สาวแบ็งค์เปิดบูธหลอกพนักงานรัฐวิสาหกิจทำบัตรเครดิต|สาวแบ็งค์เปิดบูธหลอกพนักงานรัฐวิสาหกิจทำบัตรเครดิต

สาวแบ็งค์เปิดบูธหลอกพนักงานรัฐวิสาหกิจทำบัตรเครดิต

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

สาวแบ็งค์เปิดบูธหลอกพนักงานรัฐวิสาหกิจทำบัตรเครดิต

ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าว ความผิดที่สาวแบงก์หลอกให้พนักงานทำบัตรเครดิต

บทความวันที่ 12 มี.ค. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1688 ครั้ง


สาวแบ็งค์เปิดบูธหลอกพนักงานรัฐวิสาหกิจทำบัตรเครดิต

สาวแบ็งค์เปิดบูธหลอกพนักงานรัฐวิสาหกิจทำบัตรเครดิต

 

ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าว  ความผิดที่สาวแบงก์หลอกให้พนักงานทำบัตรเครดิต  ที่ปรึกษาสมาคมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมฯ พากลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ เข้าร้องกองปราบ เพื่อดำเนินการกับพนักงานสาวของธนาคารแห่งหนึ่ง ที่เปิดบูธหลอกลวงให้ทำบัตรเครดิต

 

รายละเอียดรายงานข่าว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป) นายมะโน ทองปาน ที่ปรึกษาสมาคมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พาผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง จำนวน 4 คน (ขอสงวนนาม) เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ พงส.(สบ3) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.แจง (นามสมมติ) อายุ 28 ปี พนักงานขายบัตรเครดิตธนาคารแห่งหนึ่ง ในข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกผู้เสียหายว่าสามารถวิ่งเต้นเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต และอนุมัติสินเชื่อของธนาคารแห่งหนึ่งได้ แต่ต้องเสียค่าดำเนินการให้ก่อนทำให้ผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

 

จากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่า น.ส.แจง ได้มาเปิดบูธรับสมัครบัตรเครดิตธนาคารแห่งหนึ่งที่บริเวณโรงอาหารของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในช่วงพักเที่ยง เมื่อประมาณกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าให้ความสนใจและต้องการจะสมัครบัตรเครดิต รวมทั้งกู้เงิน จึงนำเอกสารต่างๆมาให้ แต่เมื่อ น.ส.แจงเห็นสลิปเงินเดือนก็จะบอกว่าไม่ผ่านเกณฑ์อนุมัติบัตรเครดิตหรือกู้เงิน แต่ก็มีช่องทางทำได้โดยอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ธนาคารอีกแห่งหนึ่งซึ่งสามารถวิ่งเต้นได้แต่ต้องเสียค่าดำเนินการเป็นเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินบัตรเครดิต หรือวงเงินกู้นั้นๆ

 

ในสอบสวนยังทราบอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่นั้น น.ส.แจงก็จะหลอกว่า ให้เปิดบัตรเครดิตที่ใหม่เพื่อนำไปรูดใช้หนี้และปิดบัตรเครดิตใบเก่าเสีย เพราะบัตรเครดิตที่จะทำให้นั้นจะมียอดผ่อนชำระรายเดือนถูกกว่ามาก เช่น เดิมเป็นหนี้บัตรเก่าอยู่ 300,000 บาทต้องผ่อนชำระเดือนละหลายหมื่น แต่ถ้าเป็นบัตรใหม่นั้นจะผ่อนชำระเพียงแค่เดือนละประมาณ 4,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อไปกู้เงินนอกระบบ หรือนำรถไปเข้าแฟนแนนซ์เพื่อนำเงินมาจ่ายให้ น.ส.แจง ซึ่งมีตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และเมื่อถึงกำหนดที่จะต้องได้บัตรเครดิตหรือเงินกู้ น.ส.แจงก็จะโทรแจ้งผู้เสียหายว่าทางธนาคารอนุมัติแล้วให้รอเอกสารซึ่งจะส่งไปที่บ้านแต่ผ่านไปหลายวันผู้เสียหายก็ยังไม่ได้รับ และเมื่อโทรไปหา น.ส.แจงก็ถูกบ่ายเบี่ยง ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบไปยังธนาคารก็แจ้งว่าไม่มีพนักงานชื่อนี้อยู่จึงเชื่อว่าถูกหลอกเงินไปแล้วจึงมาร้องทุกข์กับทางสมาคมฯ และพากันมาแจ้งความดังกล่าว

           

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียหายที่ถูกหลอกเงินไปนั้นส่วนใหญ่เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งมีตั้งแต่พนักงานทั่วไปจนถึงระดับผู้อำนวยการ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ แต่ระหว่างแจ้งความนั้น น.ส.แจงได้โทรศัพท์ติดต่อผู้เสียหายเพื่อนัดคืนเงินทั้งหมดแต่ผู้เสียหายไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งความไว้ก่อนและหากไม่นำเงินมาคืนตามที่ตกลงกันไว้ก็จะรวบรวมผู้เสียหายอีกหลายรายมาแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชนต่อไป

ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

 

                                                                                                                   

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก