หลายๆท่านเป็นที่เป็นแฟนประจำของคอลัมภ์คุยกับนักสืบ “อำนวยพร มณีวรรณ์”

บทความวันที่ 2 ก.ค. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 11637 ครั้ง

ยา..ลดความอ้วน

            หลายๆท่านเป็นที่เป็นแฟนประจำของคอลัมภ์คุยกับนักสืบ “อำนวยพร มณีวรรณ์” ประจำ “ทนายคลายทุกข์” คงงงนะ ว่าวันนี้ “กุ้ง” จะมาบอกสูตรลดความอ้วนหรือไง   ติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะค่ะ ก็จะถึง “บางอ้อ” ช่อง 9 เอ้ย! 

            มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เรื่อยๆ   คนที่กินยาลดความอ้วนแล้วตาย , ใช้วิธีลดความอ้วนโดยการตีไขมัน ,ดูดไขมัน ก็ตาย  อาจเกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธี แต่สิ่งที่นักสืบแนะนำนั้นไม่ใช่ วิธีที่พูดถึงเลย แต่เป็นการอกหักคะ เสียคนรักไป ถูกสวมเขา ... 

            การอกหักหรือถูกคนรักนอกใจนั้น  มักทำให้ตรอมใจ  หดหู่   ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร  หมดหวัง สิ้นหวัง  หมดอาลัยตายหยาก   กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่เหลืออะไรแล้ว   บางคนถึงขนาดฆ่าคนรัก และฆ่าตัวตาย   น่าสงสัยนะ  นักสืบก็เห็นใจ กับคนที่ถูกกระทำแบบนี้ ถูกสามีแอบไปมีเมียน้อย มีกิ๊ก  แต่ถามหน่อยเถอะ “ผู้ชายมีดีคนเดียวในโลกหรือไงถึงลืม...ไม่ได้” 

            ถ้าใครมีปัญหาแบบนี้ ถ้าต้องการให้ลืมเขาได้เร็ว แนะนำนิดนึงน่ะว่า  ให้นึกถึงความชั่วของเขาเข้าไว้...ว่าเขาอะไรกับเราไว้.. สักวันเราต้องอยู่ได้  ...อย่ามัวแต่อาลัยอาวรณ์..รอว่าเมื่อไหร่จะกลับมา  พอดีเป็นแตงเฉาตาย  วันนี้นักสืบมีเรื่องตัวอย่าง  มาเล่าให้ท่านอ่าน เป็นเรื่องของลูกค้าเองคะ

            รายแรก เป็นหญิงรูปร่างท้วม  น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัมเศษๆ   อายุประมาณ  40 ปีเศษ เธอและสามี ทำงานรับราชการทั้งคู่  แต่งงานอยู่กินกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว  มีบุตรด้วยกัน  2 คน คนที่ 2 เป็น ออทิสติก     เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่าน สามีแอบไปมีกิ๊ก ซึ่งทำงานที่เดียวกับสามีเป็นลูกจ้าง   คนที่ทำงานก็รู้กันทั่ว พูดกันให้แซด..หนาหูทุกวัน  เพื่อนๆร่วมงานบอกว่าเธอทนได้งัย  ..ความจริงเธอไม่ได้ทนหรอก แต่สามีบอกกับเธอว่า รัก “หน่อย” มาก (เมียน้อยชื่อหน่อย) ทุกลมหายใจมีแต่หน่อยคนเดียว    ไม่รู้ผีอะไรไปเข้าสิงสามีเธอ เธอเคยคิดว่าสามีถูกทำของเข้า ซึ่งเธอเป็นคนเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ และเชื่อหมอดูมาก หมอดูสั่งให้เธอทำอะไรเธอก็จะทำ แม้กระทั่ง หมอดูบอกว่าให้ไปจ้างนักสืบ และต้องนักสืบ คนชื่อ “กุ้ง” เท่านั้น เธอก็เชื่อ  เธอก็เลยมาหาดิฉัน

            เธอบอกดิฉันว่า เธอทุกข์ทรมานใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ จากการกระทำของสามี   ทำให้น้ำหนักลดไป 20  กว่ากิโลแล้ว  เมื่อก่อนเธอมีน้ำหนัก 100 กว่ากิโลกรัม     

