ข่าวทนายคลายทุกข์วันนี้เป็นการเตือนภัยเกี่ยวกับกรณีถูกนำชื่อไปทำบัตรเครดิตและนำไปรูดซื้อสินค้า
บทความวันที่ 24 มิ.ย. 2552, 00:00
มีผู้อ่านทั้งหมด 11102 ครั้ง
ตุ๋นดารา!! ตุ๊กตา-ดา อ่วม โดนเอาชื่อทำบัตรรูดถอยเบนซ์นับล้าน
ข่าวทนายคลายทุกข์วันนี้เป็นการเตือนภัยเกี่ยวกับกรณีถูกนำชื่อไปทำบัตรเครดิตและนำไปรูดซื้อสินค้า จับสาวใหญ่หลอกเอาชื่อ "ตุ๊กตา อุบลวรรณ" -"ดา ชฎาพร" ดาราชื่อดังไปทำบัตรเครดิต ก่อนเอาไปรูดซื้อรถเบนซ์-รถยนต์ฟอร์ดมูลค่ากว่า 6 ล้าน พร้อมรูดซื้อสินค้าหรูหลายชิ้น แบงก์-ไฟแนนซ์ทวงหนี้แทบช็อกเป็นหนี้หลายล้านบาท โร่แจ้งตำรวจตามรวบ เจ้าตัวอ้างดาราสาวทั้งสองรู้เรื่องทั้งหมด เตรียมฟ้องกลับ
เหตุการณ์สาวใหญ่ถูกตำรวจจับกุมหลังจากแอบอ้างชื่อของอดีตดาราสาว และดีเจ-นักแสดงชื่อดังไปทำบัตรเครดิตก่อนสร้างหนี้ให้แก่ดาราสาวทั้งคู่หลายล้านบาทเปิดเผยเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 23 มิถุนายน ที่กองบังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปศท.) พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.วัชรพล ทองล้วน รองผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม (รอง ผกก.ปพ.บก.ป.) พร้อมกำลังจับกุม น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ หรือเจมส์ อัครวงศ์ตระกูล หรือ อลิสา เจริญผล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 336 หมู่ 4 ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1724/2552 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2552 ข้อหา เอาไปซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, ใช้บัตรอีเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น และข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าสำนักงานเขตวังทองหลาง
น.ส.อุบลวรรณ บุญรอด หรือ "ตุ๊กตา อุบลวรรณ" อายุ 30 ปี ดาราสาว และดีเจชื่อดังจากคลื่นลูกทุ่งมหานคร เอฟเอ็ม 95 ผู้เสียหายในคดีนี้ เปิดเผยว่า รู้จักกับน.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อ 7 ปีก่อน โดย น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ อ้างว่า จะจ้างไปโชว์ตัว จากนั้นได้แลกเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกัน ตอนนั้นเห็นว่า อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงเช่นกันไม่น่าจะมีพิษมีภัยจึงติดต่อกันมาตลอด ต่อมาได้นัดพบกัน โดย น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ บอกว่า เคยเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมีรายได้นับร้อยล้านบาท แต่ภายหลังถูกหุ้นส่วนโกง ทำให้ธุรกิจประสบปัญหาต้องมาเช่าห้องพักอยู่กับมารดาที่แก่ชรามากแล้ว รู้สึกสงสารจึงให้ความช่วยเหลือด้วยการให้ น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ มาเป็นผู้จัดการส่วนตัว และให้เงินค่าตอบแทนเป็นครั้งคราว แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท
น.ส.อุบลวรรณ กล่าวต่อว่า ด้วยความไว้ใจเมื่อได้รับเช็คค่าจ้างก็จะให้ น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ เก็บไว้หรือนำไปเข้าบัญชีที่ธนาคารให้ และไม่คิดว่าจะถูกนำเอาบัตรประชาชน และเอกสารต่างๆ ที่ลงลายมือชื่อไว้ใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ไปทำบัตรเครดิตถึง 5 ใบ ก่อนนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการต่างๆ เช่น ซื้อรถเบนซ์ ทำให้มีหนี้สินประมาณ 2 ล้านบาท แต่มาทราบเรื่องเพราะธนาคารเจ้าของบัตรมีเอกสารตามทวงหนี้มาถึง แต่หลังจากทราบเรื่อง น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์หลบหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้
"ตุ๊กตาไม่คิดว่าเราคบกันมาปีกว่าๆ เขาจะกล้าทำกับเราขนาดนี้ แม่ของตุ๊กตาก็ให้ความเมตตากับเขาคอยดูแลเอาใจใส่และคอยเป็นห่วงเป็นใยแม่ของเขาที่อายุมากแล้ว แต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นตุ๊กตาปรึกษาทนายเพื่อสู้คดีเพราะหนี้สินจากบัตรเครดิตต่างๆ นั้นถูกนำเอกสารไปใช้ทำบัตรเท่านั้น บางธนาคารก็ยอมเจรจาด้วยแต่บางแห่งไม่ยอม ยึดตามเอกสารโดยอ้างว่าเอกสารที่ใช้ถูกต้อง จึงจำต้องยอมรับสภาพหนี้" ตุ๊กตา กล่าว
ดาราสาวกล่าวอีกว่า หลังจากทยอยใช้หนี้บัตรเครดิตทั้งหมดแล้ว ต่อมายังมีธนาคารอีกแห่งแจ้งว่า มีหนี้สินอีก 2 แสนบาทจึงทนไม่ไหวเพราะไม่รู้ว่าทางผู้ต้องหายังจะนำเอกสารต่างๆ ไปก่อหนี้ที่ไหนอีกหรือไม่ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย และออกหมายจับไว้ ต่อมาตำรวจกองปราบปรามแจ้งว่าสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วจึงเดินทางมาชี้ตัว
ด้าน น.ส.ชฎาพร รัตนากร หรือ ดา อดีตดาราสาวคนดัง กล่าวว่า รู้จักกับผู้ต้องหามาหลายปี แต่ช่วง 2 ปีหลังผู้ต้องหาบอกว่า กำลังถูกตามทวงหนี้ จึงมาขอยืมเงินเป็นจำนวน 1.3 ล้านบาท ซึ่งได้ให้ไป นอกจากนี้ยังถูกเอาชื่อไปใช้ในการซื้อรถเบนซ์ และรถยนต์ฟอร์ด รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท แต่กลับถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องมีหมายศาลมาถึง ทำให้ทราบเรื่องทั้งหมด จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา
ขณะที่ น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ ผู้ต้องหากล่าวว่า ขณะนี้ทำงานอยู่บริษัทรับออกแบบตกแต่งบ้านและสำนักงานแห่งหนึ่งย่านภูเขาทอง โดยคบหาเป็นเพื่อนกับ "ดา" ชฎาพร มานานนับ 10 ปี ก่อนจะมาสนิทสนมกับ "ตุ๊กตา" อุบลวรรณ เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนคดีความที่เกิดขึ้นนั้นยืนยันว่า ทั้งสองรับรู้เป็นอย่างดีว่า จะนำเงินหรือนำบัตรเครดิตไปใช้อะไร และระหว่างที่คบหากันก็ให้อะไรกับดาราสาวทั้งสองหลายอย่าง ส่วนเรื่องที่ตุ๊กตาบอกว่าคอยดูแลแม่และครอบครัวนั้นไม่เป็นความจริง เรื่องนี้คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล และก็เตรียมฟ้องกลับในข้อหาแจ้งความเท็จเช่นกัน
ทั้งนี้ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้นำตัว น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีต่อไป
ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
