คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2567

บทความวันที่ 21 เม.ย. 2568, 13:39

มีผู้อ่านทั้งหมด 136 ครั้ง

เมื่อเลิกสัญญานักแสดงกัน นักแสดงต้องคืนแพลตฟอร์มโปรโมตคืนให้ต้นสังกัด
#เลิกสัญญา #สัญญานักแสดง #บอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2567
             โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาโดยบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดโดยไม่มีเหตุที่จะเลิกสัญญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและจำเลยกระทำละเมิดหมิ่นประมาทโจทก์อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เมื่อไม่ปรากฎว่าโจทก์มีพฤติการณ์ใดที่ส่อไปในทางไม่สุจริตเพื่อกลั่นแกล้งจำเลย ประกอบกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 บัญญัติให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลทุกคนกระทำโดยสุจริตการที่โจทก์ฟ้องจำเลยจึงเป็นการใช้สิทธิฟ้องคดีตามปกติตามบทกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ จะฟังว่าการใช้สิทธิของโจทก์เป็นไปโดยไม่สุจริตหาได้ไม่  ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นไปตามข้อกล่าวอ้างของโจทก์ตามฟ้องหรือไม่เพียงใด เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตามพยานหลักฐานในสำนวนต่อไป
            แม้สัญญาจ้างบริหารจัดการศิลปินระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน  แต่มีข้อสัญญาให้ศิลปินสามารถเลิกสัญญาได้โดยโจทก์เปิดโอกาสให้ศิลปินในวง B ลาออกจากวงได้ก่อนกำหนดของสัญญาไม่ว่าเพราะเหตุผลใดก็ตาม เพียงแต่มีเงื่อนไขตามข้อสัญญาว่า  หากโจทก์ไม่อนุมัติจำเลยจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินเท่ากับ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่โจทก์ใช้จ่ายไปสำหรับการฝึกสอนเท่านั้น   จำเลยมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์ว่าต้องการลาออกจากการเป็นสมาชิกของวง B โดยให้มีผลในทันทีที่โจทก์ได้รับหนังสือ หากโจทก์มีเหตุผลจำเป็นที่จะแจ้งให้จำเลยเลื่อนกำหนดการลาออกของจำเลยไปเป็นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563  เพราะจะทำให้โจทก์ได้รับผลกระทบกับงานจับมือที่ได้ประกาศรายชื่อสมาชิกวง B ที่มีจำเลยเข้าร่วมแสดง อันเป็นวันหลังจากวันงานจับมือสิ้นสุดเพียง 1 วัน และวันที่ 18 มกราคม 2563 ผู้บริหารของโจทก์โพสต์ข้อความผ่าน Instagram ของตนเองขอบคุณจำเลยและศิลปินคนอื่นที่มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว B ด้วย หากโจทก์ยังไม่อนุมัติการบอกเลิกสัญญาเนื่องมาจากยังไม่มีการทำสัญญาไม่เปิดเผยความลับในวันที่ 13 มกราคม 2563 ตามที่นัดจำเลยและผู้ปกครองไปพิจารณา โจทก์ก็สามารถแจ้งแก่จำเลยได้และขอให้ทำข้อตกลงในการเลิกสัญญาเสียก่อน  แต่โจทก์ยังคงให้จำเลยทำการแสดงและประกาศจบการศึกษา เช่นนี้พฤติการณ์ของโจทก์แสดงว่าโจทก์อนุมัติการเลิกสัญญาของจำเลยแล้ว  ส่วนการจบการศึกษาและออกจากวงจะเสร็จสมบูรณ์ต่อเมื่อมีการปลดรูปออกจากโรงละคร และจำเลยยังไม่ได้ปลดรูปจากโรงละครนั้น  หาใช่เงื่อนไขตามกฎหมายหรือข้อสัญญในการเลิกสัญญาไม่ เมื่อข้อสัญญาให้สิทธิแก่จำเลยบอกเลิกสัญญาได้ และจำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์โดยโจทก์อนุมัติการเลิกสัญญาแล้ว  จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยผิดสัญญาจำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
