แค้นนี้ต้องชำระ (เมื่อภรรยาจับได้ว่าสามีมีกิ๊ก)
เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่นานผ่านมาได้แค่เดือนเดียว เธอเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ติดต่อมาหาดิฉัน บอกว่าต้องการให้ติดตามดูพฤติกรรมสามี ซึ่งเป็นเจ้าของผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอสงสัยมานานแต่จับไม่ได้สักที ร้านปิดก็ไม่ยอมกลับบ้าน อ้างว่าต้องช่วยลูกน้องเก็บร้าน สามีมีคนขับรถไว้บังหน้า เวลาโทรศัพท์ไปหา คนขับรถจะรับสาย บอกเฮียติดงานตลอด รับโทรศัพท์ไม่ได้ บางครั้งเธอก็เช็ค GPS ที่มือถือของสามี มันก็อยู่ที่ร้านตลอด เธอบอกว่ามันเป็นได้ไง ทั้งๆที่พฤติกรรมมันใช่เลย ตามที่คุณกุ้งเขียนในคอลัมภ์เลย เธอขอนัดพบด่วน เพื่อที่จะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง ดิฉันนัดหมายกับทีมงานคือน้องส้มไปด้วย เพราะงานนี้ต้องมอบหมายให้เธอ เพราะฟังคร่าวๆแล้ว อาจจะได้วิทยายุทธหลายอย่าง ที่ต้องปราบสามีตัวดีของเธอ เรานัดกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้าง เมื่อถึงเวลา เธอเดินเข้ามาคนเดียวพร้อมเอกสารใส่ซองสีน้ำตาลขนาดA4 ในมือ พอเจอหน้าทักทาย เธอไม่รอช้าที่จะเอื้อนเอ่ยเรื่องอื่น ควักเอกสารในซองขึ้นมา เป็นภาพถ่ายของสามีและเฟสบุ๊คต่างๆของหญิงสาวหลายคน ที่เธอสงสัยว่าสามีไปติดพัน เธอบอกไม่แน่ใจว่าคนไหนแน่ เธอสงสัยเยอะขนาดนี้...แบบนี้คงต้องจับปูใส่กระด้ง.. เรานั่งคุยกันไปประมาณ 3 ชั่วโมงคอแห้งน้ำหมดแก้ว พนักงานมองหน้า “สั่งอะไรเพิ่มมั้ยคะ” เรารู้สึกผิดนั่งร้านเขานานไปหน่อย ลูกค้าเดินออกไปแล้ว นั่งทานข้าวกับน้องส้มต่อ คุยเรื่องงานกัน วางแผนงานว่าใครต้องเข้าร่วมทีมบ้าง เพราะงานส่วนใหญ่จะเป็นตอนกลางคืน งานนี้น้องส้มเป็นหัวหน้าทีม หลังจากรับงานมาทีมงานเมาทุกวัน เพราะจะไปจอดหน้าผับเฉยๆ ยามก็คงไล่ ไม่ให้จอด ส้มก็เข้าสั่งสปายดื่มวันละขวด ที่เหลือเป็นน้ำเปล่า ส้มบอก “ยากมาก” ไม่ใช่ง่ายนะ แต่เวลาดริ้งนี่ซิ เพราะส้มไม่ดื่มเครื่องดื่มประเภทของมึนเมา จะมอบหมายคนอื่นไป คอแข็งกันทั้งน้าน ! งานนี้หมดงบแน่ เผลอๆไม่ได้งานด้วย พอมีลูกค้าหญิงคนไหนเดินเฉียวเป้าหมาย ส้มจะโทรแจ้งดิฉัน ดิฉันก็มีหน้าที่เช็คข้อมูลให้ ปรากฎว่า 10 คนที่ตรวจสอบไม่ใช่กิ๊กของสามีซักคน เราไม่เคยสงสัยพนักงานคนไหนในร้านเลย จะเน้นแต่ลูกค้าที่เป็นหญิงสาว และสังเกตุเวลาผับปิด คอยติดตามพฤติกรรมเป้าหมายว่าแวะไหนบ้างก่อนถึงบ้าน เพราะผู้ว่าจ้างบอกว่าอาจจะเป็นพวกเซลส์ขายสินค้า หรือลูกค้าหญิงที่แอบแฝงมา เธอบอกว่าเด็กในร้านไม่มีทางเป็นไปด้วย รู้จักเจ้ทุกคน เธอพูดด้วยความมั่นใจ วันนึงทีมงานสังเกตุเห็นนักร้องหญิงประจำร้านมานั่งเกาะแกะกับเฮีย(เป้าหมาย) จึงเฝ้าดูจับตาเป็นพิเศษเห็นทั้งสองท่าทางสนิมสนมกัน และเดินเข้าไปหลังร้านด้วยกัน ส้มเดินตามไปแต่เข้าไม่ได้เพราะเป็นห้องส่วนตัว เขียนป้ายไว้ “ บุคคลภายนอกห้ามเข้า” หายไปประมาณชั่วโมงเศษ เห็นเฮียเดินออกมาก่อน 10 นาทีผ่านไป นักร้องสาวเดินตามมานั่งที่โต๊ะด้วย ส้มโทรรายงานดิฉันและ Line บอกเธอด้วย ส่งรูปให้เธอดู เธอบอกว่าใช่คนนี้นักร้องที่ร้าน เธอให้เพื่อนที่เป็นเพื่อนเฟสกับหล่อน เช็คข้อมูลให้ เพื่อนส่งรูปที่หล่อนโพสต์ขึ้น เธอเห็นรูปที่เพื่อนได้จากเฟสส่งให้ พอเห็น “นี่มันรถสามีชั้นนี่” เธอบอกจำได้แม่น “พี่ใจเต้นแรงเลย เจ็บใจ มันทำกับเจ้แบบนี้ได้อย่างไร” “พี่จะเข้าไปลุยดีมั้ย” “โอ้ย! อย่าๆคะพี่ เดี๋ยวได้เลือดคะ” ยิ่งบู้อยู่ เธอ Line หาทีมงานตลอด วันนี้ผับปิดตีสามเศษ เฮียใจดีอะไรขึ้นมาพาพนักงานในร้านหลายคนไปเลี้ยงข้าวต้มต่อ รวมทั้งหล่อนนักร้องสาวด้วย หล่อนนั่งรถไปกับเฮีย ถึงร้านข้าวต้มพนักงานไปนั่งสั่งอาหาร เฮียกับนักร้องสาวยังนั่งอยู่ในรถประมาณ 10นาที พอเธอรู้ งานนี้ไม่ใช้ Line หูจะแตกด้วยซิ เธอด่าหล่อนแต่คนฟังเรานี่แหล่ะ เมื่อเป็นเช่นนี้เธอจึงคิดแผนเอาคืนจากสามีบ้าง วันถัดมาเธอไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แกล้งโทรอ้อนสามีว่า เมาแล้วให้มารับด้วย สามีบอกวันนี้ลูกค้าเยอะต้องดูแล “เดี๋ยวส่งคนไปรับ” เธอโกรธมากจากที่ไม่เมากลายเป็นเมาจริงๆเลยคราวนี้ พอเมาแล้วร้องไห้โวยวาย บ่น ด่า สามีสารพัด เพื่อนๆ งงเป็นไก่ตาแตกเลย เพราะสิ่งที่พร่ำออกมาเพื่อนๆไม่มีใครรู้เรื่องเลยด้วย เพราะเธอไม่ได้บอกใครนี่คือแผนอ้อนสามี เวลาผ่านไปประมาณ 2-3ชั่วโมง เธอกลับถึงบ้านในสภาพเมามาย ได้ยินพี่ชายของสามีพูดว่า “สงสัยเธอจะมีชู้ เพราะวันๆเห็นเธอคุยโทรศัพท์และแชททั้งวัน” เธอได้ยินถึงกับหายเมาเลย แต่ไม่ได้พูดอะไร ที่คุยและแชทตลอดเวลาทุกวันน่ะไม่ใช่ใครที่ไหน ก็นักสืบนี่แหล่ะ” เอาละซิต่างคนต่างระแวง เธออ้อนสามีไม่ได้ผล คืนถัดมาประมาณตีสามเศษ ได้เวลาผับปิด เธอไปถึงร้านเห็นกลุ่มนักดนตรีกำลังนั่งแกะเพลงอยู่ “ทำอะไรกันนะไม่กลับบ้านกันเลยหรือ ชวนเฮียกินเหล้าอยู่ได้ เอาจนเช้าเลยรึไง ไม่รู้หรือว่าเขามีลูกมีเมีย” ทุกคนสะดุ้งหันมาที่เจ้เป็นตาเดียว ตอนนั้นนักร้องสาวที่เป็นกิ๊กอยู่ด้วยเธอหน้าถอดสีแต่ไม่พูดอะไร “แกะเพลงไรกัน ใช่เพลงสัมภเวสีป่าว” กลุ่มนักดนตรีเงียบกริบ “ป่าวเจ้! เพลงชื่อสัพเพ สัพตา” ในเหตุการณ์ สามีเธอนั่งกินเบียร์อยู่อีกโต๊ะ เธอเข้าไปนั่งด้วย เห็นนักร้องสาวชงเหล้าแล้วให้นักดนตรีเดินถือมาให้สามี สามีเธอรับไว้ไม่ปฎิเสธ ทั้งๆที่อีกมือถือแก้วเบียร์ เธอทนไม่ไหว “จะกินเหล้าได้ไงในมือกินเบียร์อยู่” สามีเธอบอกว่า “กินได้” “จะกินได้ไงเบียร์กับเหล้ามันคนละกษัยกัน” “เดี๋ยวพี่กินทั้งสองแก้วเลยทั้งเหล้าทั้งเบียร์” เธอพูดกับสามีเป็นนัยๆว่า “คนเราถ้าจะกินต้องเลือกกินไม่ใช่จะกินทีเดียวสองอย่าง” ได้เวลากลับพนักงานทุกคนเดินออกจากร้าน พร้อมทั้งสามีเธอด้วย ส่วนเธอเดินแยกไปอีกทาง ได้ยินสามีพูดกับพวกนักดนตรี ชวนไปที่บ้าน meeting ต่อ เธอได้ยิน “ไปได้น่ะไปได้นะแต่ของใช้ส่วนตัวนะกรุณาเตรียมไปกันเองนะค่ะ เพราะของใช้ส่วนตัวบางอย่างมันใช้ร่วมกันไม่ได้” เธอพูดเสร็จก็เดินขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเธอเล่าให้ทีมงานฟังและยัง Line มาอีก ระบายเรื่องราวต่างๆ ที่จะหาทางแก้แค้นสามี ครั้งแรกเมื่อรู้ เธอบอกเลิกแน่นอน แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ต้องการแก้แค้นสามีและกิ๊ก เธอบอกว่า “ขอระบายหน่อย” ส่งมาทาง Lineเยอะมากจนอ่านไม่ทัน เธอบอกไม่ต้องตอบเจ้หรอก อ่านอย่างเดียวพอ นั่นซิคงพิมพ์ไม่ทันเธอแน่ ขนาดส่งมายังอ่านไม่ทันเลย หลังภาระกิจเราเสร็จเธอยังปรึกษาตลอดเวลา โปรแจ๊คเยอะเหลือเกิน จะทำโน้น นี่นั่น ดิฉันได้แต่เตือนสติว่า “จะทำอะไรก็ได้แต่อย่าเข้าตัว จากคดีแพ่ง เดี๋ยวจะถูกดำเนินคดีอาญาซะเอง อาจจะถูกข้อหาหมิ่นประมาท ได้แต่ให้ข้อคิดและคำแนะนำไป ส่วนเธอจะเชื่อหรือไม่ ก็ต้องรับสภาพเองนะคะ ทุกปัญหามีทางออก คิดไม่ออกบอกไม่ถูกปรึกษานักสืบกุ้งได้คะ!