ความคิดเห็นที่ 1

การไปศาล

1 จะเพิกเฉยไม่ไปศาลจะมีผลอย่างไร

ตอบ   เรื่องนี้เป็นคดีแพ่ง จึงไม่ต้องไปศาลก็ได้  โดยไม่ต้องแจ้งเหตุใดๆทั้งสิ้น   ศาลก็มีระบบการพิจารณาลับหลังจำเลยได้  หรือเรียกว่าการพิจารณาโดยการขาดนัด  ถ้าพยานหลักฐานถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน ศาลก็คงพิพากษา ให้ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดตามพยานหลักฐานที่โจทก์ยื่นฟ้อง  คือผูัค้ำประกัน  ต้องรับผิดร่วมกับลูกหนี้   และจะมีการส่งคำบังคับไปยังภูมิลำเนา จำเลย (ลูกหนี้ และผู้ค้ำฯ) ให้ใช้หนี้ ตามคำพิพากษานั้น  ถ้าเพิกเฉยก็มีการขอหมายบังคับคดี เพื่อยึดทรัพย์ไปขายทอดตลาด  ตามคำพิพากษา   ถ้าไม่ทรัพย์สินใดๆ  เจ้าหนี้ก็ทำอะไรไม่ได้   ก็ต้องรอการบังคับคดีภายในอายุความ 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา การไม่ใช้หนี้  ย่อมติดแบล็คลิส  จะทำธุรกรรมใดๆทางการเงินคงลำบาก  

2 ถ้าไปจำเป็นต้องพาทนายไปด้วยหรือไม่

ตอบ...คดีแบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไร  ไม่ต้องมีทนายความก็ได้  ถ้าไปศาลตามนัด  ศาลคงให้มีการไกล่เกลี่ยเจรจากัน อาจได้ลดหนี้ลง  และขอผ่อนเป็นงวดๆ ในจำนวนที่ไม่สูงเกินไป   น่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง

3 ถ้าไปในแต่ละครั้ง จะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างเป็นเงินเท่าไร

ตอบ...ค่าเดินทาง  ค่าฤชาธรรมเนียม  ค่าขึ้นศาล  ตามคำพิพากษาของศาล ค่าทนายความ(ถ้ามี) แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไปศาลเลย  ก็คงไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ  แต่ย่อมเสียเครดิต  ด้วยความปรารถนาดี ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 3 มี.ค. 2568, 13:13