            ทราบแล้วใช่มั้ยคะ ว่านี่คือยาลดความอ้วนโดยไม่ต้องเสียเงิน  แต่ก็ไม่ดีนะคะ เพราะทำให้เสียสุขภาพกาย  สุขภาพจิต    หลังจากที่เธอนั่งคุยกับดิฉันได้ประมาณชั่วโมงเศษๆ  เธอบอกว่าสบายใจขึ้นเยอะมาก ที่ได้ระบายความในใจ ได้พูด มีคนรับฟังเธอ   และก็บอกว่าจะพยายามทำใจ   ส่วนพฤติกรรมของสามี  ทุกวันนี้ก็ไปส่งเมียน้อยไปบ้าน และนอนด้วยกัน  ประมาณ ห้า –เที่ยงคืน  ก็กลับเข้าบ้าน

เมื่อถึงบ้าน ก็ถอดเสื้อกองไว้แล้วก็นอนเลย น้ำอาบมาเรียบร้อยแล้ว   โดยที่ไม่สนใจใยดีเธอเลย  นอนหันหลังให้ตลอด   ส่วนลูกๆ ก็หลับหมดแล้ว  ตีห้า เธอก็ตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกๆ พาลูกอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปส่งที่โรงเรียน และอีกคนก็ต้องไปจ้างเลี้ยง ส่วนสามีก็ตื่นสาย ตื่นอาบน้ำไปทำงานเลย  แล้วการกระทำแบบนี้เหรอเขาเรียกว่า “เป็นสามีภรรยา”กัน  พฤติกรรมแบบนี้ เธอบอกว่าจะไม่ทนอีกแล้ว  วันดีคืนดี ก็บอกว่าจะขอเลิกกับเธอไปอยู่กับเมียน้อย หนักไปกว่านั้น ขู่จะว่าจะทำร้ายเธอด้วย  

            เป็นงัยท่านผู้อ่าน  เธอน่าสงสารมั้ย  ! นักสืบว่าน่าเห็นใจเป็นที่สุด  แต่เรื่องของครอบครัว จะทำอะไรก็ต้องตัดสินใจให้รอบคอบก่อน  ลำพังตัวเองคงไม่เท่าไหร่   ให้นึกถึงลูกๆด้วย     ถ้าตัดสินใจแล้ว นักสืบช่วยคะ

            รายที่สอง  เธอเป็นอดีตพยาบาล  แต่งงานกับหมอ  อยู่กินกันมา 20 กว่าปีแล้ว มีบุตรด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นออทิสติก    เธอบอกว่าตอนนี้ชีวิตเธอเปลี่ยนจากไปจากเดิม เมื่อก่อนสามีเป็นคนดีมาก ดูแลรับผิดชอบครอบครัวทุกอย่าง เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่าน สามีเธอเปลี่ยนไปเหมือนผีเข้า   อยู่ๆสามีก็มาขอหย่า  และทอดทิ้งเธอออกไปเช่าห้องพักนอกบ้าน  อ้างว่าใกล้ที่ทำงาน เลิกงานดึกจะได้พักผ่อน   เธอไม่รู้ว่าทำอะไรผิด คิดมากน้ำหนักหายเกือบ 20 กิโลกรัม  ทำอะไรๆ ก็ผิดไปหมด  ลูกๆ 3 คนก็ต้องดูแล  เข้าสู่วัยรุ่น ชอบโกหก ชอบเที่ยว  เธอก็เครียดทั้งเรื่องลูกและเรื่องสามี  พูดอะไรไปสามีก็ไม่ฟัง   เธอบอกว่าเหตุการณ์ที่สงสัยว่าสามีจะไปมีกิ๊กนั้น  เธอเคยแอบได้ยินสามีคุยกับผู้หญิงในลักษณะเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟัง  และสามีก็ไปพักนอกบ้าน โดยไม่บอกว่าพักที่ไหน    เธอจึงต้องการหลักฐานชัดๆ ว่า กิ๊กของสามีเธอนั้นเป็นใคร     นี่ก็เป็นภารกิจของนักสืบอีกชิ้นหนึ่งที่นักสืบต้องพิสูจน์ความจริงว่าเป็นจริงอย่างที่เธอคิดหรือไม่

            ในการคุยกับนักสืบใช้เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง  โดยมีลูกๆ ของเธอนั่งอยู่ด้วย  ดิฉันถามเธอว่า “  ไม่กลัวลูกๆ จะไปบอกพ่อหรือคะ”   เธอมั่นใจว่าไม่มีวันที่ลูกจะทำแบบนั้น   แต่ก็ฝากไว้ด้วยนะคะ ยังงัยๆ ก็เป็นพ่อ   ทำอะไรก็ต้องนึกถึงความรู้สึกของลุกบ้างคะ

            มีปัญหาปรึกษานักสืบได้คะ   “กุ้ง” อำนวยพร  มณีวรรณ์ 02-9485700 , 089-6695026