            บัญชี Facebook และ Instagram ของจำเลยที่เปิดบัญชีใหม่เป็นบัญชีที่โจทก์มอบให้ใช้ฐานะศิลปินของโจทก์เพื่อใช้ในการโปรโมตจำเลยในฐานะศิลปินวง B มิใช่บัญชีผู้ใช้อันเป็นสิทธิเฉพาะตัวของจำเลย แม้จำเลยจะทำการโปรโมตตนเองโดยสร้างสรรค์งานหรือคิดวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้แฟนคลับมานิยมมากกว่าศิลปิน B แต่แฟนคลับที่เข้ามาติดตามจำเลยก็เป็นผลสืบเนื่องจากฐานแฟนคลับที่ชื่นชอบวง B ของโจทก์อยู่ก่อนแล้ว จำเลยจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุที่มีผู้ติดตามจำเลยในสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนเพิ่มสูงขึ้นนี้มิใช่ลำพังแต่เพียงตัวจำเลยเท่านั้น  หากแต่เป็นเพราะมีการโปรโมตประชาสัมพันธ์การแสดงและการตลาดโดยโจทก์ให้แก่จำเลยด้วย  แม้ปัจจุบันจำเลยปิดบัญชี Facebook ไปแล้ว และจำเลยได้เปลี่ยนชื่อบัญชี Instagram ลบรูปภาพและคลิปวิดีโอในช่วงที่เป็นศิลปินวง B แล้วก็ตาม แต่จำนวนของผู้ติดตามจำเลยใน Facebook และ Instagram อันเป็นผลมาจากการที่จำเลยเป็นสมาชิกวง B ยังคงมีอยู่ เมื่อสัญญาจ้างบริหารจัดการศิลปินระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นอันเลิกกัน  จำเลยย่อมไม่มีสิทธิใช้บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ Facebook และ Instagram ที่โจทก์มอบให้ตามสัญญาได้อีกต่อไป  จำเลยต้องมอบ username และ password ในบัญชี Facebook และ Instagram  คืนแก่โจทก์
             ศาลมีคำสั่งให้จำเลยคืน username และ password ของ Facebook และ Instagram เป็นลายลักษณ์อักษรให้แก่โจทก์  จำเลยต้องเป็นผู้กระทำการจัดทำหนังสือแจ้ง username และ password ของ Facebook และ Instagram  มิใช่การแสดงด้วยวาจาให้แก่โจทก์ทราบวัตถุแห่งหนี้เป็นเรื่องที่จำเลยต้องกระทำการอันใดอันหนึ่ง หาใช่เรื่องที่วัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้จำเลยกระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ เช่นนี้ศาลไม่อาจสั่งให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ได้
            ข้อความที่่มีการโพสต์ใส่ความโจทก์ไม่ใช่ข้อความที่จำเลยเป็นผู้กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย  แต่เป็นโพสต์ของบุคคลอื่นและเป็นการพูดคุยกันทางช่องทางส่วนตัวระหว่างจำเลยกับ พ.เพียง 2 คน ทั้งการพูดคุยจำเลยมิได้ยืนยันว่าโจทก์ลักของขวัญจากจำเลยไป แม้โจทก์อ้างว่าเหตุที่ พ. โพสต์ข้อความเช่นนั้นเนื่องจากจำเลยแจ้งว่าของขวัญหายโดยมีความประสงค์ให้ พ. เข้าใจว่าโจทก์อาจจะเป็นคนเอาของขวัญไปและเกิดความโกรธแค้นโจทก์ แต่ข้อความที่จำเลยแจ้ง พ.มีเพียงว่า ของขวัญหายไม่ได้มีข้อความกล่าวหาใส่ความว่าบุคคลใดหรือโจทก์เป็นคนเอาไป การที่จำเลยส่งข้อความไปเช่นนั้นแม้เป็นที่มาของการโพสต์ข้อความของ พ.ที่โจทก์อ้างว่าหมิ่นประมาทโจทก์ แต่ก็หาใช่เรื่องที่จำเลยจะเล็งเห็นหรือคาดหมายได้ว่า พ. จะเข้าใจและโพสต์ข้อความดังกล่าว พฤติการณ์ของจำเลยยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำการใส่ความโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอันเป็นการละเมิดโจทก์จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

มีปัญหาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-821-7470