ลูกบังเกิด…เกล้า
คนหาย..ทรัพย์สินหาย..ของหาย..สัตว์หาย..ขยะหาย..น้ำมันหาย...แม้แต่จะทั้งหัวใจหาย..ก็ต้องมาหานักสืบ..เพราะไม่มีใครสามารถช่วยคุณได้
นอกจากนักสืบเท่านั้น
นักสืบมีหน้าที่ซอกแซก
สืบหาคนหาย
หรือสิ่งของที่หายกลับมาให้กับผู้จ้างวาน
สมัยนี้น่ะ..ทำมั้ย?
คนถึงได้เอาแต่ใจตัวเองกันนัก
มีปัญหาอะไรนิดหน่อย
บางครั้งพูดไม่ถูกหู
ถูกขัดใจ
ห้ามโน่น
ห้ามนี่
ก็ไม่พอใจออกจากบ้าน ทั้งๆ
ที่เขาหวังดี
และเป็นห่วง
กลับไม่เข้าใจ
โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นสมัยนี้น่ะ
โอ้ย! พ่อ แม่
พูดอะไร
อบรมสั่งสอนอะไรก็ไม่ได้
หาว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจ
เอะอะ..อะไร
ก็หนีออกจากบ้าน
ทำไปเพื่อประชด
แต่รู้มั้ยว่า
การที่ลูกหายไปจากบ้านนั้น
หัวอกของพ่อแม่จะวาย...เชียว
คิดบ้างมั้ย
เมื่อไหร่จะคิดได้
ก็คงมีลูกเป็นของตนเองละมั้ง
พ่อแม่บางคนเล่าให้ฟังว่า
ลูกสาววัยอายุเกือบ
30 ปี แล้ว ยังไม่แต่งงาน
และยังไม่มีงานทำ
ออกไปอยู่หอพักนอกบ้านกับเพื่อนผู้หญิง
แต่ไม่ยอมให้พ่อแม่ไปหาที่หอพักและไม่บอกว่าเพื่อนคนไหน
เพราะต้องการอิสระ
(อายุจนป่านนี้แล้วยังอยู่เกาะอีก..เกาะพ่อ..เกาะแม่ไง)
ทุกเดือนพ่อแม่ก็ต้องจ่ายเงินค่าหอพัก
ค่าอาหารการกินทุกอย่าง
ทั้งๆที่พ่อแม่ก็ไม่ใช่คนมีฐานะอะไร
ด้วยความสงสัย..วันหนึ่งพ่อแม่มาติดต่อนักสืบให้ไปเฝ้าสังเกตุดูพฤติกรรมของลูกสาว
ว่าวันๆเขาทำอะไรบ้าง
และอยู่กับเพื่อนคนไหน
ในขณะที่นักสืบทำงาน
ก็ได้ไปเฝ้าที่หอพัก
แต่ไม่ปรากฎตัวของลูกสาวของผู้จ้างวานเลย
คุณพ่อคุณแม่ที่จ้างวาน
ก็ไม่พอใจหาว่านักสืบไม่ทำงาน
แต่นักสืบยืนยันนอนยันได้ว่าไม่เห็นตัวของลูกสาวเลย ฝ่ายพ่อแม่จึงโทรศัพท์ถามลูกสาวว่าอยู่ที่ไหน
ลูกสาวบอกว่าอยู่ที่เซเว่นอีเรเว่น
หน้าหอพัก
ทั้งๆที่ไม่ปรากฎตัวของเขาเลย
เพราะนักสืบเฝ้าตลอดเวลา
ในเมื่อเป็นเช่นนี้
นักสืบจึงตัดสินใจไปสอบถามที่หอพัก
จึงทราบว่าเป้าหมายของเราไม่ได้พักอาศัยที่หอพักมานานหลายเดือนแล้ว
แรกๆเคยมาเช่าไว้
แต่ไม่ได้พัก
ทุกสิ้นเดือนนำเงินมาจ่ายค่าเช่าเท่านั้น “แต่ตอนนี้เขาเลิกเช่าไปแล้ว และไม่มาอีกเลย”
เป็นคำบอกเล่าของแม่บ้านที่ดูแลหอพัก
ก็สรุปได้ว่าที่ผ่านมาพ่อแม่
ถูกลูกสาวหลอกมาตลอด
สุดท้ายคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องจ้างวานนักสืบต่อ
ให้ติดตามหาลูกสาวว่าไปพักที่ไหนกับใคร
อยู่อย่างไร ทั้งๆที่เขาก็สามารถติดต่อกันได้ เพียงแต่ไม่ยอมบอกความจริง
นี่คือความประสงค์ของพ่อแม่ทุกคน
ที่เป็นห่วงลูก
อีกราย
พ่อแม่มาติดต่อนักสืบเพื่อจ้างวานให้นักสืบติดตามหาลูกชายที่หนีออกจากบ้าน
เพียงแต่พ่อดุ
ไม่ให้ดื่มเหล้า
เพราะใกล้สอบ ลูกชายวัย
18 ปี
หนีออกจากบ้านไม่ยอมไปสอบทั้งที่เป็นเทอมสุดท้าย น่าสงสารที่สุดนะ
(ไม่ใช่ลูก..แต่พ่อแม่ต่างหาก) อุตสาห์ทำเพื่อลูกทุกอย่าง
ทำไมน้า! เด็กสมัยนี้ดุด่า..แม้นกระทั่งตำหนินิดเดียวก็ไม่ได้ ไม่ยอมเชื่อฟังพ่อแม่
ผู้ปกครอง
หาว่าโบราณ..ไม่ทันสมัยจะไปรู้เรื่องอะไรของวัยรุ่น
(ดูมัน....ว่าไปนั่น)
เชื่อเพื่อนโน่น
ไม่ว่าเพื่อนจะจูง(จมูก)ไปทางไหน
ผิด..เลว..ขนาดไหน
ก็เชื่อ!
ยังไม่หมดนะ..ลูกชายวัยอายุ
30 ปี
เรียนไม่จบปริญญาตรี แต่พ่อแม่มีฐานะที่จะส่งเสียได้ ด้วยความที่ถูกตามใจมาตลอด มีเงินใช้
อย่างสบาย
จนติดเป็นนิสัยเคยชิน
จนคิดว่าไม่ต้องเรียนก็มีเงินใช้
อยู่เกาะ..ไปตลอดชีวิตหรือไง
เพียงแต่พ่อแม่ถามเรื่องเรียนมาเมื่อไหร่จะจบซักที(ปริญญาตรี)
เท่านั้นเหล่ะ!
น้อยใจหนีออกจากบ้านเลย
จะบ้าตาย...กับเรื่องแค่เนี้ยะ!
คนอะไรจะอ่อนไหวขนาดนั้น
สุดท้ายพ่อแม่ก็ต้องมาหานักสืบเพื่อให้ติดตามหาลูกชายวัย
30 ปี
กลับมาเพื่อโอ๋ต่อไป
เขาเรียกว่า
“เลี้ยงไม่รู้จักโต”
เอาละค่ะ
ไม่สบายอะไรติดต่อมาหานักสืบได้คะ นักสืบนะคะ
ไม่ใช่หมอดูหรือหมอเดาอะไร
ไม่มั่วแน่นอนคะ!