WebBoard :เตือนภัย|วิธีเช็กเบื้องต้น ทำไมรถสตาร์ทไม่ติด?

วิธีเช็กเบื้องต้น ทำไมรถสตาร์ทไม่ติด?

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

วิธีเช็กเบื้องต้น ทำไมรถสตาร์ทไม่ติด?

  • 311
  • 0
  • post on 12 ต.ค. 2566, 12:27



      เอ้า! ทำไมรถถึงสตาร์ทไม่ติดกันล่ะเนี่ย! ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง ก็มั่นใจว่ารถยนต์ได้รับการดูแลรักษาที่ดี อยู่มาวันนึงกลับสตาร์ทรถไม่ติด ถ้าอย่างนั้นแล้ว  Mr.OOHOO มีวิธีเช็กเบื้องต้นก่อนนำรถยนต์เอาศูนย์ซ่อมกันครับ

1.แบตเตอรี่

         แน่นอนว่าปัญหารถสตาร์ทไม่ติดต้องมาจากแบตเตอรี่เป็นอันดับต้นๆเสมอ ซึ่งปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่จะมาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ

         - ขั้วแบตเตอรี่สกปรก จากการใช้งานรถแบบไม่ค่อยทะนุถนอมสักเท่าไหร่ ส่งผลให้ขั้วแบตเตอรี่เกิดคราบขี้เกลือ ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าส่งผ่านไปยังส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่ ขั้นตอนแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในการดูแลขั้วแบตเตอรี่ คือการรักษาความสะอาด โดยเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดสนิม และต้องหมั่นตรวจเช็ตสภาพของแบตเตอรี่เป็นประจำกันด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะเจอปัญหาสตาร์ทรถไม่ติดอย่างนี้บ่อย ๆ นั่นแหละครับ

         - แบตเตอรี่เสื่อม  โดยปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี หากรถยนต์มีอายุการใช้งานมานานกว่า 2 ปี แถมยังไม่เคยเปลี่ยนแบตเตอรี่เลย ก็คงเดาออกได้ทันทีว่าสตาร์ทรถไม่ติดเพราะแบตเตอรี่รถยนต์หมดอายุการใช้งานแล้ว  ตรวจสอบเบืท้องต้นง่ายๆได้จากไฟบนหน้าปัดรถยนต์  ขณะสตาร์ทรถ หากไฟแบตเตอรี่ที่หน้าปัดรถไม่ติด นั่นเป็นสัญญาณว่าแบตเตอร์รี่ของกำลังเสื่อม หรืออาจจะเสื่อมไปแล้วก็ได้

2. ไดสตาร์ท

          สตาร์ทรถไม่ติด ส่วนใหญ่ก็อาจมาจาก “ไดสตาร์ท” ได้เช่นกัน ลองเช็กสายไฟที่ต่อกับไดสตาร์ท หากพบว่าขาดหรือหลุด สาเหตุมาจากการขับรถลุยน้ำ หรือแม้กระทั้งการบิดกุญแจค้างไว้ขณะสตาร์ทรถ วิธีตรวจสอบเบื้องต้น สังเกตหน้าปัดไฟ หากไฟแบตเตอร์รี่ยังขึ้นอยู่ แต่มีเสียงขณะสตาร์ท นั่นก็เป็นสัญญาณบอกว่าไดสตาร์ทมีปัญหา ต้นเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง

3.ไดชาร์จ

         อย่าพึ่งเข้าใจผิดคิดว่า ไดสตาร์ทกับไดชาร์จคืออันเดียวกันนะครับ เพราะไดชาร์จเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการจ่ายไฟและสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอร์รี่รถยนต์ เมื่อไดชาร์จเสื่อมก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ ตรวจสอบไดชาร์จได้ด้วยตัวเองโดยสตาร์ทรถทิ้งไว้และถอดขั้วแบตเตอร์รี่ออกหนึ่งข้าง หากรถเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น รถดับ หรือขับๆไปแล้วกระตุก บ่งบอกได้แล้วว่าไดชาร์จรถยนต์กำลังเสื่อม

4.ปั๊มน้ำมัน

        ปั๊มติ๊กหรือที่เรียกกันว่าปั๊มน้ำมัน ซึ่งหมายถึง ปั๊มเชื่อเพลิงเครื่องยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในถังน้ำมัน ทำหน้าที่ดูดน้ำมันจากตัวถังไปยังเครื่องยนต์  หากปั๊มน้ำมันเสียก็จะส่งผลทำให้รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง แต่ถ้าเป็นรถยนต์ติดแก๊ส ก็เช็กเบื้องต้นได้จากการที่สตาร์ทด้วยน้ำมันไม่ติด แต่สตาร์ทด้วยแก๊สติด หรือสังเกตรถยนต์ขณะที่ขับด้วยความเร็วคงที่แต่เครื่องยนต์สะดุดเป็นพักๆได้

5.ระบบไฟฟ้า

        จอดทิ้งไว้นาน ก็อาจเป็นเรื่องใหญ่ได้  สาเหตที่รถสตาร์ทไม่ติดหลังปล่อยทิ้งไว้นาน ให้สัตว์นานาชนิดอาจเข้ามาอาศัยในเครื่องยนต์ เช่น หนู งู กัดหรือทำให้สายไฟในเครื่องยนต์มีปัญหา ป้องกันง่าย ๆ ได้ด้วยการสตาร์ทรถทุกวันแม้ไม่ได้ใช้งาน และตรวจสอบหน้าปัดไฟทุกครั้ง เพื่อเช็กว่าไฟที่หน้าปัดยังแสดงปกติหรือไม่

         เพื่อรถยนต์แสนรักของเรา ก็ต้องหมั่นตรวจเช็กและดูแลรักษาให้อยู่ดี ปลอดภัย เพราะการทำงานของเครื่องยนต์ส่งผลกับการใช้งานของเราโดยตรง Mr.OOHOO แนะนำให้ดูแลรถยนต์ด้วยหลัก BE-WAGON ควบคู่ไปด้วยนะครับ  ปัญหาเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับความคุ้มครองสูงสุด ทำประกันรถยนต์เอาไว้ ดีที่สุด  ที่ OOHOO.io  มีแผนประกันรถยนต์ให้เลือกมากมาย ประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือสนใจ ต่อประกันรถยนต์  ก็สามารถเปรียบเทียบราคาประกันได้เอง  รับประกันราคาเบี้ยประกันถูกกว่า ที่สำคัญผ่อนได้ 0% ซื์้อง่าย ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็น ประกันออนไลน์  ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว


โดยคุณ mr.oohoo (171.100.xxx.xxx) 12 ต.ค. 2566, 12:27

แสดงความเห็น