บ้านใกล้เรือนเคียง
เรื่องนี้เกิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สดๆร้อนๆคะ ประมาณต้นเดือน พฤษภาคม หญิงสาวโทรหาดิฉัน บอกว่า จะเดินทางไปต่างประเทศ ชวนสามีแล้วแต่ไม่ไปด้วย รู้สึกไม่ไว้ใจ อยากจะฝากสามีไว้กับนักสืบสัก 5 วัน แหม่เหมือนโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจเลยนะคะ เธอเล่าถึงชีวิตให้ฟังว่า แต่งงานกันมาประมาณ 20 ปี มีบุตรด้วยกันสองคน เธอและสามีรับราชการเป็นครูทั้งคู่ แต่อยู่คนละโรงเรียน เสาร์ อาทิตย์ สามีมีอาชีพให้เช่า มีแผงพระอยู่ไม่ไกลบ้านมากนัก ช่วงหลังสามีจะนอนค้างบ้านแม่บ่อย แม่มีบ้านหลายหลังไว้ให้เช่า วันนึงอยู่ๆน้องสาวสามีก็มาถามเธอว่า “เมื่อคืนวันเสาร์พี่มานอนที่บ้านแม่เหรอ” ตอนนั้นไม่ทันคิด ก็เลยไม่ได้สนใจคำพูดน้องสาวแฟนที่ถามเธอ และจากพฤติกรรมหลายอย่าง บางทีสามีไม่ค่อยรับโทรศัพท์ กว่าจะโทรกลับก็ผ่านไป 4-5 ชั่วโมง อ้างว่าติดลูกค้า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม โรงเรียนก็ไม่ไปสอน ชวนไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ไป เธอยิ่งสงสัยมาขึ้น จึงมาฝากสามีไว้กับนักสืบนี่ล่ะค่ะ เธอบอกให้ติดตามหลังจากที่เธอขึ้นเครื่องบินแล้ว เริ่มจากสนามบิน เพราะสามีจะไปส่ง หลังจากนั่นจะเข้าบ้านหรือไม่นั้น ให้ติดตามดู ข้อมูลที่ได้รับมา เป็นภาพถ่าย ทะเบียนรถ และข้อมูลหญิงที่สงสัย หล่อนทำงานรับราชการครูเช่นกัน แต่อยู่คนละโรงเรียน ช่วงนี้ปิดเทอม แค่สงสัยเท่านั้นแต่ไม่เคยมีหลักฐาน เพื่อนครูด้วยกันนำมาเล่าให้ฟัง วันแรกเริ่มงาน 6 โมงเย็นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อสามีส่งเธอเข้าสนามบินไปแล้ว ย่างก้าวไปที่ลานจอดรถ นักสืบปฏิบัติภารกิจทันที เราติดตามเขาออกจากสนามบิน ซึ่งเป้าหมายขับรถกลับมาที่แผงพระใกล้บ้าน วันนั้นลูกค้าเยอะ ปิดร้านดึก หลังจากนั้นเข้าก็กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นไปเฝ้าตั้งแต่เช้า แต่เป้าหมายออกจากบ้าน 10.00 โมง ขับรถมุ่งหน้าไปบ้านแม่ เย็นๆก็กลับไปที่แผงพระ ผิดร้านเข้าบ้าน เป็นแบบนี้ 5 วัน ช่วงที่ผู้ว่าจ้างฝากสามีไว้ พฤติกรรมดีมาก เราก็คิดนะ หรือว่าจะรู้ว่ามีคนตาม แต่พฤติกรรมก็ไม่ได้แสดงออกอะไรที่ผิดสังเกตุเลย หรือว่าภรรยาจะคิดไปเอง ในขณะทำงานเราส่ง Line กับลูกค้าตลอด เธอกลับมาถึงเมืองไทย โทรศัพท์มาคุย “เป็นไปได้หรือพี่กุ้ง” ที่เขาไม่มีคนอื่น นักสืบก็รายงานตามที่เห็น เธอได้เล่าเรื่องของสามีให้ฟังเพิ่มเติมอีกมากมาย ดูอาการแล้วก็น่าจะเป็นไปได้นะ น่าจะมีกิ๊ก หรือว่ากิ๊กไม่อยู่ ช่วงที่เธอกลับมาแล้วดิฉันเสนอติด GPS เธอโอเค เห็นด้วย เมื่อวันไหนจะให้นักสืบติดตามก็โทรมา หลังจากที่ติด GPS เมื่อสามีออกจากบ้าน เธอก็คอยเช็คว่าสามีมุ่งหน้าไปทางไหน แล้วโทรบอกนักสืบ วันนั้นโทรหากระทันหันมาก บอกว่าสามีเข้าไปในเมือง เอาละซิจะทันมั้ยเนี่ย ลองดู ดิฉันและทีมงานรีบขับรถเข้าเมือง กว่าจะถึง รถติดมาก ใจนะถึงแล้ว เธอให้รหัส GPS เช็คเอง ยังดีหน่อยมีรถยังไม่ขยับ แต่คนละซิจะอยู่หรือเปล่า ตำแหน่งที่รถสามีเธอจอดเป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป้าหมายหญิงทำงานอยู่ ดิฉันเดินมาถึงรถก็ขยับออกพอดี แต่ไปไม่ไกลเท่าไหร่ยังพอไร่ตามทัน รถไปจอดร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นร้านหรูหราพอสมควร เป็นร้านขายเบเกอรี่และไอศรีม “เอาไงดีพี่” “ก็เข้าไปซิ ไม่เข้าจะไปเห็นตัวได้ไง” ดิฉันและน้องส้มเดินเข้าไปในร้าน เหลือบไปเห็นเป้าหมายชายและหญิงอีก 2-3 คน คนไหนคือเป้าหมายหญิงที่สงสัยล่ะ แอบถ่ายรูปส่งรูปให้เธอดู “กระโปรงแดงพี่คนนั้นคุ้นๆ” ผู้ว่าจ้างตอบมา หยิบเมนูอาหารขึ้นมาดู แม่เจ้า! ราคาไอศรีมแพงหูฉี่เลย ด้วยละ 300 บาท เข้ามาแล้วก็กินซิ! เดี๋ยวเสียฟอร์ม เก็บหลักฐานแล้ว กินเสร็จแล้วเช็คบิลดีกว่า ไปรอข้างนอก ไม่นานกลุ่มเป้าหมายก็ออกกันมา ทั้งหมดขึ้นรถเป้าหมายชายขับไปส่งที่โรงเรียน เมื่อส่งสาวๆเสร็จ สามีเธอก็ขับรถกลับบ้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นกิ๊กหรือเป็นแค่เพื่อนๆ เพราะยังไม่มีใครแสดงออก หลังจากนั้นอีกสองวัน เธอ line บอกว่าจะให้ตามสามีด่วนเลยพรุ่งนี้เช้า เพราะสามีบอกว่าไปธุระต่างกับแม่ เธอแอบโทรไปหาน้องสาวแฟน ไม่มีใครทราบเรื่อง น่าสงสัยที่สุด พอวันรุ่งขึ้นเธอโทรมาเช้า บอกเป้าหมายกำลังจะออกจากบ้าน แต่ดิฉันและทีมงานติดงานอีกเคสหนึ่งอยู่ ให้เธอตามไปห่างๆ เดี่ยวเสร็จงานจะรีบไป เธอแจ้งข้อมูลเป็นระยะ ตอนนี้เป้าหมายมุ่งหน้าชลบุรี เสร็จงานแล้วดิฉันและน้องส้ม มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ ดิฉันเปลี่ยนโหมด GPS เป็นเครื่องดักฟัง ในรถมีเสียงคุยชายหญิง คงรับหญิงมาแล้วแต่ไม่ทราบว่ารับตรงไหน ตื่นเต้นมาก ดิฉันขับรถ น้องส้มเช็ค GPS บอกทาง อีกไม่ถึง 10 กิโล เราจะตามเป้าหมายทัน ภาวนาขออย่าแบตเตอรี่หมดเลย ไม่งั้นจบเห่แน่ สถานที่เป้าหมายไปจอดรถเป็นริมชายหาดบางแสน เราไปไม่ทันตอนเป้าหมายลงจากรถ ก็พยายามเดินหาแต่ไม่ทราบว่าคนไหน ผู้ว่าจ้างเธอตามมาด้วยจึงให้เธอแปลงโฉม ไปเดินกับดิฉัน ชี้เป้าหมายให้หน่อยคนไหน.. เธอเห็นแค่ด้านหลังก็รู้ว่า “นั่นไงไอ้ตัวดีเดินจูงมือกับ...นั่นไง” เธอลมออกหู แต่ดิฉันดึงแขนไว้ใจเย็นๆพี่ นิ่งไว้ก่อน อย่าใจร้อน เข้าไปหลบในรถก่อน เดี๋ยวภาพถ่ายให้ ..ดิฉันภ่ายภาพและบันทึกวีดีโอเต็มที่ เห็นหน้าหญิงชัดๆวันนี้ ก็หนึ่งในกลุ่มวันที่ไปกินไอศรีมกัน เธอบอกว่าคนนี้แหล่ะที่เป็นครู เขาก็รู้นะว่าชายมีเมียมีลูกแล้ว แบบนี้จะทำอย่างไรดีคะพี่กุ้ง “ใจเย็นๆ” อากาศก็ร้อนบอกให้เธอใจเย็นก็ยาก ไปซื้อน้ำแข็งมากระติกดับอารมณ์ให้เธอก่อน เธอมากับเพื่อนหนึ่งคน ให้เพื่อนกลับไปก่อนแต่เธอขอไปกับดิฉันด้วย ไปได้ค่ะ แต่ห้ามของขึ้นนะ! เธอบอกโอเค หลังจากเดินชายหาดทะแล้ว ทั้งสองไปนั่งรับประทานอาหารทะเลด้วยกันแบบคู่รัก วันนี้นักสืบอดอาหารทะเล มาแธอมาด้วยไม่กล้าพาเข้าร้านเดี๋ยวร้านอาหารจะแตก จะทิ้งไว้คนเดียวก็เดี๋ยวของขึ้นอีก ต้องหนีบไว้ใกล้ๆตัว กินข้าวเสร็จทั้งสองแวะเดินซื้อของฝาก ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน หญิงก็ยังอยู่ในรถ จะพากันไปไหนเนี่ย “ นั่นมันทางไปบ้านนะ” เธอบอก เป้าหมายขับรถเข้าหมู่บ้าน แต่เลี้ยวไปอีกซอย จอดรถหน้าบ้านหลังหนึ่ง หญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้าน เห็นตอนเดินจูงมือ ลมออกหูทีล่ะ พอรู้ว่ากิ๊กสามีอยู่คนละซอยนี่สิ เจ็บใจมากกว่าเดิม เธอจะเปิดประตูรถลงไปเฉ่ง แต่ดิฉันล๊อคประตูห้ามลงเพราะเดี๋ยวมีเรื่อง ซวยเราละซิ สามีเธอพอออกจาหน้าของหญิงก็เธอหาเธอเลยบอกว่า ที่รักวันนี้จะเข้าไปกินข้าวที่บ้านนะ ใกล้ถึงบ้านล่ะ เธอนั่งด่าสามี สารพัดสัตว์เต็มสองหูของดิฉันละซิ ! โทรไปทั้งวันไม่รับสาย จะมาโทร..อะไรตอนนี้ เธอบอกโคตรเจ็บใจเลยที่สามีทำแบบนี้ อยู่ที่ไหนไม่อยู่ หมู่บ้านเดี่ยวกัน แค่ละซอย ที่จับไม่ได้สักทีแบบนี้นี่เอง แค่เดินออกจากบ้านเมียหลวงก็เข้าเมียน้อยได้เลย...คนเรานะ สารพัดรูปแบบจริงๆ ทำเนียนสุดๆ แบบนี้นักสืบก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทันเหมือนกัน.....แต่คนเราทำอะไรไว้ก็ได้แบบนั้นล่ะคะ เวรกรรมตามทันชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