ระเบียบฯ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2554 เรื่อง การเพิ่มชื่อ การถอนชื่อ
ส่วนที่ 4
การเพิ่มชื่อ การถอนชื่อ
1. การเพิ่มชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ข้อ 56 กรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือเจ้าบ้านผู้ใดเห็นว่า ตนหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของตนไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ของหน่วยเลือกตั้งที่ตนหรือผู้นั้นสมควรมีชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งนั้น ให้นำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นใดที่ทางราชการออกให้มายื่นคำร้องตามแบบ ส.ส. 12 ต่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่น ซึ่งทำการแทนคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งนั้นตั้งอยู่ในเขตรับผิดชอบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวัน
เมื่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นได้รับคำร้องและหลักฐานแล้ว หากพิจารณาเห็นว่าผู้ยื่นคำร้องหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้เพิ่มชื่อผู้ยื่นคำร้องหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ด้วยวิธีพิมพ์ชื่อเพิ่มเติมต่อใบสุดท้ายของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ของหน่วยเลือกตั้งนั้น พร้อมบันทึกสาเหตุของการเพิ่มชื่อไว้ในช่องหมายเหตุและลงลายมือชื่อวันเดือนปีกำกับไว้ในกรณีนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ยื่นคำร้องหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ขอเพิ่มชื่อเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้สั่งยกคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมทั้งแสดงเหตุผลและแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
ข้อ 57 ในกรณีผู้ยื่นคำร้องที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นตามข้อ 56 วรรคสาม แล้วไม่เห็นชอบด้วย ผู้ยื่นคำร้องมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่หรือต่อศาลแพ่งสำหรับผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานครก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าห้าวันเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยว่าจะให้เพิ่มชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ตามที่ยื่นคำร้องหรือไม่โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนการพิจารณา
ข้อ 58 ในกรณีที่นายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่น ได้รับคำสั่งของศาลให้เพิ่มชื่อบุคคลใดในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น ด้วยวิธีพิมพ์ชื่อเพิ่มเติมเช่นเดียวกับข้อ 56 วรรคสอง
2. การถอนชื่อผู้ซึ่งไม่มีสิทธิเลือกตั้งออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ข้อ 59 กรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดเห็นว่าในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ของหน่วยเลือกตั้งมีผู้ซึ่งไม่มีสิทธิเลือกตั้งปรากฏอยู่ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นยื่นคำร้องขอถอนชื่อ ตามแบบส.ส. 12 ผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ต่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่น ซึ่งทำการแทนคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งนั้นตั้งอยู่ในเขตรับผิดชอบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวัน
เมื่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นได้พิจารณาคำร้องแล้ว เห็นว่ามีหลักฐานพอเชื่อได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้สั่งถอนชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยให้ดำเนินการขีดฆ่าชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมบันทึกสาเหตุของการถอนชื่อไว้ในช่องหมายเหตุและลงลายมือชื่อวันเดือนปีกำกับไว้แล้วให้แจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องและเจ้าบ้านทราบ
ในกรณีนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ถูกขอถอนชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้สั่งยกคำร้องพร้อมทั้งแสดงเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรและแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องและเจ้าบ้านทราบภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
ข้อ 60 ในกรณีผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นตามข้อ 59 แล้วไม่เห็นชอบด้วย ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ หรือต่อศาลแพ่งสำหรับผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานครก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าห้าวันเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยว่าจะให้ถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ตามที่ยื่นคำร้องหรือไม่ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนพิจารณา
ข้อ 61 กรณีที่เจ้าบ้านเห็นว่าในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งปรากฏชื่อบุคคลอื่นอยู่ในทะเบียนบ้านของตนโดยที่บุคคลนั้นมิได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวจริง ให้เจ้าบ้านนำสำเนาทะเบียนบ้านไปแสดงเป็นหลักฐานต่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวันหรือนำหลักฐานดังกล่าวไปแสดงต่อคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งในวันเลือกตั้งเมื่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่น หรือคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งแล้วแต่กรณี พิจารณาแล้วเห็นว่าบุคคลนั้นมิได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวจริง ให้มีคำสั่งถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ในการถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ใช้วิธีขีดฆ่าชื่อออกพร้อมบันทึกสาเหตุของการถอนไว้ในช่องหมายเหตุและลงลายมือชื่อวันเดือนปีกำกับไว้
ในกรณีที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งมีคำสั่งถอนชื่อบุคคลใดออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งนั้น ให้บันทึกการถอนชื่อไว้ในสมุดรายงานเหตุการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้ง(ส.ส. 25) ด้วย
ข้อ 62 ในกรณีที่นายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นได้รับคำสั่งศาลให้ถอนชื่อบุคคลใดออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ดำเนินการตามนั้นด้วยวิธีขีดฆ่าชื่อออกเช่นเดียวกับข้อ 61 วรรคสาม
ข้อ 63 การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ กรณีที่สันนิษฐานว่าเป็นการย้ายบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปซึ่งไม่มีชื่อสกุลเดียวกับเจ้าบ้านเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายในสองปีนับแต่วันที่ย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้านตามมาตรา 33 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 จะต้องเป็นกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) เป็นการแจ้งย้ายเข้าทะเบียนบ้านในคราวเดียวกันหรือหลายคราวในระยะเวลาใกล้เคียงกัน
(2) เป็นการแจ้งย้ายที่อยู่เข้ามาในบ้านหรืออาคารที่มีขนาดพื้นที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม ตามที่กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขกำหนดไว้ว่าจะต้องมีพื้นที่อยู่อาศัยไม่ต่ำกว่าสามตารางเมตร ต่อหนึ่งคน
กรณีตาม (1) และ (2) ต้องไม่เป็นการแจ้งย้ายที่เกิดจากการรณรงค์ และการจัดทำโครงการของทางราชการเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรให้มีชื่อ และรายการบุคคลตรงตามสถานที่ที่อยู่อาศัยจริงซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาประชากรแฝง
ส่วนที่ 5
การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ข้อ 64 ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลใดและได้แจ้งคำพิพากษาถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งนายทะเบียนกลางเพื่อหมายเหตุ การถูกเพิกถอนสิทธิไว้ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ข้อ 65 ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งบุคคลใดแล้วให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งนายทะเบียนกลางเพื่อหมายเหตุการถูกเพิกถอนสิทธิไว้ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามวรรคหนึ่งไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง
ทราบทันที ตามแบบ ส.ส. 13
ข้อ 66 เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้รับแจ้งรายชื่อบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามข้อ 65 วรรคสอง แล้วให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจัดทำประกาศการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามแบบ ส.ส. 14 และจัดส่งให้นายอำเภอและปลัดเทศบาลปิดประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเทศบาลโดยเร็ว
ข้อ 67 กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้ประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ตามข้อ 53 แล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง หรือผู้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งมอบหมาย ตรวจสอบว่ามีชื่อของบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งในประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) หรือไม่ หากมีชื่อของบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแต่ไม่มีบันทึกหมายเหตุการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งให้แจ้งนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น
ขีดฆ่าชื่อบุคคลดังกล่าวออกจากประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 10) ชุดที่หก ชุดที่เจ็ดและชุดที่แปด โดยให้ระบุข้อความในช่องหมายเหตุว่า “ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง” และลงลายมือชื่อวันเดือนปีกำกับไว้