?
??????????? วันนี้นางสังวาลย์? นิวตัน อายุ 40 ปี อาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ที่ถนนพระราม 3? ซึ่งเคยตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพวกค้ายาเสพติด จำนวน 34 กิโลกรัม และเคยเป็นข่าวเกรียวกราวในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับรวมทั้งมีการออกข่าวทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุ เมื่อประมาณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2548?? 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อหาดังกล่าวมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต? เนื่องจากเป็นข้อหาร่วมกันจำหน่ายเฮโรอีน และสมคบกันนำเฮโรอีนออกนอกประเทศ
?
??????????? หลังจากถูกจับกุม ได้ขอความช่วยเหลือจากทนายคลายทุกข์ สู้คดีในศาลอาญา
จนศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องทุกข้อหาและให้คืนทรัพย์สินที่สำนักงานปปส.ยึดไปจำนวนหลายรายการ เช่น เรือยอร์ช เป็นต้น?
วันนี้เธอจะมาเล่าถึงความรู้สึกให้พี่น้องประชาชนได้ทราบถึงประสบการณ์ชีวิต
และความอยุติธรรมที่เธอได้รับในอดีตที่ผ่านมา ว่าต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไรบ้าง
?
??????????? เธอเล่าว่า? ก่อนเกิดเหตุเธอได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งเป็นชาวอังกฤษ
ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่าเป็นชาวนิวซีแลนด์ โดยมีแท็กซี่มากินข้าวที่ร้านอาหาร
แถวถนนพระราม 3
ขายของอยู่ข้างถนน หลังจากนั้นก็รู้จักกันเรื่อยมา
และสามารถสื่อสารกับเขาได้เนื่องจากฝรั่งคนนี้พูดไทยได้บ้าง
?
??????????? หลังจากคบค้ากันประมาณ 2 ปี เศษ เธอก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกับฝรั่งคนนี้? โดยมี 2 เหตุผลดังนี้คือ
-?????????
เห็นว่าเขาเป็นคนดี เอาอกเอาใจ ให้เกียรติเธอ
-?????????
ถ้าได้สามีเป็นฝรั่งก็น่าจะมีเงินมีทองมาช่วยเหลือครอบครัวได้บ้างเนื่องจากเป็นคนทางภาคอีสานและฐานะยากจน
-?????????
โดยฝรั่งคนนี้จะจ่ายสินสอดทองหมั้นให้กับเธอโดยให้ทองคำรูปพรรณจำนวน? 7 บาท แหวนเพชร 1 วง ราคา 43,000 บาท? จะซื้อบ้านให้ 1 หลัง ราคา 4 ล้าน 4 แสนบาท
?
หลังจากนั้นได้ตกลงแต่งงานกับฝรั่งคนนี้เมื่อ
วันที่ 10 กันยายน 2547 ตามศาสนาคริส โดยเธอยอมเปลี่ยนศาสนาจากพุทธไปเป็นคริส
หลังจากเป็นผัวเมียกัน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเธอ ยิ่งกว่าฝันร้าย
ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2548 ถูกจับกุมที่จังหวัดภูเก็ต
ขณะที่เธอกำลังพักผ่อนอยู่กับสามีฝรั่งและแม่สามีฝรั่งที่บริเวณหาดในยางใกล้กับสนามบินภูเก็ต?? เวลาใกล้เที่ยงก็ได้มีตำรวจประมาณ 50 คน
แต่งเครื่องแบบมีทั้งตำรวจไทยและตำรวจฝรั่ง?
ขณะนั้นเธอกำลังนวดแผนโบราณอยู่กับแม่สามี?
?
ส่วนสามีฝรั่งก็นั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ริมหาด ไม่ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว ตำรวจทั้ง 50 คนก็เข้ามาล้อมและขอจับกุมและแสดงหมายศาล โดยอ้างว่าสามีฝรั่งเป็นตัวการใหญ่ในการค้ายาเสพติดจำนวน 34 กิโลกรัม หลังจากนั้นตำรวจได้พาเธอและสามีไปที่ท่าเรือยอร์ชเฮเว่นเพื่อตรวจสอบว่ามีเฮโรอีนในเรือหรือไม่? ตรวจแล้วไม่พบของผิดกฎหมาย โดยในขณะตรวจค้นมีหน่วยคอมมอนโดถือเอ็ม16 ประมาณ 100 คนเศษ และมีเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ มีช่างภาพสถานีโทรทัศน์ไทยและต่างประเทศ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับมารุมถ่ายทำเกี่ยวกับคดีนี้? ซึ่งเธอเชื่อว่าน่าจะมีการนัดหมายกันไว้ก่อนแล้ว? เธอเล่าให้ฟังว่าเหมือนถ่ายหนังและเหมือนในหนังฮอลิวู้ด
?
เธอก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร
เนื่องจากเธอไม่ได้กระทำความผิดอะไร แต่ก็สงสัยนิดหน่อยว่าสำนักงานปปส.ทำไมลงทุนทำอะไรกันถึงขนาดนี้
และเธอก็ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด
?
หลังจากนั้นก็พาเธอและสามีฝรั่งนั่งรถคนละคัน?
โดยกลัวว่าเธอและสามีจะปรึกษาหารือกัน? หลังจากนั้นพาไปพบกับชาวฮ่องกง 2 คนที่ถูกปปส.จับพร้อมเฮโรอีนจำนวน 34 กิโลกรัม? หลังจากนั้นก็พาไปที่เซฟเฮ้าส์
หลังจากนั้นพาเธอและสามีไปตรวจค้นตึกแถวที่เธอเช่าไว้ก็ไม่พบของผิดกฎหมาย
หลังจากค้นเสร็จพาเธอและสามีฝรั่งไปที่เซฟเฮ้าส์และพยายามเกลี้ยกล่อมให้รับสารภาพ พร้อมทั้งขู่ด้วยว่าถ้าไม่รับสารภาพจะถูกประหารชีวิต และบังคับให้ลงชื่อในบันทึกการจับกุม และเอกสารของตำรวจโดยไม่ยอมให้อ่านและไม่ให้ปรึกษาทนาย
?
เวลาประมาณ 3 ทุ่ม พาเธอและสามีฝรั่งไปนั่งห้องแถลงข่าวที่สนามบินภูเก็ตโดยมีเฮโรอีนวางตั้งโชว์? 2 กระเป๋า จำนวน 34 กิโลกรัม ให้เธอและสามีไปนั่งเรียงกับชาวฮ่องกง 2 คนที่ถูกจับ และมีผู้สื่อข่าวมาคอยถ่ายภาพมากมาย? ทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศและอับอาย ทั้งที่มิได้กระทำความผิด
?
นอกจากนี้ก่อนขึ้นเครื่องบินกลับมาที่กรุงเทพฯ ตำรวจปปส.บอกว่าได้ค้นพบเฮโรอีส 0.19 กรัม ในเรือยอร์ช โดยอ้างว่าสามีฝรั่งบอก ซึ่งได้สอบถามสามีแล้วไม่เป็นความจริง ตำรวจเข้าไปตรวจค้นโดยไม่มีหมายศาล และไม่มีพยาน 2 คน เป็นการตรวจค้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนั้นก็ได้บังคับให้สามีชี้เฮโรอีนและลงชื่อยอมรับว่าเป็นของสามี ซึ่งไม่เป็นความจริง ถ้ามีเฮโรอีนจริงในเรือยอร์ช? ตอนที่มีการตรวจค้นครั้งแรกตอนบ่ายก็น่าจะพบแล้วเพราะมีตำรวจเข้าตรวจค้นถึง 30 คน
?
หลังจากนั้นถูกสอบสวนที่สำนักงานปปส. และถูกส่งตัวไปที่เรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง
บางเขน ติดคุกอยู่ 19 เดือน (พูดแบบภาษาคนติดคุก)? ทนทุกข์ทรมาน เครียดมาก
ห่วงลูกห่วงหลาน ไม่มีคนดูและลูกและไม่มีคนดูแลแม่ ไม่มีคนเลี้ยงดู ร้องไห้ทุกวัน
ประกันตัวก็ไม่ได้ ตำรวจก็คัดค้านการประกันตัว ยาเสพติดของกลางมีมาก
ทนทุกข์ทรมานตลอดเวลา ?คิดมากว่าถ้าเกิดติดคุกหรือถูกประหารชีวิตไป
ใครจะมาดูแลแม่ดูและลูก?
เครียดจนเบลอ
?
แต่แล้วเมื่อถึงวันที่ศาลมีคำพิพากษา วันที่ 3 สิงหาคม 2550 เวลา 05.00 น. ผู้คุมแดนแรกรับ ห้อง 8 ปลุกให้ลุกขึ้นแล้วก็พับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวเช็คยอด จำนวนผู้ต้องขังว่าอยู่ครบหรือไม่? แล้วพาเธอขึ้นรถเรือนจำเพื่อเดินทางไปศาลอาญา เธอนั่งอธิฐานอยู่ในรถ ขอพระเจ้าช่วยลูกและสามีด้วย ให้คดีคลี่คลายไปในทางที่ดีด้วย? ด้วยความตื่นเต้น
?
เมื่อถึงศาลเอาไปควบคุมตัวไว้ใต้ถุนศาลเพื่อรอฟังคำพิพากษา
เมื่อถึงเวลา 10.00 น. ผู้คุมก็นำตัวขึ้นไปที่ห้องพิจารณาคดีชั้น
8 เพื่อฟังคำพิพากษา
หลังจากนั้นผู้พิพากษา 4 คน
ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษา ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชั่วโมง ?20 กว่าหน้า? ตอนแรกที่อ่านคำพิพากษาคิดว่าตัวเองคงต้องติดคุกเหมือนกัน?
สามีฝรั่งก็คิดเหมือนกันว่าต้องติดคุกแน่นอน
คิดว่าคงจะไม่ได้กลับบ้านแล้ว? สุดท้ายศาลยกฟ้องทุกข้อหา
เธอดีใจมากและเข้าโผกอดซึ่งกันและกัน?
ร้องไห้ทั้ง 2 คน
?
เธออยากจะฝากไปถึงผู้บริสุทธิ์ทุกคนที่ถูกยัดข้อหายาเสพติดว่าจะต้องสู้ และหาทนายความเก่ง ๆ มาช่วย? ให้เข้มแข็งอย่ายอมแพ้ เธอบอกว่าดีใจมากที่ได้รู้จักอาจารย์เดชา? ถ้าไม่ได้อาจารย์เดชาอาจจะถูกประหารชีวิตไปแล้วก็ได้
?
เธออยากจะฝากไปถึงสำนักงานปปส.ว่า ?การจะจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
จะต้องคำนึงถึงสิ่งดังต่อไปนี้ด้วย
-?????????
พยานหลักฐานต้องเพียงพอว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
-?????????
อย่ามองเพียงว่าเป็นเมียหรือผัวหรือลูกหรือญาติหรืออยู่ในบ้านเดียวกับผู้ต้องสงสัย
-?????????
อย่าใช้จินตนาการของตนเองขยายผลว่าคนนั้นคนนี้น่าจะไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายา
โดยปราศจากหลักฐาน
-?????????
การถูกจับในคดียาเสพติดทุกคนทนทุกข์ทรมาน เนื่องจากเป็นคดีนโยบาย
และศาลมักไม่ให้ประกันตัว ไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของเจ้าหน้าที่ของรัฐ