วันนี้คอลัมภ์คุยกับนักสืบ นักสืบสาว กุ้ง อำนวยพร จะนำประสบการณ์เกี่ยวกับปฏิบัติการการสืบพฤติกรรม

บทความวันที่ 11 มิ.ย. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 15006 ครั้ง

ชู้ทางใจ…..

           วันนี้คอลัมภ์คุยกับนักสืบ  นักสืบสาว กุ้ง อำนวยพร    จะนำประสบการณ์เกี่ยวกับปฏิบัติการการสืบพฤติกรรมมานำเสนอให้แฟนคอลัมภ์ประจำให้อ่านเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจของเธอ

          ชู้  ..ก็เป็นแค่ชู้ทางใจ...   ไม่ได้เป็นเพลง  ที่เคยได้ยินกันนะคะ  แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่นักสืบจะนำมาเล่าในวันนี้   2  เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกเป็นเรื่องราวของนักศึกษาปริญญาโท แอบรักอาจารย์ผู้สอน และได้มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง มาติดตามรายละเอียดกันเลยคะ
 
         เธอคนนี้เป็นหญิงสาววัย 40 ปีเศษ  ได้เล่าให้นักสืบฟังด้วยความรู้สึกว่าเธอเครียดมาก  ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดี  ไม่รู้จะปรึกษาใคร เธอเลยนึกถึงนักสืบขึ้นมา   เธอบอกว่า เธอได้เข้าเรียนระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  ที่ต่างจังหวัดทางภาคเหนือ แต่ตอนนี้เรียนจบได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ในขณะที่เธอเรียนอยู่ได้รู้จักกับอาจารย์ผู้สอนท่านหนึ่งเป็นชายสูงอายุใกล้เกษียณ  ท่านเป็นอาจารย์สอนและเป็นที่ปรึกษาด้วย ท่านได้ให้ความเมตตาเธอในขณะที่เรียน เวลาที่มีปัญหาเรื่องเรียน หรือเรื่องธุรกิจที่ทำอยู่  ไปปรึกษาอาจารย์ท่านนี้ท่านก็เมตตา ให้คำแนะนำดีมาก  จนเธอติด(ใจ) และมีความรู้สึกดีๆด้วย

          และอาจารย์ท่านนี้ก็คงมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเธอ ทั้งสองจึงได้แอบมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกันที่บ้านของเธอเอง ซึ่งที่บ้านเธอพักอยู่คนเดียว เนื่องจากเป็นหม้ายเลิกกับสามี  หลักจากที่เธอเรียนจบแล้ว เธอก็ยังมีความสัมพันธ์กันมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่มีใครรู้เลย แม้แต่ภรรยาที่บ้านของอาจารย์ท่านนี้ เพราะท่านจะกลับบ้านตรงเวลา  โดยภรรยาและลูกๆ ที่โตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว

          ไม่มีใครระแคะระคายเรื่องนี้มาจนถึงทุกวันนี้  ซึ่งอาจารย์จะมาหาเธอที่บ้านตอนกลางวันเวลาเที่ยงหรือบ่ายทุกวัน   จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง และจะมีความสัมพันธ์กันทุกครั้ง   ซึ่งการคบกันของเธอและอาจารย์ไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากเธอก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร  เธอเป็นนักธุรกิจมีเงินทอง แต่ก็ไม่เคยช่วยเหลือเรื่องเงินกับอาจารย์เลย   ที่บ้านของภรรยาหลวงเธอก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือวุ่นวายอะไร  แต่ตอนนี้เริ่มมีปัญหากัน  เนื่องจากว่าเธอออกอาการหึงหวงอาจารย์กับหญิงอื่น ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับอาจารย์  ซึ่งจะเป็นนักศึกษาหรือเพื่อนร่วมงาน  ถ้ารู้ว่าอาจารย์ไปให้ความสำคัญกับใคร เธอก็จะออกมาหึงหวงและโกรธ

          ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอมีปัญหากับอาจารย์ และได้ทะเลาะมีปากเสียงกันบ้าง  อาจารย์ก็บอกว่าเธอว่าไม่มีอะไร ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องงาน แต่เธอก็ไม่พอใจ  ไม่ว่าอาจารย์ท่านนี้จะไปที่ไหนไกลๆ หรือต่างจังหวัด ต้องคอยแอบเมียหลวง โทรไปหาเธอทุกครั้ง  บางครั้งเข้าห้องน้ำก็แอบโทรหาเธอ  ถ้าไม่โทรไปหาเธอ เธอโทรกลับมากลัวว่าเมียหลวงจะจับได้  เดี๋ยวบ้านแตกอีก  บุคคลภายนอกมองว่าครอบครัวของอาจารย์เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ที่สุด  ทุกคนอิจฉา   แต่หารู้ไม่ว่า....ในความเป็นจริงอาจารย์ท่านนี้มีความทุกข์อย่างหนักทีเดียว เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองก่อขึ้นมา โดยการมีเมียน้อยเป็นนักศึกษา  ซึ่งทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์ประมาณ 5 ปีแล้ว    และทุกครั้งที่อาจารย์โทรหาเธอ  จะบอกทุกครั้งว่า “รัก”  (แหม่! ใครๆก็พูดได้ รัก..ๆ..ๆ...ๆ...ๆ..ๆ..ๆ  พูดครั้งเดียวโรเนียวเป็นโหลเชียว)  
 
