ถ้าเราครอบครองบ้านและที่ดินแบบโดยสงบและเปิดเผย

บทความวันที่ 18 ธ.ค. 2555, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 15992 ครั้ง

ถูกแจ้งข้อหาบุกรุก

    
           ถ้าเราครอบครองบ้านและที่ดินแบบโดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ทั้งที่มีชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นรู้เห็นกันทั้งหมด รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สท.  และภายใน 20ปี  ยังไม่เคยมีทายาทคนไหนมาแจ้งความดำเนินคดีเลย แต่เพิ่งจะมีพี่สาวมาแจ้งความเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2555 ในข้อหาบุกรุกที่ดินของเขา ทั้งที่เราก็รอพวกเขามา 21 ปี และคนเหล่านั้นก็ไม่เคยมาอยู่ที่ที่ดินผื่นนี้ทั้งก่อนหน้าและหลังทำสัญญา ไม่เคยใช้สิทธิเกี่ยวกับการเลือกตั้งเลยคะ แต่พอเราสร้างบ้านใหม่กำลังจะเสร็จอยู่ๆ พวกเขาก็มาแจ้งความทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้หาตัวใครไม่เจอเลยคะ และบ้านหลังเก่าก็พังจนแม่อยู่ไม่ได้เลยสร้างขึ้นมาใหม่ ถ้าขึ้นศาลเราจะสู้ความเขาได้ใหม่คะ เพราะพวกเขาเป็นข้าราชการกันทั้ง 2 คน แต่แม่เป็นแค่ชาวบ้านตาสีตาสา ขนาดตำรวจที่โรงพักยังเข้าข้างเขาเลยเพราะเราเป็นชาวบ้านหรือเปล่าคะ พี่สาวเป็นครูส่วนน้องชายเป็นข้าราชการอยู่ที่เทศบาลในเมืองโกงเงินเราไม่พอแถมยังจะมาเอาแม่ติดคุกอีกคะ ตอนนี้แม่ตอนไม่หลับเลยคะ เพราะบ้านก็ปลูกไปแล้ว และเป็นหนี้อีก แถมยังมาเกิดเรื่องอย่างนี้อีก เราควรทำอย่างไรดีคะ


คำแนะนำสำนักงานทนายความ  ทนายคลายทุกข์
          หากที่ดินที่มารดาของท่านซึ่งได้ครอบครองเป็นที่ดินของผู้อื่นซึ่งมีกรรมสิทธิ์ไว้โดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี มารดาย่อมได้กรรมสิทธิ์แห่งที่ดิน ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1382 ผลในทางกฎหมายถือว่ามารดาเป็นผู้ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม สิทธิของมารดาถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนการได้มาแม้จะการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ แต่ก็ชอบที่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับเจ้าของเดิม แห่งที่ดินนั้นได้ไม่ต้องห้ามตาม มาตรา 1299 วรรคสองตอนท้าย แต่อย่างไรก็ตาม มารดาควรจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อมีคำสั่งแสดงให้มารดาได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองในที่ดินดังกล่าวเพื่อให้สมบูรณ์เป็นทรัพยสิทธิใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้