การชำระหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่ระงับไปแล้ว เป็นลาภมิควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2754-2755/2564
รถที่โจทก์เช่าซื้อสูญหายไปในระหว่างโจทก์นำไปให้อู่ ส. ติดตั้งแท่นรับหางพ่วง และกระบะรถพ่วงกับรถพ่วง สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์และจำเลยซึ่งเป็นสัญญาเช่าทรัพย์รวมกับคำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินที่ให้เช่าย่อมระงับไปเพราะรถที่เช่าซื้อสูญหายไปทั้งหมด ตาม ป.พ.พ.มาตรา 567 การชำระหนี้หรือความรับผิดของผู้เช่าซื้ออันเกิดสัญญาเช่าซื้อระงับเพราะเหตุดังกล่าวระบุไว้ตามเงื่อนไขการเช่าซื้อในข้อ 5 วรรคสองว่า "ในกรณีรถสูญหาย..ให้ถือว่าสัญญานี้สิ้นสุดลงและแม้จะมิใช่ความผิดของผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อก็ตกลงยินยอมรับผิดชอบค่าเสียหายที่ธนาคารได้รับเนื่องจากเหตุดังกล่าวข้างต้น หรือเบี้ยปรับ หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทวงถาม การติดตามรถ ค่าทนาย หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดเพียงเท่าที่ธนาคารได้ใช้จ่ายไปจริง..." กับระบุไว้ในวรรคสามว่า "..หากความเสียหายดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นเนื่องจากความผิดของผู้เช่าซื้อมีส่วนร่วมในความผิดนั้น ผู้เช่าซื้อตกลงยินยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเท่ากับภาระหนี้คงค้างตามสัญญานี้ให้แก่ธนาคารเต็มจำนวน" แต่เงื่อนไขการเช่าซื้อดังกล่าวไม่ได้กำหนดการชำระหนี้หรือความรับผิดของผู้ให้เช่าซื้อไว้ด้วยและตามป.พ.พ.มาตรา 574 ก็เป็นเพียงผลสัญญาเช่าซื้อระงับเฉพาะกรณีผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อเท่านั้น ดังนั้น การชำระหนี้หรือความรับผิดของผู้ให้เช่าซื้ออันเกิดจากสัญญาเช่าซื้อระงับเพราะรถที่เช่าซื้อสูญหายไปทั้งหมดจึงต้องบังคับตาม ป.พ.พ.ว่าด้วยลาภมิควรได้
จำเลยคิดคำนวณผลประโยชน์ตามสัญญาเช่าซื้อโดยนำราคาเงินสดส่วนที่เหลือ(ภายหลังจากหักเงินดาวน์แล้ว) คูณด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี คูณด้วยระยะยเวลาที่เช่าซื้อ ราคาเช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อจึงเป็นราคารถยนต์ที่แท้จริงรวมกับผลประโยชน์ที่จำเลยคิดคำนวณล่วงหน้าตลอดระยะเวลาที่เช่าซื้อ แม้เงินดาวน์จะถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของราคารถยนต์ที่เช่าซื้อ แต่เมื่อจำเลยไม่ได้นำเงินดาวน์ที่โจทก์ชำระให้แก่บริษัทมาเป็นส่วนหนึ่งของราคาเงินสดในการคิดคำนวณผลประโยชย์ตามสัญญาเช่าซื้อ เงินดาวน์ที่โจทก์ชำระแก่บริษัท อ. จึงมิใช่เงินค่าเช่าซื้อล่วงหน้า แต่เป็นเพียงการชำระราคารถที่เช่าซื้้อบางส่วนเท่านั้น กรณีย่อมถือไม่ได้ว่าเงินดาวน์จำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่จำเลยได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 406 จำเลยจึงไม่ต้องคืนเงินในส่วนนี้แก่โจทก์
ค่าเช่าซื้อที่โจทก์ชำระไปแล้ว ค่าเบี้ยประกัน และค่าทำประกันชีวิตเงินดังกล่าวเป็นเงินที่จำเลยได้มาตามสัญญาเช่าซื้อและสัญญาประกันชีวิตก่อนที่รถยนต์ที่เช่าซื้อทั้งสองคันสูญหาย จึงไม่ใช่เงินที่จำเลยได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้จำเลยไม่ต้องคืนเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-8217470, 081-6252161