          เธอจึงมีความสงสัยว่าที่อาจารย์พูดกับเธอแบบนี้ เขารักเธอจริงหรือเปล่า เพราะที่บ้านท่านก็มีเมียมีลูกอยู่แล้ว  ความจริงนะเรื่องแบบนี้นักสืบมีประสบการณ์ที่จะตอบ  เพราะได้ฟังจากลูกค้าที่เป็นชายเขามีเมียน้อย เขาบอกว่าเขารักเมียน้อยมากว่าเมียหลวง  แต่ถ้าจะให้เขาเลือก เขาเลือกครอบครัวดีกว่า (เมียหลวง) 

          นั่นแหล่ะค่ะ คือคำตอบ...รักเรา...แต่ครอบครัวมาก่อน  เพราะฉะนั้นถ้าจะคบกันนานๆ  ก็ต่างคนต่างอยู่  และต้องทำให้ได้ด้วย คือ ทำใจ... เพราะเราเลือกเองที่จะเป็นแบบนี้  ถึงอย่างไรก็ตาม  นักสืบก็ยังให้กำลังใจคุณนะ...เมียน้อย เพราะรู้ว่าเมียน้อยก็มีหัวใจ....หัวใจที่จะรักใครสักคน ทั้งๆที่รู้ว่า...เป็นเมียน้อย....

           เรื่องที่สอง...เป็นเรื่องของหญิงสาวกับหญิงสาวด้วยกัน....คงสนใจและอยากรู้แล้วใช้ม้า !  ผู้จ้างวานของนักสืบรายนี้เป็นหญิงสาวอายุประมาณเกือบ 50 ปี  เธอเป็นคนแต่งตัวธรรมดามาก  เป็นชาวบ้าน เธอบอกว่าเธออยู่กับครอบครัวคอยดูแลแม่ และที่บ้านได้เลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ที่มาพบนักสืบวันนี้  ต้องการให้สืบพฤติกรรมของคน...คนหนึ่งให้ นักสืบถามว่า “เป็นแฟนหรือคะ”  เธอตอบว่า “เขาเป็นผู้หญิงนะ เป็นทอม”  นี่เป็นคำตอบจากเธอ นักสืบไม่ถามต่อหล่ะนะ ว่าเป็นอะไร ก็พอจะเดาได้... ได้แต่ขอข้อมูล
 
          เธอเล่าว่าได้รู้จักกับทอมคนนี้มาได้ประมาณ 10 ปี แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ด้วยกัน และตอนหลังบริษัทปิดกิจการก็แยกย้ายกันไป  แต่เธอกับทอมก็ยังคบกันอยู่ ซึ่งเพื่อนๆ และบุคคลในครอบครัวเธอ รู้แต่ว่าทั้งสองคนรู้จักกัน แต่ไม่มีใครรู้ถึงความสัมพันธ์กันของคนทั้งสอง นอกจากตัวเธอและทอม   ปัจจุบันนี้ทอมไปทำงานบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง  แต่เธอไม่ได้ทำงานแล้ว กินของเก่า (เอ้ย..เงินเก็บ)สมัยสาวๆ     การคบกันของเธอที่ผ่านมา เธอต้องช่วยเหลือเรื่องเงินทองกับทอมมาตลอด  ไม่ว่าจะซื้อรถยี่ห้อดีๆ ราคาแพงๆ ให้  ต้องผ่อนค่างวดให้  แม้แต่ค่าน้ำมันก็ต้องจ่ายให้ด้วย....  เธอบอกว่าทอมทำงานได้เงินเดือนประมาณเกือบ 20,000 บาท แต่ไม่พอจ่ายหรอก ทุกเดือนเธอต้องคอยช่วยเหลือเงินกับทอมประมาณเดือนละ เกือบ 20,000 บาทเช่นกัน   เธอไม่เคยเจอทอมเลย นอกจากคุยโทรศัพท์กัน เพราะทอมอ้างว่าทำงานไกล กลับบ้านไม่ไหว..เหนื่อย ต้องพักที่หอพัก ...ปกติวันเสาร์-อาทิตย์ จะกลับไปพักบ้านแม่ของเขา แต่เดี๋ยวนี้บอกว่างานเยอะต้องทำงานและขับรถกลับไกล..เหนื่อย  เธอจึงมีความสงสัยว่า ทอมคนนี้จะไปมีหญิงอื่นนอกจากเธอหรือไม่ 
 
          เธอบอกว่าที่ผ่านมา ทอมก็มีหญิงอื่นเสมอนอกจากเธอ  ทุกครั้งทอมจะบอกว่ามีแฟนเป็นหญิงคนนั้นคนนี้นะ เธอก็รับได้  เพราะทุกอย่างอยู่ที่ใจ  ที่ผ่านมาเธอรู้หมด แต่ก็ช่วยเหลือเรื่องเงินมาตลอด แต่ครั้งนี้ทอมไม่ยอมบอกความจริงกับเธอ เธออยากรู้มากว่า ทอมไปมีหญิงคนอื่นนอกจากเธอหรือไม่  เพราะเธอไม่ชอบคนคนโกหก.... เธอมาหานักสืบให้ช่วยไขปริศนาให้เธอ...   ว่าเธอจะเลี้ยงคนนี้ต่อไปอีกหรือไม่ เพราะเงินที่เก็บอยู่ทุกวันนี้ก็เริ่มหมดลง เธอยอมเสียเงินจ้างนักสืบดีกว่า เสียความรู้สึก…
          ท่านผู้อ่านคะ  ถ้ามีปัญหาปรึกษามาได้ค่ะ ดิฉันจะเป็นศิลาณีให้ค่ะ  “กุ้ง” อำนวยพร มณีวรรณ์  089-6695026 , 02-9485700