ไม่มีใครอยากให้ถูกเรียกชื่อแบบนี้หรอกใช่มั้ยค่ะ แต่ถ้าไม่อยากให้ใครมาด่าว่าเป็นเมียน้อย เป็นกิ๊ก
บทความวันที่ 28 มี.ค. 2560, 00:00
มีผู้อ่านทั้งหมด 14314 ครั้ง
หญิงชู้
ไม่มีใครอยากให้ถูกเรียกชื่อแบบนี้หรอกใช่มั้ยค่ะ แต่ถ้าไม่อยากให้ใครมาด่าว่าเป็นเมียน้อย เป็นกิ๊ก หรือเป็นชู้แย่งผัวชาวบ้านเขา เราก็อย่าทำผิดศีลธรรมกันเลย เมียหลวงคนนี้เธอปรึกษาดิฉันมานานกว่าจะใช้บริการ เธอทำงานรับราชการ เงินเดือนก็ไม่มากมายอะไร สามีทำงานรับราชการตำรวจ ส่วนกิ๊กเป็นแม่พิมพ์ของชาติคะ เป็นอาจารย์สอนระดับมหาวิทยาลัยเชียวหล่ะ เธอระแคะระคายมานาน แต่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันซักที เพราะสามีบอกว่าเข้าเวร แลกเวรเพื่อน มีงานด่วน สารพัดจะนำมาอ้าง เงินก็ไม่ค่อยมี แต่เจ็บใจจึงพยายามเก็บได้ก้อนหนึ่งเพื่อมาจ้างนักสืบ เธอบ่น “ตามไม่ไหวแล้วเหนื่อยใจ” ในขณะที่เล่าเรื่องราวให้ฟังก็เธอน้ำตาไปด้วย มีลูกสาวหนึ่งคน อายุ 7 ขวบ เคยเห็นพ่อนั่งเล่นโทรศัพท์นานๆแบบไม่สนใจใครเลย พ่อบอกคุยกับเจ้านาย ไม่สนใจลูกว่าจะทำการบ้านแล้วหรือยัง เสาร์-อาทิตย์เป็นวันหยุด พ่อไม่เคยพาไปเที่ยวนอกบ้าน บอกว่าต้องไปเข้าเวร บางวันที่พ่อขับรถไปส่งที่โรงเรียน ก็มีวีดีโอ Line เข้ามาเป็นหญิงสาว พ่อใช้ small talk เลยไม่รู้ว่าคุยอะไร ส่วนลูกสาวพ่อก็ยื่นโทรศัพท์อีกเครื่องให้นั่งเล่นเกม ไปจนถึงโรงเรียน เบี่ยงประเด็นไม่ให้ลูกสนใจ แต่เด็ก 7 ขวบก็โตพอรู้เรื่อง ได้เก็บเรื่องดังกล่าวไปบอกแม่ แม่ทราบยิ่งเจ็บใจเข้าไปอีก เธอบอกอยู่กันมาตั้งแต่ฝ่ายชายเรียนยังไม่จบไม่มีทรัยพ์สินเงินทองอะไรเลย เธอสอบบรรจุได้ก่อนมีเงินเดือน พอลืมตาอ้าปากได้ ก็กู้เงินสวัสดิการซื้อบ้านผ่อนเกือบหมด สามีสอบบรรจุได้ภายหลัง ทำงานด้วยเรียนปริญญาโทไปด้วย ชีวิตเริ่มดีขึ้น แต่ด้วยความโชคร้ายของเธอ ที่สามีได้เพื่อนใหม่เป็นหญิง แรกๆไม่มีอะไร หล่อนก็มีแฟนแล้วเช่นกัน เคยมาที่บ้านทำรายงานกัน ช่วงหลังเธอมีปัญหากับแฟนได้นำเรื่องต่างๆมาปรึกษาสามี สามีก็ยังเคยนำเรื่องของหล่อนมาเล่าให้ฟังว่าน่าสงสาร เธอไม่คิดอะไรเห็นเป็นเพื่อนกัน ก็นิ่งเฉยบางครั้งพูดปลอบใจด้วยซ้ำ สามีเริ่มคุยกับหล่อนมากขึ้น เธอผิดสังเกตุถามก็อ้างว่าปรึกษาเรื่องวิทยานิพนธ์ คุยกันมากขึ้น แชทกันทาง Line เธอไม่สามารถดูได้ว่าเขาคุยอะไร ใส่รหัสล๊อคเครื่องไว้ แต่จะแอบเห็นบ้างเวลาข้อความเด้งขึ้นมา ก่อนเปิดอ่าน เธอกังวลมากขึ้น โทรปรึกษาดิฉันเรื่อยมา จนกระทั่งสามีเรียนจบปริญญาโท คิดว่าทุกอย่างจะโอเค เพราะต่างฝ่ายก็ต้องแยกย้ายกันไปโอกาสที่จะมาเจอกันเหมือนตอนเรียนคงไม่มี ทุกอย่างเหมือนลงตัว ฝ่ายหญิงเรียนต่อระดับปริญญาเอกได้ทุนจากมหาวิทยาลลัยที่สอน คงไม่มีเวลามาพบสามีหรอก เธอคิดแบบนั้น หลังๆฝ่ายชายก็อ้างว่าเข้าเวรบ่อย วันนึงเขามาบอกว่าต้องไปราชการต่างจังหวัดทางภาคอีสาน เดี๋ยวแวะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ พอถึงเขาจอดรถไว้หน้าบ้าน หลานชายเดินมาทางรถเห็นหญิงผมยาวหน้าตาดี นั่งในรถ จึงโทรมาหาเธอและถามว่าหญิงที่มากับคุณอา... เป็นใคร ไม่ยอมลงรถ เธอรีบวางสายโทรไปหาสามีทันที เขารับสายบอกเพียงว่าอยู่กับแม่ และปิดโทรศัพท์ไปไม่ตอบคำถาม กลับเข้ากรุงเทพไม่ยอมเข้าบ้าน อ้างว่าต้องทำงานให้นาย อาศัยช่วงปฎิวัติ พอฟังจบเราก็รู้สึกเจ็บใจอยู่ลึกๆนะ ถ้าเป็นอย่างที่เธอเล่าจริง สามีเธอต้องโกหกแน่ แต่ขณะนั้นจะทำงานยากมากไปไหนมาไหนก็ระมัดระวัง ขับรถดึกๆบนท้องถนนตำรวจก็ต้องเรียกตรวจ ทหารตำรวจเต็มไปหมด ดิฉัดคิดในใจว่า “เขาจะกล้าเหรอ” ทิ้งจุดได้หรือ แต่ก็นั่นแหล่ะคนจะมีกิ๊กมันห้ามไม่ได้ ต้องหาทางไป ทีมงานเฝ้าสะกดรอยตามอย่างระมัดระวังมาก อาชีพตำรวจย่อมมีซิกเซ้นที่ดี เตือนทีมงานนักสืบทุกคนให้ระมัดระวัง ก็อย่างที่บอกข้าวใหม่ปลามันย่อมดีกว่าของเก่า เราสะกดรอยตามจนทราบที่พักของชายซึ่งเป็นบ้านพักสวัสดิการตำรวจ แต่เป็นห้องของคนอื่นที่สามีเธอขอไปพัก และยังไม่พอนำหล่อนที่เคยเป็นเพื่อนแต่ตอนนี้กลายมาเป็นเพื่อนนอน มาพักด้วย อยู่กันแบบผัวเมียเลย ซึ่งสถานที่ตรงนี้ก็ค่อนข้างส่วนตัว การเข้าไปเก็บข้อมูลก็ต้องระมัดระวัง รอให้ทุกคนหลับก่อน นักสืบย่องเข้าจนถึงหน้าห้องพัก เห็นรองเท้าชายหญิง วางหน้าห้องคู่กัน จึงถ่ายภาพเก็บเป็นหลักฐาน ส่งให้เธอดู พอเห็นภาพรองเท้าเธอพูดทันที “นี่มันของผัวชั้นนี่และอีกคู่ชั้นก็จำได้ของอีหญิงชู้ มันเคยใส่มาทำวิทยานิพนธ์ที่บ้านชั้น.....และ” สารพัดสัตว์ตามมา ดิฉันรีบวางหูก่อนที่จะหนวก เพราะเสียงเธอแหลมม๊าก เราเฝ้ารอตรงนั้นไม่ได้ กลับไปตั้งหลักก่อน เช้าค่อยรีบมาแต่เช้ามืด รอเก็บหลักฐานขณะที่ทั้งสองคนออกจากห้องพัก หล่อนก็ฉลาดพอสมควรไม่ยอมออกจากห้องพร้อมกัน ปล่อยให้ชายออกไปก่อนและทำเป็นล๊อคห้องข้างนอกไว้ เหมือนไม่มีคนอยู่ คิดจะมาหลอกนักสืบมืออาชีพอย่างเราเหรอ คงยาก! เราไม่ตามอย่างเดียวนะคะ จิ๊กด้วย! อาศัยประสบการณ์ที่ทำมานาน พอรายงานไปเธอบอกว่าวันนี้จะโทรเข้าที่ทำงานสามีและบอกผู้บังคับบัญชา ดิฉันบอกเธอให้ใจเย็นไม่ต้องรีบถ้าต้องการหลักฐาน ในวันถัดมา เขายังไม่ทราบว่ามีคนสะกดรอยตาม ยังทำตัวปกติอยู่ บอกเมียว่านอนที่ทำงาน นายให้เฝ้า 24 ชั่วโมง วันนั้นเขาขับรถไปรับหล่อนที่ทำงานและพามาแวะทานก๊วยเตี๋ยวก่อนถึงบ้านพัก ทั้งสองกำลังทานก๊วยเตี๋ยว นักสืบกำลังถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน เธอโทรเข้ามาถามว่าเป็นไงบ้าง บอกว่าทานก๋วยเตี๋ยวหน้า 7-11 ซอย.... เธอบอกอ้าวเหรอ! กำลังจะกลับเข้าบ้านทางผ่านพอดีเดี๋ยวแวะ ทีมงานดิฉันไม่เคยหน้าตาผู้ว่าจ้างมาก่อน ก็ไม่ทราบว่าหญิงที่ลงจากรถเก๋งและเดินเข้าไปถ่ายคลิปและตะโกนด่า อีหญิงชู้ อีเมียน้อย. มาแย่งผัวชาวบ้านเขา นั้นเป็นใคร หล่อนหยุดกินและเดินไปที่รถสตาร์ทเครื่องขับออกไป ชายนั่งเอ๋ออยู่ งงเกิดอะไรขึ้น ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนั่งกินต่อ บอกให้เมียหลวงที่ยืนด่า “นั่งก่อนคุยกัน” แต่เธอของขึ้นอยู่ค่ะ ด่าต่อด้วยความโมโห นักสืบก็ตกใจว่าเป้าหมายจะรู้ว่ามีคนมาตาม รีบกระเจิดกระเจิงเอาตัวรอดไปก่อน ปล่อยให้เธอด่าแช่งสามีไปก่อน คนเริ่มมองมากขึ้น เธอบอกลืมความอายไปเลย ใจมีแต่ความเจ็บแค้น เธอกลับมาหาดิฉันอีกหลังจากที่เกิดเรื่อง สามีไม่ยอมหยุดแถมด่าเธอหาว่าทำเกินกว่าเหตุ เธอมาให้ดิฉันฟ้องชู้กับหล่อน หลังจากฟ้องชู้ไปแล้ว มีนัดขึ้นศาลหล่อนไปบอกศาลว่าตอนนี้คิดถึงเรื่องอนาคต เลิกแล้วกับชายคนนี้แล้ว ฝ่ายชายมาตื้อเธอเอง เธอไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรเลย มีแต่ชายที่ไม่ยอมเลิกรา พอหลังจากกลับจากศาลเมียหลวงขับรถแอบไปที่บ้านหล่อน เห็นชายนุ่งผ้าขนหนูตากผ้าหน้าบ้าน ..แบบนี้เขาเรียกว่าเลิกอะไรค่ะ สามีเหลือบมาเห็นเธอ เรียก รปภ.มาให้ไล่เธอออกจากหมู่บ้าน ตอนแรกเรื่องเหมือนจบลงด้วยดี หล่อนไม่น่าจะมาหลอกกันเลย ตอนนี้เลยถึงขึ้นร้องเรียนผู้บังคับบัญชาของหล่อนไปแล้ว คงไม่รอดแน่! นี่ละคะชีวิตเอาอนาคตตัวเองมาเสี่ยงแท้ๆ ผู้ชายหาไม่ยากหรอกค่ะ แต่หาที่ดีและไว้ใจได้ยากไม่ค่อยจะมี มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