ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวสคบ.ยืมดาบธปท. สั่งธนาคารห้ามหักเงินบัญชีเงินฝาก

บทความวันที่ 22 ก.ค. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 10620 ครั้ง

สกัดแบงก์หักบัญชีลูกค้า 

          ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวเกี่ยวสคบ.ยืมดาบธปท. สั่งธนาคารห้ามหักเงินบัญชีเงินฝากลูกหนี้ ล้างหนี้บัตรเครดิต

         นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ. ได้ทำหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อแจ้งไปยังธนาคารพาณิชย์ให้ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) ให้ยุติการหักเงินจากบัญชีเงินฝากลูกค้า เพื่อการชำระหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล จนกว่าจะพิสูจน์ว่าผู้บริโภคมีความผิดจริง หรือผ่านกระบวนการยุติธรรมก่อน 
       นอกจากนั้น ขณะนี้คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาอยู่ระหว่างการออกประกาศว่าด้วยสัญญาที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการให้บริการธุรกิจบัตรเครดิตเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นจะเพิ่มสัญญาห้ามไม่ให้ธนาคารพาณิชย์กำหนดข้อความ ที่มีลักษณะการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยเฉพาะการกำหนดเงื่อนไขให้ ผู้ถือบัตรทำหนังสือยินยอมให้ธนาคารมีอำนาจหักเงินจากบัญชีเงินฝาก ที่ผู้ถือบัตรมีอยู่กับธนาคารมาชำระหนี้บัตรเครดิตในทันที

       “สคบ. จะมีการเชิญผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมาระดมความคิดเห็นอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการประกาศใช้” นายนิโรธกล่าว

         นายนิโรธ ยืนยันว่าเงื่อนไขในสัญญาทำบัตรเครดิตที่ให้ธนาคารสามารถหักเงินจากบัญชีเงินฝาก เพื่อการชำระหนี้ทันทีนั้น มีผลให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งต้องปฏิบัติ หรือรับภาระเกินกว่าที่จะคาดหมายได้ตามปกติ เนื่องจากการไม่ชำระหนี้บัตรเครดิตอาจมีสาเหตุหลายประการ เช่น บัตรสูญหาย บัตรถูกลักขโมย ซึ่งยังไม่ได้พิสูจน์ความรับผิด

        ประกอบกับเป็นการใช้ข้อสัญญา ที่เลี่ยงกระบวนการยุติธรรมโดย ไม่ไปใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลเพื่อพิสูจน์ความผิดก่อน และเป็นการกำหนดข้อสัญญาที่ให้ผู้บริโภค ต้องรับผิด หรือรับภาระมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจทำให้ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540

        นอกจากนี้ สคบ.ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับการคิดค่าธรรมเนียมการติดตามทวงหนี้ที่สูงมาก ซึ่งสคบ.ทำหน้าเป็นตัวกลางที่ประสานให้มีการไกล่เกลี่ยกัน รวมถึงส่งเรื่องต่อไปยังธปท. ในฐานะที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อพิจารณาประเด็นปัญหาดังกล่าว ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายติดตามหนี้ที่เป็นธรรม ก็จะนำประเด็นค่าธรรมเนียมการทวงหนี้ไปหารือด้วย

        รวมทั้งยังได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับการให้บริการสถานออกกำลังกาย (ฟิตเนส) มีสัญญาเอาเปรียบจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตชำระเงิน ซึ่งยังไม่มีการเซ็นสัญญาเพียงแต่บอกเลขบัญชี แต่กลับถูกคิดอัตราบริการทั้งปีและมีการต่อสัญญาอัตโนมัติ ทั้งที่ลูกค้ายังไม่ยินยอม ซึ่งเมื่อลูกค้ายกเลิกสัญญาและแจ้งให้ธนาคารพาณิชย์เจ้าของบัตรเครดิตระงับการจ่ายเงิน แต่ธนาคารก็ยังคงมีการเรียกเก็บเงินทั้งก้อน

         สำหรับแนวทางการแก้ไขนั้น สคบ.อยู่ระหว่างการออกประกาศ ให้ฟิตเนสเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา เพื่อกำหนดสัญญาที่เป็นธรรมกับ ผู้บริโภค

 ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์