ซื้อของคิดราคาผิดทวงคืนได้หรือไม่|ซื้อของคิดราคาผิดทวงคืนได้หรือไม่

ซื้อของคิดราคาผิดทวงคืนได้หรือไม่

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ซื้อของคิดราคาผิดทวงคืนได้หรือไม่

ไปซื้อของที่ร้านทองมาชิ้นหนึ่ง แต่ทางร้านคิดราคาให้ผิด

บทความวันที่ 17 ก.พ. 2555, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 14273 ครั้ง


ซื้อของคิดราคาผิดทวงคืนได้หรือไม่

     
          ไปซื้อของที่ร้านทองมาชิ้นหนึ่ง  แต่ทางร้านคิดราคาให้ผิด  แล้วทางร้านไม่ได้ออกใบเสร็จรับเงินใดๆ เลย  และไม่มีรายเซ็นของผู้ซื้อเลย  ไม่มีใบเสร็จรับเงินด้วย  ซื้อขายกันด้วยวาจาแล้วก็จ่ายเงิน  ทางร้านเป็นคนคิดเงินเองอยากทราบว่า  ทางร้านมีสิทธิมาทวงของคืนไหม


คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
         1.การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ซึ่งตกลงกันเป็นราคาไม่ถึง 20,000 บาท แม้มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญหรือได้วางมัดจำไว้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว ก็สามารถฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ ไม่อยู่ในบังคับแห่ง ป.พ.พ.มาตรา 145 วรรคสาม
         2. แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงตามปัญหาของท่านไม่ปรากฎให้เห็นได้อย่างแน่ชัดว่าที่ทางผู้ขายคิดราคาทรัพย์สินที่ขายเป็นจำนวนขาดหรือเกินไปอย่างไร แต่เมื่อพิจารณาประกอบจากการที่ท่านมีข้อข้องใจว่าผู้ขายจะมีสิทธิมาเรียกร้องทวงทรัพย์สินที่ขายคืนจากท่านผู้ซื้อได้หรือไม่ จึงต้องสันนิษฐานโดยเชื่อได้ว่าผู้ขายคิดราคาขาดไปจากที่ตกลงกัน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ท่านได้มาซึ่งส่วนต่างแห่งมูลค่าของทรัพย์สินที่ขาย อันเป็นการซื้อทรัพย์สินมาโดยราคาที่น้อยกว่าจากการที่ผู้ตกลงซื้อขายกัน โดยผู้ขายไม่ได้สมัครใจยินยอมด้วย จึงเป็นการที่ท่านได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ซื้อขายตามมูลค่า ส่วนต่างที่ผู้ขายไม่ได้รับชำระราคาด้วยเหตุที่ผู้ขายกระทำการส่งมอบทสินค้าที่ชายเพื่อชำระหนี้นั้น โดยท่านได้มาปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้ผู้ขายนั้นเสียเปรียบ ผู้ขายมีสิทธิเรียกให้ท่านจ่ายค่าส่วนต่างแห่งราคาสินค้าที่ยังไม่ได้รับชำระฐานลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 406 วรรคแรกนั้นได้ นอกจากนี้ ท่านอาจถูกผู้ขายฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาฐานฉ้อโกงกับท่าน ตามความ ป.อ.มาตรา 341 ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ช่วงบ่ายไปซื้อแหวนมาจากร้านเพชรในราคาที่ทางร้านขายให้ซึ่งมีโปรโมชั่นลด70% คิดเป็นเงินแล้ว31500บาท

