พาสปอร์ต วีซ่า บัตรประชาชน เอทีเอ็ม
และตราประทับทางราชการของประเทศต่างๆ อีกหลายรายการ
แม้นายศรรามจะปฏิเสธในชั้นสอบสวน แต่ตำรวจมีหลักฐานพยานแน่นหนาดำเนินคดีได้แน่นอน พฤติกรรมของขบวนการผลิตธนบัตรปลอมที่เกิดขึ้น
สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ
ตำรวจจะประสานกับประเทศที่เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
