หนุ่มวิศวกรรม   ไม่แน่ใจในพฤติกรรมของเมีย คิดไปเองไหม?

บทความวันที่ 2 มี.ค. 2561, 09:47

มีผู้อ่านทั้งหมด 2004 ครั้ง

 เพื่อนหรือแฟน

    หนุ่มวิศวกรรม   ไม่แน่ใจในพฤติกรรมของเมีย คิดไปเองไหม?  เขานำปัญหาครอบครัวไปเล่าให้เพื่อนสนิทสาวฟัง   “ถ้าไม่สบายใจไปหานักสืบกุ้งมั้ย” เขาตอบตกลงได้เบอร์มาโทรทันที  “คุณกุ้งอยู่แถวไหนเย็นนี้ว่างมั้ยครับ ผมจะเข้าไปปรึกษา” เรื่องอะไรค่ะ” “ภรรยา” “งั้นเชิญมาที่สำนักงานนะคะ”  เย็นวันนั้นประมาณสองทุ่มเศษ หนุ่มวัย 40 ปีเศษ พร้อมเพื่อนคนสนิท เข้ามาที่สำนักงาน แนะนำตัวกันนิดหน่อย     เขาเล่าปัญหาครอบครัวให้ฟัง  เขาและเธอแต่งงานไม่นานเธอตั้งท้อง เธอลาออกจากงานเพื่อเตรียมตัวเลี้ยงลูกที่จะกำลังจะเกิด  เธอเลี้ยงลูกสาวอยู่บ้านอายุ 3 ขวบลูกสาวเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาล เธอมีหน้าที่รับ-ส่งไปโรงเรียนแต่มีคนขับรถ ส่งลูกเสร็จกลับบ้าน เย็นรับลูก  บ้านไกลเสียเวลาเดินทางไปกลับ สีลม –รังสิต เธอหากิจกรรมทำโดยการไปสมัครฟิตเนส  ใกล้กับโรงเรียนลูก   เธอจะเข้าคลาสโยคะทุกวัน จนชื่นชอบกับโยคะ  เธอเล่นโยคะวันละชั่วโมง ทำให้สนิทกับครูสอนโยคะหนุ่มคนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ  เธอจะปรึกษาครูหนุ่มตลอด แต่ก็เล่าให้สามีฟังด้วยว่าเรียนกับเทรนเนอร์หนุ่มคนนี้ แนะนำวิธีการเล่นต่างๆเธอได้ติดตามครูไปเรียนคลาสนอกสถานที่ด้วย  ทุกเช้าคนขับรถจะมาส่งเธอและลูกที่โรงเรียน  แวะส่งเธอที่ห้างสรรพสินค้าในกลางใจเมืองทุกเช้า เพื่อเข้าคลาสโยคะ  เย็นคนขับรถมารับกลับบ้านพร้อมลูกสาว ชีวิตเหมือนไม่มีช่องว่าง   ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอยู่ตรงไหนเธอจะรายงายสามีเป็นระยะ แต่ช่วง2-3 ปีที่ผ่านมาเหมือนการตอบสนองการสนทนาทาง line จะช้าลง ไม่ตอบในทันที ทุกครั้งเธอจะบอกเข้าคลาสอยู่ ถึงบ้านปกติวางโทรศัพท์ทิ้งเลยไม่สนใจ ก็กลายเป็นคนติดโทรศัพท์ ปกติเป็นคนประหยัดไม่ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย เธอเผลอวางสมุดบัญชีไว้ สามีแอบเปิดดู เงินหายไปหลายแสน เธออ้างว่าเพื่อนยืม ... กลางวันสามีส่งข้อความถาม “ทำไรอยู่กินข้าวยัง” เธอบอกไม่หิว จะกินเย็นที่บ้านที่เดียว  “วันนึงบังเอิญเพื่อนผมไปเดินที่ห้างฯ” ไปเจอเธอนั่งกินอาหารในฟาสต์ฟู้ดกับผู้ชาย”    ผมโทรทันทีว่าอยู่ไหน “นั่งอ่านนั่งสือร้านหนังสือ” เธอโกหก หลังจากนั้นเขาได้หาข้อมูลเกี่ยวกับชาย ได้ความว่าชายต่างชาติคนนี้คือครูสอนโยคะ  ...ต่อมาไม่นานเธอบอกว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา 3 วัน โชคดีหรือร้ายไม่รู้บัตรเครดิตที่เธอรูดไปนั้น “มันส่งข้อความมาที่มือผม..บัตรเสริมครับ” แจ้งชำระค่าบริการโรงแรม  แบบนี้ก็นั่งไม่ติดสิ !ซื้อตั๋วบินไปเชียงใหม่ทันที ไปถึงโรงแรมด้วยความใจร้อนไปถามหาคนชื่อ....เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกไม่ได้เป็นความลับลูกค้า แต่กดโทรศัพท์ขึ้นไปยังห้องบอกเธอว่ามีคนมาหา เธอรีบหนีออกด้านหลัง “กว่าผมจะขึ้นไปได้..