งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
เช่าตู้นิรภัย ฝากเครื่องเพชร
สูญหาย แบงก์ไม่รับผิดชอบ
สมาชิก
ชื่อนางนิลนุช ไชยศลาภ อายุ 55 ปี อาชีพ ค้าขาย เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2549
ได้เช่าตู้นิรภัยหมายเลข 90 ที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางนา กม.4
ปรากฏว่า เครื่องเพชรที่ฝากไว้ หายไปบางส่วน เช่น แหวนเพชร 3 วง มูลค่า 2,000,000
บาท , นาฬิกาโรเล็ก สายหนัง ของผู้หญิง 1 เรือน มูลค่าประมาณ 50,000 บาท และอีกหลายอย่างที่สูญหาย
แต่ยังตรวจสอบไม่ได้ ประมาณจำนวน
100 รายการ
ขั้นตอนการเปิดตู้
แบงก์จะให้กุญแจตู้นิรภัยไว้ 2 ดอก เวลาเปิดตู้
จะต้องพบกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลตู้นิรภัยโดยตรง
เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลจะให้กุญแจลูกน้องไปเปิดให้คู่กับกุญแจของเรา มีการ์ดให้ลงชื่อคนเดียว หลังจากนั้นได้เดินไปที่ตู้นิรภัย และก็ใช้กุญแจเปิดพร้อมกันสองดอก
หลังจากที่เปิดแล้ว
สมาชิกก็นับของว่าครบหรือไม่ พบว่ามีของหาย ถุงผ้าที่ใส่นาฬิกาไว้
ตัวนาฬิกาไม่ได้ในถุงผ้า อยู่ข้างนอกผ้า นาฬิกาได้หายไป ได้ตรวจสอบประมาณ 3 รอบ ก็ไม่พบของที่หายไป หลังจากนั้นได้ปิดตู้นิรภัย
และเดินลงไปข้างนอก และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลตู้ เขาบอกว่า
เป็นไปไม่ได้ที่ของจะหาย โดยให้เหตุผลว่า ทางคุณเอาไปแล้วลืมหรือเปล่า
ทางเจ้าหน้าที่ยืนกรานว่าเป็นไปไม่ได้ว่าของจะหาย สมาชิกบอกว่าจะต้องแจ้งความ
ว่าของอยู่ในตู้ไม่สามารถเดินออกไปได้
ต่อมาวันที่
22 กันยายน 2549 สมาชิกได้ไปแจ้งความที่สน.บางนา แจ้งข้อหา ลักทรัพย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกกองพิสูจน์หลักฐานจากกรมตำรวจไปที่ธนาคารทหารไทย จำกัด
(มหาชน) สาขาบางนา กองพิสูจน์ไป 2 ท่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนา ไป 2 ท่าน
สารวัตรสอบสวน 1 ท่าน
ชื่อ พ.ต.ต.นพดล
สามารถ พร้อมลูกน้อง 1 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่แบงก์ฝ่ายดูแลตู้นิรภัย
พร้อมผู้จัดการ ขออนุญาตเปิดตู้นิรภัย เพื่อเก็บลายนิ้วมือ
ช่วงที่เจ้าหน้าที่เปิดตู้นิรภัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รอการเปิดตู้
พนักงานที่ดูแลตู้เปิดตู้นิรภัยไม่ได้ มีอาการร้อนรน
ผู้จัดการแบงก์เห็นว่าเปิดตู้ไม่ได้ ก็ได้มาเปิดเอง ตู้ก็เปิด กองพิสูจน์หลักฐานก็เก็บลายนิ้วมือ
ประมาณ 1 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางกลับ
เมื่อวันที่
17 ตุลาคม 2549
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนาได้เดินทางไปที่แบงก์เพื่อไปขอตรวจลายนิ้วมือของพนักงานแบงก์ทุกคน
เพื่อเปรียบเทียบกับกองพิสูจน์หลักฐาน ผลปรากฏว่า ลายเส้นนิ้วมือที่พบไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์
และไม่ได้ดำเนินการใด ๆ อีกเลย
สมาชิกขอฝากความรู้สึกถึงแบงก์ว่า
?อยากจะให้แบงก์รับผิดชอบ
คิดว่า บ้านไม่ปลอดภัย จึงนำไปฝากแบงก์
แต่กลับกัน แบงก์ไม่ปลอดภัยยิ่งกว่าที่บ้านเสียอีก?
? รู้สึกเสียใจที่แบงก์ไม่แสดงความรับผิดชอบ เราเสียใจแล้ว
ก็ต้องมาเสียของอีก?
จึงมาขอคำปรึกษากับอาจารย์เดชาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
1.
กรณีนี้ถึงแม้สัญญาเช่าตู้นิรภัยจะปฏิเสธความรับผิดชอบ
แต่ก็สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากธนาคารเป็นธุรกิจที่น่าไว้วางใจของประชาชน
จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเยี่ยงผู้มีวิชาชีพพึงปฏิบัติมากกว่าบุคคลทั่วไป
การที่ประชาชนนำของมีค่าไปฝากไว้กับธนาคาร
เนื่องจากเชื่อมั่นในระบบรักษาความปลอดภัยและความซื่อสัตย์ตลอดจนความรับผิดชอบที่ธนาคารให้คำมั่นสัญญากับประชาชน
เมื่อธนาคารปล่อยปละละเลยให้มีบุคคลภายนอกหรือพวกมิจฉาชีพเข้ามาขโมยทรัพย์สินในตู้นิรภัยไปโดยไร้ร่องรอย
จึงถือว่าเป็นการกระทำละเมิดตาม ป.พ.พ.มาตรา 420
จึงมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
เทียบเคียงได้กับกรณีนำรถไปจอดในห้างสรรพสินค้า และรถสูญหาย
ห้างปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ศาลฎีกาเคยมีแนววินิจฉัยว่า จะต้องต้องรับผิดชอบ
เนื่องจากห้างมีระบบรักษาความปลอดภัย
แต่ปล่อยให้รถหายได้ทั้งที่บัตรจอดรถยังอยู่กับเจ้าของรถ