งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
โจทก์ไม่มาศาล ศาลยกฟ้องสถานเดียว
โจทก์ในคดีอาญามีหน้าที่ต้องมาศาลทุกนัด(นัดไต่สวนมูลฟ้องและนัดพิจารณาคดี) ถ้าไม่มาศาลต้องยกฟ้องสถานเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2534
ข้ออ้างของโจทก์ว่าทั้งตัวโจทก์และทนายโจทก์เข้าใจว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องไปตามวันเวลาที่ทนายจำเลยแถลง ซึ่งเป็นวันหลังจากที่ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องต่อ 1 วัน แม้จะเป็นความจริงก็เป็นความผิดของโจทก์เอง กรณียังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้ยกคดีขึ้นไต่สวนต่อไป การที่จะพิจารณาว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไปแล้วในการไต่สวนมูลฟ้องจะพอฟังว่าคดีมีมูลหรือไม่ต้องเป็นกรณีที่โจทก์มาศาลตามนัดแล้ว และไม่ติดใจนำพยานเข้าไต่สวนต่อไป เมื่อโจทก์ไม่มาศาลเสียแล้ว แม้จะมิใช่วันนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรก ศาลก็ต้องยกฟ้องโจทก์เสียตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2493
โจทก์ขาดนัดในชั้นสืบพยานประเด็น เมื่อปรากฏว่าได้สืบพยานโจทก์ไปแล้ว 2 ปากรวมทั้งตัวโจทก์ และโจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องก่อนในวันเดียวกับที่ศาลพิพากษาเรื่องโจทก์ขาดนัดว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ขอให้นัดสืบพยานจำเลยเช่นนี้ยังไม่สมควรจะยกฟ้องโจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 181 บัญญัติให้นำเอามาตรา 166 อันเป็นบทบัญญัติในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาใช้บังคับในชั้นพิจารณาได้โดยอนุโลม ซึ่งหมายความว่า ให้ใช้ได้ตามควรแก่กรณี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530
ป.วิ.อ. มาตรา 166 และมาตรา 181 มีเจตนารมณ์ที่จะเร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว มิให้มีการประวิงคดี จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีจึงเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาลหาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่ ดังนั้น เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา โดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้องแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่จำต้องคำนึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าโจทก์จำเวลานัดของศาลคลาดเคลื่อนไปสมควรที่ศาลจะได้ทำการไต่สวนฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของโจทก์นั้น แม้จะเป็นความจริงตามที่โจทก์อ้าง ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นอย่างใดที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนเสียก่อนมีคำสั่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2547
โจทก์ที่ 1 ทราบกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องโดยชอบแล้ว มีหน้าที่จะต้องมาศาลตามกำหนดนัด แต่ในวันนัดฝ่ายโจทก์ที่ 1 กลับไม่มีผู้ใดมาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี ถึงแม้จะปรากฏว่าการส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 โดยวิธีปิดหมายยังไม่มีผลใช้ได้ตามกฎหมายดังที่ฝ่ายโจทก์ที่ 1 กล่าวอ้าง ก็หาทำให้ฝ่ายโจทก์ที่ 1 หมดหน้าที่ที่จะต้องมาศาลตามกำหนดนัดไม่
ทนายโจทก์ที่ 1 ไปให้แพทย์ตรวจอาการป่วยตามที่อ้างเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2539 อันเป็นวันก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง แสดงว่าทนายโจทก์ที่ 1 รู้ตัวว่าตนมีอาการป่วยไม่สามารถมาศาลได้ตั้งแต่ก่อนวันนัดแล้ว และย่อมทราบดีว่าเหตุป่วยเจ็บเป็นเหตุที่อาจขอเลื่อนคดีได้ เพราะเป็นเหตุอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ ทนายโจทก์ที่ 1 ก็น่าจะติดต่อให้โจทก์ที่ 1 มาศาล หรือมานำคำร้องขอเลื่อนคดีที่สำนักงานทนายความของทนายโจทก์ที่ 1 มายื่นต่อศาลอันอยู่ในวิสัยที่จะกระทำได้ แต่ทนายโจทก์ที่ 1 ก็หาได้ยื่นคำร้องแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบถึงเหตุแห่งความจำเป็นดังกล่าวเพื่อขอเลื่อนคดีไม่ พฤติการณ์ของฝ่ายโจทก์ที่ 1 ส่อลักษณะเป็นการประวิงคดี ทำให้ฝ่ายจำเลยได้รับความเดือดร้อน ทั้งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลล่าช้า กรณีจึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้ยกคดีในส่วนของโจทก์ที่ 1 ขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2536
โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดเพราะโจทก์ไม่ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์อันเนื่องจากการส่งหมายไม่ชอบ ย่อมไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลจะยกฟ้องได้ กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 166 และมาตรา 181
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2533
กรณีที่ศาลจะยกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ได้นั้นจะต้องเป็นกรณีที่ศาลได้กำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องหรือนัดพิจารณาคดีไว้ และเมื่อโจทก์ทราบกำหนดนัดนั้นแล้วไม่มาศาล ในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั้น จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นหาได้กำหนดนัดเพื่อพิจารณาคดีและแจ้งให้โจทก์ทราบว่าจะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ทั้งที่ข้อหาที่โจทก์ฟ้องตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 นั้น มีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป ซึ่งศาลจะต้องฟังพยานโจทก์ต่อไปจนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 แต่ศาลชั้นต้นกลับจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าคู่ความไม่สืบพยานโดยที่โจทก์ไม่ได้อยู่ในศาลขณะนั้นซึ่งถึงแม้โจทก์จะมาศาลในวันนั้นคดีก็ไม่อาจจะสืบพยานได้เพราะไม่ใช่วันนัดสืบพยาน กรณีเช่นนี้ศาลชั้นต้นจะต้องเลื่อนการพิจารณาคดีไปแล้วนัดสืบพยานโจทก์ในภายหลัง การที่ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาไปในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องเสียทีเดียว จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166181 ที่ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2515
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จ ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องศาลสั่งให้รอฟังผลคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อคดีนั้นถึงที่สุดให้โจทก์หรือจำเลยแถลงต่อศาลต่อมาศาลมีหมายนัดให้คู่ความมาพร้อมกันเพื่อสอบถามเรื่องผลของคดีแพ่งดังกล่าวเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ครั้นถึงวันนัดพร้อม โจทก์ไม่มาศาลดังนี้ ศาลก็ไม่อาจยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 เพราะไม่ใช่เป็นการนัดไต่สวนหรือพิจารณาอย่างใดและเมื่อศาลสั่งยกฟ้องไป แล้วความปรากฏว่า ที่โจทก์ไม่มาศาลเพราะส่งหมายนัดให้โจทก์ไม่ได้ ดังนี้ ศาลจะยกฟ้องตามมาตรา 166 วรรคหนึ่ง ไม่ได้อีกด้วย และกรณีเช่นนี้จะนำมาตรา 166 วรรคสอง มาใช้บังคับหาได้ไม่ เพราะเมื่อโจทก์ไม่ได้ทราบกำหนดนัดของศาลเสียแล้วก็ไม่มีเหตุสมควรอันใดที่โจทก์จะยกขึ้นแถลงต่อศาลได้ว่า ทำไมจึงมาศาลไม่ได้ โจทก์จึงไม่จำต้องร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ตามมาตรา 166 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2483
โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดเพื่อฟังกำหนดวันพิจารณานั้น ไม่เรียกว่า โจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตามความหมายในมาตรา 166 ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ฉะนั้นศาลจะยกฟ้อง โจทก์ไม่ได้ อ้างฎีกา 93/2483
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2516
วันนัดฟังประเด็นกลับหาใช่วันนัดสืบพยานไม่ ศาลส่งสำนวนไปให้ศาลอื่นสืบพยานโจทก์ให้ เมื่อสืบไม่ได้ โจทก์จำเลยขอให้ส่งประเด็นกลับและขอให้นัดฟังประเด็นกลับตามวันเวลาที่ตกลงกัน ครั้นถึงวันนัดโจทก์ไม่มาศาล ศาลจะสั่งงดสืบพยานโจทก์ต่อไปหาได้ไม่ และพฤติการณ์ดังกล่าวนี้ยังไม่พอให้ถือว่าโจทก์ประวิงคดี ศาลควรกำหนดวันนัดสืบพยานที่เหลืออยู่ของโจทก์ แล้วแจ้งให้โจทก์ทราบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 127/2524
โจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าประทับฟ้อง จ่ายสำเนา วันนี้นัดพิจารณาเวลา 11.30 นาฬิกาเป็นการสั่งลอยๆ ไม่เป็นกิจจะลักษณะว่านัดพิจารณาอะไรและนัดพิจารณาหลังจากโจทก์ยื่นฟ้องเพียง 1 ชั่วโมงเศษอันเป็นเวลากะทันหัน แม้จะถือว่าโจทก์ทราบกำหนดนัดแล้วไม่มาศาลก็ยากที่โจทก์จะปฏิบัติได้ทันท่วงที ยังไม่เป็นเหตุให้พิพากษายกฟ้องทันที