มีใบเสร็จ เซ็นชื่อผู้ซื้อผู้ขายเรียบร้อย เรากลับบ้านไป รุ่งเช้าของวันถัดมาเราใช้แหวนดังกล่าวเข้าพิธีหมั้นเสร็จเรียบร้อยในเวลาสิบโมงเช้า พอถึงช่วงเย็นในวันเดียวกันประมาณสี่โมง ทางร้านโทรมาบอกว่าแหวนที่เราซื้อมามันไม่ใช่ราคา31500บาท ซึ่งเราต้องจ่ายค่าต่าง26000เพิ่มให้กับทางร้านหากเรายืนยันที่จะเอาแหวนวงนั้น หรือทางร้านขอแหวนคืนและยินดีคืนเงินให้ในจำนวนเต็ม31500บาทที่เราซื้อมา แต่เราได้บอกกับทางร้านไปว่า แหวนเราเอาเข้าพิธีหมั้นไปแล้วคงคืนให้ทางร้านไม่ได้ และกรณีที่ทางร้านต้องการให้จ่ายส่วนต่างอีก26000นั้นเราเห็นว่ามันไม่ใช่ความผิดของเราและเราไม่ต้องจ่าย เนื่องจากทางร้านบอกมาว่า แทคราคาที่ติดยุกับแหวนที่เราซื้อมา จริงๆแล้วทางร้านได้ติดสลับกันกับแหวนอีกวงนึง(การสลับแทคราคาเกิดขึ้นก่อนที่เราจะไปซื้อ สลับป้ายราคาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบอีกเช่นกัน) ในส่วนของวันที่เราไปซื้อแหวนนั้น ราคาที่ติดยุกับแหวนเมื่อหัก70%ออก ก็เท่ากับ31500ที่เราตกลงซื้อขายกัน ซึ่งตัวดิฉันไม่มีความรู้เรื่องเพชรมาก่อน พนักงานเสนอขายวงนี้ ราคานี้ ลดราแล้ว เหลือเท่านี้ เราโอเค แฮปปี้ พนักงานแฮปปี้ เขียนใบเสร็จให้กัน แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ทางผู้จัดการร้าน และเจ้าของบริษัท ติดต่อกลับมาโดยอ้างถึงการผิดสำคัญในราคาสินค้าและทรัพย์มิควรได้ โดยส่งหนังสือของบริษัทไปที่บ้านฉบับแรกขออภัยถึงความผิดพลาด และขอความกรุณาให้เรานำแหวนไปคืนภายในสิบวัน หากไม่ไปจ่ายส่วนต่างหรือคืนสินค้า ทงร้านขอดำเนินคดีกับเรา ซึ่งตอนนี้เราสงสัยมากว่าทำไมทางร้านทำให้ดิฉันดูเหมือนเป็นคนผิด ทั้งๆที่ความผิดทั้งหมด มาจากตัวคนติดราคา(ซึ่งไม่รู้ว่าใครและติดราคาสลับวงมาตั้งแต่เมื่อไหร่) ในวันที่พนักงานโทรมาบอกเราว่าขายแหวนผิดไปนั้น พนักงงานได้บอกกับเราว่า หากเราไม่คืนหรือไม่พอใจ พนักงานคนที่ขายแหวนวงนั้นจะต้องจ่ายชดเชยเงิน26000บาทดังกล่าว ซึ่งในสายตาเรา เรามองว่าก็สมเหตุสมผลแล้ว ความผิดเค้า ไม่ใช่เรา และอีกอย่างเราใช้แหวนเข้าพิธีหมั้นไปแล้ว. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจดหมายฉบับที่2จากทางร้านได้ส่งมาที่บ้านอีกรอบรายละเอียดอ้างถึงจดหมายฉบับแรกที่ได้แจ้งมา และว่าเราเพิกเฉย และขอดำเนินคดีกับเรา. คำถามหลักๆคือ ดิฉันต้องทำอย่างไร? ทั้งหมดนี้ดิฉันเป็นคนผิด? สรุปพนักงานขายก็ไม่ได้จ่ายชดเชยสินค้าเนื่องจากการสับเพร่าของพนักงานเอง. ซึ่งตอนนี้ดิฉันอยู่ต่างประเทศ และกังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากดิฉันมีความรู้สึกเหมือนโดนข่มขู่จากทางร้านเพชรว่าจะเอาตัวดิฉันดำเนินคดีอย่างเดียว จะออกหมายจับบ้างอะไรบ้าง. เค้าทำได้ด้วยเหรอค้ะ? นี่เราผิดจริงๆเหรอ? 

โดยคุณ พลอย 27 ธ.ค. 2560, 19:58

ตอบความคิดเห็นที่ 1

1.กรณีดังกล่าวเป็นนิติกรรมการซื้อขายสินค้า การที่ผู้ขายติดป้ายราคาสลับกัน จนเป็นเหตุให้ขายสินค้าให้กับผู้ซื้อไปในราคาที่ไม่ตรงกับสินค้าที่ต้องการจะขาย กรณีดังกล่าว หากเป็นความสำคัญผิด แต่ก็น่าจะเป็นความสำคัญผิดที่เกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้ขายเอง ตามมาตรา 158 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ขายจะถือเอาความสำคัญผิดนั้นมาใช้เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตนมิได้ 

2.หากท่านถูกฟ้องดำเนินคดี ท่านไม่ต้องตกใจ แนะนำให้ท่านนำหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องเข้าพบทนาย เพื่อปรึกษาและได้รับคำแนะนำต่อไป 


โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 26 ม.ค. 2561, 15:15

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก