งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ค่าจ้างทนายหากยังไม่ได้สืบพยานโจทก์หรือจำเลย ศาลกำหนดให้จำนวนครึ่งหนึ่งของค่าจ้าง
#ค่าวิชาชีพทนายความ #ค่าจ้าง #สัญญาจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2567
จำเลยที่ 2 ชำระเงินให้โจทก์ตามสัญญาจ้างว่าความซึ่งเป็นสัญญาจ้างทำของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587มาแล้ว 9 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 การชำระเงินแต่ละครั้งจำเลยที่ 2 มิได้ระบุว่าชำระหนี้ในงวดใด เมื่อปรากฎว่า ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 มีหนี้งวดที่ 1 ตามสัญญาข้อ 2.1 ที่ถึงกำหนดชำระ ส่วนหนี้งวดที่ 2 และงวดที่ 3 ยังไม่ถึงกำหนดชำระเนื่องจากทั้งสามคดียังสืบพยานโจทก์จำเลยไม่แล้วเสร็จและยังไม่มีคดีใดนัดฟังคำพิพากษา จึงต้องถือว่าเงินที่จำเลยที่ 2 ชำระให้แก่โจทก์ทั้ง 9 ครั้ง เป็นการชำระหนี้ในงวดที่ 1 ซึ่งถึงกำหนดชำระแล้ว มาตรา 328 วรรคสอง มีผลทำให้อายุความในหนี้ค่าจ้างว่าความงวดที่ 1 สะดุดหยุดลงตามมาตรา 193/14(1) และต้องเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ตามมาตรา 193/15 วรรคสอง คำฟ้องโจทก์เป็นกรณีทนายความฟ้องเรียกเอาค่าการงานที่ทำให้มีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(16) โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 ยังไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ครั้งสุดท้าย ฟ้องโจทก์ตามสัญญาจ้างว่าความ ข้อ 2.1 ในส่วนของจำเลยที่ 2 ยังไม่ขาดอายุความ
จำเลยทั้งสองเป็นลูกหนี้ร่วม มูลความแห่งคดีเป็นการชำระหนี้ซึ่งแบ่งแยกจากกันมิได้ การที่จำเลยที่ 2 ยกอายุความขึ้นต่อสู้ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้แล้วเช่นกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59(1)
ข้อความจริงใดเมื่อเป็นเรื่องท้าวถึงตัวลูกหนี้ร่วมกันคนใดย่อมเป็นไปเพื่อคุณและโทษเฉพาะแต่ลูกหนี้คนนั้นเท่านั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 295 การที่จำเลยที่ 2 เพียงคนเดียวชำระหนี้แก่โจทก์ อายุความจึงสะดุดหยุดลงเฉพาะแก่จำเลยที่ 2 หามีผลถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ร่วมไม่ หนี้ค่าว่าความงวดที่ 1 ในส่วนของจำเลยที่ 1 ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2560 ซึ่งเป็นเวลาขณะที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไปตามมาตรา 193/12 เมื่อนับถึงวันที่โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 เกินกว่า 2 ปี ฟ้องโจทก์ตามสัญญาจ้างว่าความข้อ 2.1 ในส่วนของจำเลยที่ 1 ขาดอายุความ
สัญญาจ้างว่าความเป็นสัญญาจ้างทำของ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587 ถือเอาผลสำเร็จแห่งการงานที่จ้างเป็นสำคัญ และการจ่ายค่าสินค้าต้องถือเอาความสำเร็จของผลงานหรือตามตกลงกันไว้ คู่สัญญาอาจจะตกลงเงื่อนไข เงื่อนเวลา หรือขั้นตอนในการชำระหนี้กันอย่างไรก็ได้ โจทก์กับจำเลยทั้งสองตกลงเงื่อนไขการชำระเงินค่าจ้างว่าความกันไว้โดยแบ่งชำระเป็น 3 งวด งวดที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อตกลงทำสัญญาจ้างว่าความให้ดำเนินคดี งวดที่ 2 จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วเสร็จ และงวดสุดท้ายจำนวน 1,000,000 บาท ก่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น 15 วัน ย่อมสามารถกระทำได้ และมิใช่เป็นข้อตกลงที่กำหนดค่าเสียหายกันไว้ล่วงหน้าอันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ซึ่งหากสูงเกินส่วนศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้
โจทก์ทำการงานโดยดำเนินคดีให้แก่จำเลยทั้งสองที่ศาลรวม 3 คดี จนต่อมาวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 จำเลยทั้งสองสามารถตกลงกับคู่กรณีในคดีทั้งสามได้ โดยสองคดีคู่ความตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอม ส่วนอีกคดีจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าวยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ศาลมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ทำการงานสำเร็จตามที่ตกลงว่าจ้างกันแล้ว โจทก์มีสิทธิได้รับสินจ้างตามผลแห่งการงานที่ได้กระทำไป ศาลย่อมมีอำนาจพิจารณาอัตราค่าจ้างให้ตามสมควรแก่ผลแห่งการงานที่โจทก์ได้กระทำไป
ค่าจ้างว่าความงวดที่ 1 มีกำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทินในวันทำสัญญาจำเลยที่ 2 มิได้ชำระให้โจทก์ครบถ้วนตามกำหนด ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 วรรคสอง โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดได้ตามมาตรา 224 วรรคหนึ่ง นับแต่วันที่ 12 กันยายน 2560 เป็นต้นไป
ค่าจ้างว่าความงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ที่กำหนดให้ชำระเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วเสร็จและก่อนวันนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น 15 วัน มิใช่หนี้ที่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทิน เมื่อคดีที่โจทก์ว่าความให้แก่จำเลยทั้งสองในศาลทั้งสามคดี จำเลยทั้งสองสามารถตกลงกับคู่กรณีได้วันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ถือว่าหนี้ค่าจ้างว่าความงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ถึงกำหนดในวันที่ดังกล่าวื แต่ตราบใดที่โจทก์ยังมิได้เตือนให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ จำเลยทั้งสองก็ยังไม่ได้ชื่อว่าผิดนัด โจทก์มีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยทั้งสองโดยกำหนดเวลาให้นำเงินมาชำระหนี้ภายใน 7 วัน จำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือทวงถามวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ครบกำหนด 7 วัน จำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ชำระจึงตกเป็นผู้ผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 วรรคหนึ่ง โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้นับแต่วันที่ 4 และวันที่ 3 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไปตามลำดับ
มีปัญหากฎหมาย สอบถามได้ที่ 02-9485700,081-6161425,081-6252161,081-8217470