นิโรธ เจริญประกอบ เดินหน้าแก้สัญญา บัตรเครดิต |นิโรธ เจริญประกอบ เดินหน้าแก้สัญญา บัตรเครดิต

นิโรธ เจริญประกอบ เดินหน้าแก้สัญญา บัตรเครดิต

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

นิโรธ เจริญประกอบ เดินหน้าแก้สัญญา บัตรเครดิต

ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวกับนายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค

บทความวันที่ 15 มิ.ย. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1035 ครั้ง


นิโรธ เจริญประกอบ เดินหน้าแก้สัญญา บัตรเครดิต 

 

ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวกับนายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค มีงานเข้าไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงนี้เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิตค่อนข้างโดดเด่น ภายใน 5 เดือนแรกปีนี้มีเข้ามา 217 ราย


ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการหักหนี้สุดโหดของสถาบันการเงินและผู้ออกบัตรเครดิต โดยใช้วิธีหักเงินจากบัญชีลูกค้าที่ถือบัตรกรณีขาดชำระหนี้ นอกจากนี้ยังคิดค่าปรับหากชำระเงินล่าช้า แม้เพียงวันเดียวก็โขกค่าปรับสูงถึงวันละ 200-250 บาท อย่างนี้เป็นต้น


นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวการต้มตุ๋นหลอกลวงระบาดหนัก เช่น กรณีส่งเอสเอ็มเอส และอี-เมล์ แจ้งว่าได้รับเงินรางวัลพิเศษขอให้ติดต่อกลับ จนเสียรู้ เสียเงินให้กับแก๊งต้มตุ๋น หรือล่าสุดบริษัทประกันขายบริการผ่านทางโทรศัพท์ หรือผ่านการส่งข้อความเอสเอ็มเอส ซึ่งสร้างความรำคาญให้กับผู้บริโภค


ในบรรดาเรื่องร้องเรียนทั้งหลาย "นิโรธ" ให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของผู้ถือบัตรเครดิตเป็นลำดับต้นๆ เพราะลูกค้าบัตรเครดิตเป็นมนุษย์เงินเดือน คนเมือง โดยบรรจุวาระแก้ไขสัญญาบัตรเครดิตเป็นวาระแรก ในการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาที่จะขึ้นเร็วๆนี้


แต่กระนั้น "นิโรธ" บอกว่า เรื่องนี้อาจจะต้องใช้เวลา นับจากคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาไปศึกษาและหาแนวทางในการเกี่ยวกับการทำสัญญาใหม่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถือบัตรเครดิต


เมื่อได้สัญญาใหม่มาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของ สคบ.ที่ต้องจัดสัมมนาฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินหรือผู้ออกบัตร และผู้บริโภค


ดังนั้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในยุคเศรษฐกิจขาลง "นิโรธ"หันมาเน้นนโยบายการดำเนินงานเชิงป้องกัน ด้วยการสร้างเครือข่าย ซึ่งขณะนี้ สคบ.มีการกระจายอำนาจลงไปสู่ระดับท้องถิ่น


ในวันนี้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุกตำบล และเทศบาลทุกแห่งทั่วประเทศ มีคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคอยรับเรื่องราวร้องทุกข์ และพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคในท้องถิ่นให้ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ บนมาตรฐานเดียวกับการร้องเรียนผ่าน คคบ. ส่วนกลาง


อย่างไรก็ตาม งานเร่งด่วนของ "นิโรธ" กับภารกิจนี้คือทำอย่างไรให้ คคบ.ที่ประจำทุกตำบล และเทศบาล มีมาตรฐานการวินิจฉัยคดีได้เทียบเท่ากับ คคบ.ส่วนกลาง ในขณะที่งบประมาณในการจัดประชุมเพื่อให้ความรู้มีค่อนข้างจำกัด ทางออกที่พอมองเห็นช่องก็คือต้องประสานความร่วมมือไปยังกรมการปกครอง ขอให้ สคบ.ได้เข้าไปร่วมให้ความรู้กับ อบต. ด้วยคน


หากสามารถทำได้ต่อไปผู้บริโภคไทยมีภูมิคุ้มกันแข็งแรง ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการที่คิดเอาเปรียบ


สำหรับ "นิโรธ" จัดเป็นลูกหม้อของ สคบ. เริ่มทำงานตั้งแต่ สคบ.ก่อตั้งขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน กระทั่งเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 คณะรัฐมนตรีรัฐบาล "สมัคร สุนทรเวช" ได้มีมติแต่งตั้ง "นิโรธ" ซึ่งขณะนั้นกำลังดำรงตำแหน่ง "รองเลขาธิการ" คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ขยับขึ้นมานั่งเก้าอี้ "เลขาธิการ" แทน "รัศมี วิศทเวทย์" ที่เกษียณอายุราชการไป ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา
 

ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

 

 

 

 

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก