หลอกขายป้ายทะเบียนรถประมูล รับสารภาพศาลไม่รอการลงโทษ
ปัจจุบันมีการหลอกขายแผ่นป้ายทะเบียนรถประมูลหรือเลขสวย เป็นจำนวนมากมีประชาชนหลงเชื่อส่งมอบเงินให้ไปเป็นหลักแสนหลักล้าน แต่สุดท้ายไม่มีป้าย คดีประเภทนี้ ทนายคลายทุกข์นำตัวอย่างมานำเสนอ ถึงแม้จะรับสารภาพศาลท่านก็ไม่รอการลงโทษเพราะท่านมองว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น รายละเอียดของคำพิพากษามีรายละเอียดดังต่อไปนี้
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน ถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 จำเลยโดยทุจริตหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริงอัยควรบอกให้แจ้งว่าจำเลยมีแผ่นป้ายทะเบียนรถประมูล หมายเลข XXXXX กรุงเทพมหานคร ที่จำเลยประมูลมาจากกรมการขนส่งทางบก เสนอขายให้แก่โจทก์ ในราคา 148,000 บาท โจทก์หลงเชื่อส่งมอบเงินแก่จำเลย 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 148,000 บาท ความจริงจำเลยไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว จำเลยไม่มีเจตนาส่งมอบแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีเจตนาฉ้อโกงตั้งแต่แรก ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 148,000 บาท เหตุเกิดที่แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร และตำบลเสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เกี่ยวพันกัน โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลงโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยมีว่า สมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า พฤติการณ์ที่จำเลยหลอกลวงโจทก์ด้วยการเสนอขายแผ่นป้ายทะเบียนรถประมูล เป็นการกระทำที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนเสียหายของผู้อื่นและเป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนมากถึง 148,000 บาท พฤติการณ์แห่งคดีถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้จำเลยชดใช้เงินคืนให้แก่โจทก์ 39,500 บาท ก็เป็นสัดส่วนที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเงินที่โจทก์ได้รับความเสียหายทั้งที่เป็นการชำระก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเพียง 14,500 บาท ส่วนที่เหลือเป็นการชำระภายหลังจากศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกไม่รอการลงโทษแล้ว และแม้จำเลยมีภาระต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวดังที่กล่าวอ้างในอุทธรณ์ ก็ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษให้แก่จำเลย ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยโดยไม่รอการลงโทษมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 78 เมื่อปรากฏว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ไม่ว่าจะได้มีการเพิ่มหรือการลดโทษตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นแล้วหรือไม่ ถ้าศาลเห็นสมควรจะลดโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นก็ได้
เหตุบรรเทาโทษนั้น ได้แก่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญาตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีคุณความดีมาแต่ก่อน รู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น ลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานหรือให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา หรือเหตุอื่นที่ศาลเห็นว่ามีลักษณะทำนองเดียวกัน
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การทำมาหากิน ต้องทำมาหากินโดยสุจริต ไม่ใช่หากินโดยหลอกลวงชาวบ้าน สุดท้ายถึงแม้จะรับสารภาพ ศาลก็ไม่รอการลงโทษ