เธอออกจากโรงแรมไปแล้ว” ไม่เหลืออะไรในห้อง  เธอกลับกรุงเทพทันที เธอไม่ยอมรับว่ากับชายเพราะไม่มีหลักฐาน เขาทำอะไรไม่ได้ ปล่อยเวลาผ่านไปอีกสองเดือนเขาไปหาข้อมูลที่คอนโดของชาย แม่บ้านบอกว่าเห็นเธอมาทุกวันช่วงสายๆจะกลับบ่ายๆ เขาแอบซุ่มดูเห็นภรรยาเดินออกจากคอนโดพร้อมครูสอนโยคะหนุ่ม แต่กริยาไม่มีอะไรพิเศษต่างคนต่างเดิน  ถึงบ้านเขาถามทันทีแต่เธอไม่ยอมรับว่าไปที่นั่น จนเขาเอาหลักฐานที่แอบถ่ายมาโชว์ เธอบอกข้างบนเป็นห้องเรียนโยคะ ....ฟาวอีกเช่นเคย! เขาทำอะไรไม่ได้อีกเช่นเคย เมื่อได้รับตอบแบบนั้นและสภาพห้องก็ไม่เห็น ปักปร่ำเธอไม่ได้   ด้วยความไม่สบายใจอย่างหนัก  มาหานักสืบ เพราะต้องการให้นักสืบกุ้งติดตามพฤติกรรมและวิเคราะห์ด้วยว่า ชายคนนี้เป็นแค่เพื่อนหรือแฟน เพราะเธอยืนยันมาตลอดว่าคบกันแค่เพื่อน     ทุกอย่างโอเค ตกลงรับงานนี้ ดิฉันประชุมทีมงานวางแผนทันที แบ่งหน้าที่กัน งานนี้ไม่ยากนัก แต่ทีมงานเรานี่เล่นไม่ชอบเข้าฟิตเนส ทุกคนฏิเสธที่จะเข้าไปเล่น เหลือเราคนเดียวซินี่ แต่การเดินตามขอแล้วกัน  “โอเคตามนั้น”  นักสืบกุ้งมีหน้าที่เข้าฟิตเนสเล่นโน่นนี่นั่น สังเกตุพฤติกรรมเธอกับครูหนุ่ม บางวันเธอก็เล่นกับครูคนอื่น ครูหนุ่มไปสอนที่อื่น ข้างในเธอทำอะไรไม่ได้มากเพราะส่วนใหญ่รู้จักกัน เพื่อนปกครองด้วยกัน หลังจากออกจากฟิตเนสซิ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน มีบ้างบางครั้งจับมือถือแขน แต่เธอค่อนข้างระมัดระวังตัวมาก วันอื่นไม่เท่าไหร่ แต่วาเลนไทม์ที่ผ่านมาซิ ชัดเจน เอามือลูบหน้า เดินใกล้ชิดลักษณะแบบนี้นักสืบอย่างเราน่าจะวิเคราะห์ได้นะ ว่ากริยาที่เห็นคงไม่ใช่แค่เพื่อน... จากประสบการณ์ทำงานมาหลายสิบปี สังเกตุได้ แต่เธอจะแวงคนรอบข้าง มองซ้ายขวาตลอด  อาการแบบนี้ไม่แน่ใจนะสามีพูดอะไรให้เธอระวังตัวหรือป่าว ในขณะทำงานทีมงานจะรายงานตลอดเวลาเพราะทุกคนอยู่ในกลุ่ม Line ส่งภาพทุกความเคลื่อนไหว จะมีคำถามตามมาตลอด มาอย่างนั้นอย่างนี้? “ตามที่เห็นค่ะ” เขาถามทีมงานว่า กริยาแบบนี้พวกคุณคิดว่าน่าจะเป็นแฟนกันมั้ย ทีมงาน5คน คำตอบเดียวคือใช่ ตายแล้ว!นักสืบชั้นไม่ถนอมน้ำใจลูกค้าเล้ย! ส่วนตัวก็แอบคิดอยู่ว่า “ใช่”   สิ่งที่เห็นเรามันไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก เพราะอดีตอาจจะเคย..ใช่  แต่ตอนนี้เขาอาจเป็นแค่เพื่อนกัน เพราะเขาไม่ได้ไปทำอะไรกันในที่ลับๆ ทุกอย่างที่เห็นในเกิดขึ้นไปที่สาธารณะ เราให้กำลังใจสามีเธอ และอธิบายสิ่งที่เห็นให้ฟัง ถ้าเราไม่สบายใจก็ควรจะเรียกเขามาคุย หรือจะเฝ้าดูจนกว่าเราจะแน่ใจ  หรือให้เธอย้ายไปเล่นโยคะใกล้บ้าน  เขาบอกว่าถ้าให้ธอเลิกเล่นโยคะ “เขาเลิกกับผมแน่” เพราะเธอชอบกีฬานี้มากเล่นมาเป็นสิบปี   ถ้าเราคิดว่าเพื่อครอบครัวและลูก  เราต้องเปิดใจคุยกันและหาทางออกร่วมกัน ครอบครัวก็จะเดินก้าวไปด้วยกันได้ โชคดีของเธอที่สามีไม่อารมณ์ร้อน  ไม่งั้นคงระเบิดแน่   เข้าใจได้ทั้งสองฝ่าย  บางครั้งเธออาจหลงผิดไปบ้างแต่ถ้าเราไม่คุยกันทำความเข้าใจกัน ครอบครัวก็ไปต่อด้วยกันได้ ทุกอย่างอยู่ที่คำว่าให้อภัย ฝากไว้กับทุกครอบครัวที่มีปัญหาไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เราต้องหันหน้ามาคุยกัน เพื่อครอบครัวสันติสุขต่อไป มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