การฟ้องเบิกความเท็จ ความเท็จนั้นต้องเป็นข้อสำคัญในคดี ซึ่งมีผลทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นนั้นๆ
หากความเท็จนั้นไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี การเบิกความเท็จนั้นก็ไม่ใช่ความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2656/2565
ความผิดฐานเบิกความเท็จตาม ป.อ.มาตรา 177 นั้น ข้อความเท็จที่ได้เบิกความต่อศาลในการพิจารณาคดีจะต้องเป็นข้อสำคัญในคดีอันเป็นข้อแพ้ชนะในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี ผู้ที่เบิกความจึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ ซึ่งหมายถึงจะต้องเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งมีผลทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีโดยอาศัยคำเบิกความอันเป็นเท็จนั้น
คดีของศาลแพ่ง ซึ่งผู้เสียหายยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 และ ว. ขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 และ ว. และขับไล่นั้นศาลแพ่งได้วินิจฉัยปัญหาตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนดไว้ในข้อ 1 แล้วรับฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทแทนผู้เสียหาย จากนั้นวินิจฉัยปัญหาตามประเด็นข้อพิพาทในข้อ 2 ต่อมาว่า ผู้เสียหายมีพฤติการณ์เอาเงินและทรัพย์สินที่ผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาบริจาคให้แก่วัดไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยมีจำเลยที่ 1 ให้ความร่วมมือด้วยการมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแทนผู้เสียหาย การที่ผู้เสียหายยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 และนางสาวรฐาต่อศาลขอให้เพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และพิพากษายกฟ้องนั้น เห็นได้ว่า ศาลแพ่งพิพากษาให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าวแพ้คดี โดยอาศัยเหตุแห่งคำวินิจิฉัยในประเด็นข้อพิพาทข้อ 2 เรื่องอำนาจฟ้อง มิได้นำคำเบิกความของจำเลยที่ 1 ที่ว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนผู้เสียหายซึ่งศาลแพ่งในคดีดังกล่าวได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาทข้อ 1 แล้วรับฟังว่าเป็นความเท็จนั้นมาเป็นข้อวินิจฉัยให้คู่ความแพ้ชนะคดีกัน อีกทั้งการที่ศาลแพ่งพิพากษาให้ผู้เสียหายแพ้คดีด้วยเหตุผลที่ว่าผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และ ว. ตามประเด็นข้อพิพาทในข้อ 2 นั้น ย่อมทำให้ประเด็นข้อพิพาทข้อ 1 ที่ศาลแพ่งกำหนดไว้ไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทที่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยอีกต่อไป เพราะไม่ทำให้ผลของคดีแพ่งดังกล่าวเปลี่ยนแปลง ดังนี้ ไม่ว่าจำเลยที่ 1 จะมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทแทนผู้เสียหายหรือไม่ ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าว ก็ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาท ข้อความที่จำเลยที่ 1 เบิกความต่อศาลแพ่งดังกล่าวแม้จะเป็นความเท็จ ความเท็จนั้นก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวย่อมเป็นการกระทำที่ขาดองค์ประกอบของความผิดในข้อที่ความเท็จที่เบิกความนั้นต้องเป็นข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ ตาม ป.อ.มาตรา 177 วรรคแรก และกรณีนี้เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ที่มิได้ฎีกามิต้องถูกรับโทษดุลจำเลยที่ 1 ผู้ฎีกาได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 225 ประกอบมาตรา 213
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161