แรงงานกว่า 80 %มีหนี้เพิ่ม|แรงงานกว่า 80 %มีหนี้เพิ่ม

แรงงานกว่า 80 %มีหนี้เพิ่ม

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

แรงงานกว่า 80 %มีหนี้เพิ่ม

ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวกับแรงงาน ซึ่งม.หอการค้าเผยผลสำรวจ แรงงาน กว่า 80 % มีหนี้เพิ่ม

บทความวันที่ 1 พ.ค. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1038 ครั้ง


แรงงานกว่า 80 %มีหนี้เพิ่ม

แรงงานกว่า 80 %มีหนี้เพิ่ม

 

ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวกับแรงงาน ซึ่งม.หอการค้าเผยผลสำรวจ แรงงาน กว่า 80 % มีหนี้เพิ่ม ไม่มั่นใจหวั่นถูกเลิกจ้าง-กู้เงินนอกระบบมากขึ้น

 

นายธนวรรธน์ พลชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และหอการค้าไทย เปิดเผยว่าถึงผลสำรวจสภาพคล่องของแรงงานไทยจาก 1,212 ตัวอย่าง พบว่าแรงงานรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ต่อเดือน เริ่มมีปัญหา รายได้ลดลง และหาทางออกโดยการเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ

         

ทั้งนี้จากสถิติภาระหนี้ของแรงงานไทยพบ 83.3% มีปัญหาหนี้เพิ่มขึ้น เมื่อจำแนกประเภทของหนี้ที่มาจากการการใช้จ่ายทั่วไป ถึง 63.64% รองลงมาคือหนี้จากการซื้อบ้าน 22.41% รวมถึงมีภาระหนี้จากการซื้อบ้าน 8.93% ภาระที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้แรงงานไทยเป็นหนี้เพิ่มขึ้น

         

โดยแหล่งเงินกู้ที่แรงงานไทยส่วนใหญ่พึ่งพาเงินจากบัตรเครดิต 42.57% รองลงมาก็คือจากญาติ 31.11%,กองทุนหมู่บ้าน 27.31%,ธนาคารพาณิชย์ 22.38%นายทุน 18.65%,เพื่อน/คนรู้จัก 14.11% ซึ่งจากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นคนว่าเริ่มเป็นหนี้นอกระบบมากขึ้นจากเดิม 25-30% คนเป็นหนี้นอกนอกระบบเพิ่มขึ้นถึง 45%

          

ปัญหารายได้ที่ลดลงเกิดจากการลดชั่วโมงทำงานและลดการทำงานล่วงเวลา (OT) ของพนักงานในโรงงานส่วนใหญ่ ระดับการศึกษาชั้นมัธยม สัดส่วน 63% พนักงานดังกล่าวได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อทั้งภายในประเทศและการส่งออกลดลง ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้พนักงานเหล่านี้มีความกังวลเกี่ยวกับความไม่มั่นคงในการทำงาน และยังมีโอกาสตกงานสูง

         

ทั้งนี้ เกิดจากประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความเชื่อมั่นในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่เห็นผลชัดเจน คนยังไม่เชื่อมั่นในปัญหาทางการเมือง

         

นาย ธนวรรธน์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า รัฐบาลควรเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อช่วยกลุ่มพนักงานที่มีรายได้น้อยจะได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยเฉพาะกลุ่มคนมีรายได้ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อเดือน เริ่มขาดการชำระหนี้ จึงควรช่วยด้านการเพิ่มค่าครองชีพของประชาชน โดยการขึ้นอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำอีก 5.6% หรือ เพิ่มขึ้นอีก 7-8 บาท จากเดิม 204-205 บาทต่อวัน ซึ่งจะช่วยพนักงานแล้วยังช่วยชะลอการเลิกจ้างได้

         

ทั้งนี้รัฐบาลควรเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานให้ลดลงกว่าที่คาดว่าจะมีคนตกงานประมาณ 1-1.2 ล้านคน ซึ่งหากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเช็กช่วยชาติ และมาตรการเรียนฟรี 15ปี ที่เริ่มดำเนินการในไตรมาส 2 เริ่มเห็นผล อาจจะช่วยลดจำนวนคนตกงานลงได้ โดยอัตราการว่างงานโดยรวมตั้งแต่เดือนม.ค.-เม.ย.อยู่ที่ 8-9 แสนคน แต่อัตราคนว่างงานลดลงจากเดือนละ 1 แสนคนมาเหลือเพียง 8.5 หมื่นคนในเดือนเมษายน หลังจากที่ผ่านไตรมาส 1 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำที่สุดมาแล้ว

         

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า  มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐจะช่วยให้เศรษฐกิจช่วยเป็นเศรษฐกิจขยายตัว 1-2%จากที่คาดว่าจะติดลบทั้งปีประมาณ 3.5-4.3% แต่สถานการณ์ทางการเมืองยังมีผลต่อความเชื่อมั่นด้านการบริโภคและการท่องเที่ยว แต่หากทุกอย่างฟื้นกลับมาจะทำให้ปัญหาต่างๆ เบาบางลง และฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4 หลังจากที่เริ่มเห็นสัญญาการฟื้นตัวด้านการส่งออกในไตรมาส 3

         

ส่วนการมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐในการตัดภาระด้านการส่งเงินประกันสังคม 6 เดือน จะช่วยชะลอการเลิกจ้างได้ เพราะลดภาระของนายจ้างและลูกค้า ในขณะที่ภาครับไม่เสียอะไร และหากรัฐมีแผนใช้เงินควรเตรียมมาตรการรองรับ

ขอขอบคุณ รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก