คุณนาย...
สาวใหญ่เจ้าของธรุกิจ เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ทในกรุงเทพและต่างจังหวัดหลายแห่ง ปัจจุบันยกกิจการให้ลูกชายลูกสาวบริหารงานทั้งหมด ทุกสิ้นเดือนลูกจะเอาเงินเข้าบัญชีให้คุณแม่และคุณพ่อคนละห้าแสนบาท คุณพ่อชอบตีกอล์ฟ ฟังดูชีวิตดีดี้เหมือนมีความสุอยู่บนกองเงินกองทอง กิน..เที่ยว..ช๊อบ.. สังสรรค์เพื่อนฝูง เข้าวัดทำบุญ แต่ทำไมลูกชายสงสัยอะไรในตัวคุณแม่ เขาต้องการทราบพฤติกรรมของแม่ สาเหตุคือ คุณแม่แต่งตัวออกจากบ้านทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เธอจะออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กลับดึกเป็นแบบนี้ประจำ ส่วนคุณพ่อก็ต่างคนต่างไป คุณพ่อชอบตีกอล์ฟ สังสรรค์เพื่อนๆ ตามประสาคนมีตังค์วัยเกษียณ คุณพ่อและคุณแม่ ต่างคนต่างใช้ชีวิต ทางใครทางมัน พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน นอนห้องเดียวกัน แต่ไม่กินข้าวด้วยกัน กลับดึกถึงบ้านเข้านอน ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมมั้ยลูกๆไม่รู้ พฤติกรรมคุณแม่ที่เห็นคือ แต่งตัววัยรุ่นมาก เสื้อผ้าสีสัน สไตล์วัยรุ่น แต่งหน้าจัด ลูกชายเล่าเรื่องไปก็หยิบรูปภาพของคุณแม่ให้ดูด้วย “เออ สดใสจริงๆ” เธออายุเกือบ 60 ปีหน้าตาผิวพรรณยังเช้งกระเดะยังกะสาววัย 30 ปี รักษารูปร่างได้ดีมาก เธอใส่กางเกงขาสั้น เสมอ..แหล่ะ เสื้อกางเกง รองเท้ากระเป๋าสีเดียวกัน มัดโบว์ที่หัว สาวๆอายค่ะ “ข้อมูลผมมีเท่านี้ครับ” ออกจากบ้านเช้าและกลับดึก ระยะหลังคุณแม่ขอเงินเพิ่ม และบ่อยครั้ง ถ้าไม่ให้ก็ขู่ว่าจะเอากิจการคืน “เพราะมันเป็นของชั้น จะเอาคืนเมื่อไหร่ก็ได้” เมื่อมาพูดแบบนี้ ลูกๆก็กลัวซิค่ะ “คุณแม่เล่นการพนันมั้ยค่ะ” “ไม่ทราบครับ” “พี่ช่วยดูให้ผมหน่อย ก็สงสัยว่าคุณแม่เอาเงินไปทำอะไรมากมาย” พี่กุ้งช่วยผมหน่อยแล้วกันครับ” ได้เลยคร่า ! ขอให้บอกให้วัตถุประสงค์ รับข้อมูลแล้วก็ประชุมทีมงานซิค่า เธอเปรี้ยวมากจะให้นักสืบคนไหนทำดีล่ะ กุ๊บกิ๊บกับโอริ่ง น่าจะเหมาะ ทำงานเช้าด้วย ต้องเฝ้าตั้งแต่ 6 โมงเช้า เธอจะไปไหนหนอ ? งานการก็ไม่ทำ วันแรกกุ๊บกิ๊บกับทีมงานไปเฝ้าไปตั้งแต่เช้า เห็นรถBMW สปอร์ตสีแหลืองอร่ามจอดอยู่ในบ้าน ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะหายไปไหน รถสีนี้ไม่มีใครใช้แน่ เธอออกบ้านประมาณ 9 โมงเช้าแวะร้านเสริมสวยทำผมใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นขับรถไปที่ห้างสรรพสินค้าหรูกลางใจเมือง เข้าร้านอาหารญี่ปุ่นมีชายหนุ่มรุ่นลูกนั่งรออยู่ 2 คน “สงสัยจะเป็นหลานชายอ่ะป่าว” ส่งรูปให้ลูกชายดูบอกไม่รู้จักสักคน “งั้นคงเป็นคนรู้จักมั้ง” กินอาหารเสร็จเดินช๊อปปิ้ง เข้าร้านนาฬิกาสุดหรู เธอซื้อให้ชายหนุ่มคนละเรือน ราคาไม่เบาเลย หนุ่มสองคนหิ้วแขนคนละข้างเดินพาเข้าร้านกระเป๋า ได้มาอีกคนละ 1 ใบ ตกลงหนุ่มสองคนนี้เป็นญาติฝ่ายไหนของเจ้นะ เธอใช้เวลาเดินช๊อปปิ้งในนานมาก “จะเหมากันเลยหรือ” หนุ่มทั้งสองหิ้วของพะรุงพะรังมาเก็บที่รถ เข้าไปเดินอีกรอบ “ยังไม่พออีกหรือ? แค่นี้จิ๊บๆ สำหรับเจ้” กุ๊บกิ๊บกับโอริ่งเดินจนเหมื่อย นั่งลิ้นห้อย แฮ่กๆ เจ้พาสองหนุ่มเข้าโรงหนังอีกแล้ว ห้างปิดต่างคนต่างไป เธอกลับเข้าบ้าน วันแรกยังไม่รู้หรอกว่าสองหนุ่มคือใคร วันที่สองเธอออกจากบ้านเวลาเดิมมีเลขาสาวออกมาด้วย เธอพาเลขาไปเดินซื้อเสื้อผ้าแพทตินั่ม แต่ละชุดที่เธอซื้อ สีสันคัลเลอร์ฟลูมาก วัยรุ่นสุดๆ เลขาหิ้วไหล่แทบหลุด ออกจากแพทตินั่มพากันไปที่ห้างสรรพสินค้าหรูอีก เธอเดินเข้าไปในร้านอาหารสุดหรูของห้างมีคนนั่งรออยู่ 3-4 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนเมื่อวานด้วย และได้ยินหนุ่มแนะนำว่าเป็นพ่อกับแม่และยาย มากันทั้งครอบครัวเลย ทีมงานหาโต๊ะใกล้ที่สุดเผื่อฟังการสนทนา ได้ผลดี พ่อแม่ชายหนุ่มเอ่ยปากฝากเนื้อฝากตัวของลูกชายไว้กับเธอ เธออ่อนน้อมเหมือนหญิงสาวแรกรุ่น “นี่มันแฟนใหม่เธอหรือ” เรายังไม่แน่ใจ กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไป วันนี้เธอคงมาเปิดตัวกับพ่อแม่ของหนุ่ม พรุ่งนี้ว่ากันใหม่ เราเริ่มรู้ทางเจ้ล่ะ ว่าชอบไปที่ไหน วันที่ 3 ตามต่อกันเลย ไม่น่าพลาดวันนี้เธอขับรถออกจากบ้านคนเดียว เข้าร้านเสริมสวยเสร็จต่อไปที่ห้างเดิมอีก เธอไม่รู้จักที่อื่นเลยหรือ เธอมาถึงห้างก่อนเดินเลือกของขวัญสำหรับผู้ชาย ให้พนักงานห่อให้อย่างดี เราก็ได้แต่ยืนมองซื้อไม่ลงเลยราคาแต่ละชื้นเป็นหมื่น ได้ของขวัญแล้วเดินที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน เห็นชายหนุ่มนั่งรออยู่ เธอยื่นของขวัญให้ “Happy birthday กินเสร็จสองคนเดินจูงมือกันเดินเล่นในห้าง เข้าร้านไอติม ออกจากร้านเดินข้ามทางเชื่อมไปที่โรงแรมที่ติดกัน เจ้เดินไปเปิดห้องราคาไม่เบา กุ๊บกิ๊บเดินไปถามราคา “ค่าห้องพัก Superior 9,000 บาทค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” กุ๊บกิ๊บเดินออกจากเคาเตอร์ทันที นั่งรอล๊อปปี้ดีกว่า รายงานให้ลูกชายทราบว่าแม่เข้าโรงแรมกับชายหนุ่ม “เค้าอาจจะมาปรึกษาหารือเรื่องงานกันมั้งค่ะ” ดิฉันปลอบใจไปแบบนั้น “ พี่กุ้งให้ทีมงานถ่ายรูปไว้ให้ผมด้วยนะครับ “จัดไปค่ะ” ผมติดลูกค้าต่างชาติ เราสั่งน้ำส้ม 2 แก้วเช็คบิล 500 บาทน้ำส้มโครตแพง เอาส้มจากประเทศไหนว่ะ!แพงหูฉี่เลย เจ้หายไป 3 ชม. เดินมาล๊อปบี้หน้าสดชื่นเชียว เธอแยกกับชายหนุ่มขับรถกลับบ้านเพราะดึกแล้ว “พรุ่งนี้พี่ติดตามให้ผมอีกนะครับ” ลูกชายโทรมาย้ำต้องการความชัดเจน สบายมากเลยถ้าตามเธอไม่ทันก็มาที่ห้างนี่แหล่ะตั้งแต่ตาม เธอมาที่นี่ทุกวัน จอดรถที่ประจำ สีเหลืองไม่เหมือนใคร ไม่มีทางคลาดสายตา จุดเด่นอยู่เสื้อผ้าการแต่งกาย ถึงห้างวันนี้เธอเดินคนเดียวยกข้อมือดูนาฬิกา..... เห็นเด็กหนุ่มเดินมาสวัสดี “ใครล่ะ?” คนละคนกับเมื่อวาน เจ้นี่มีเด็กในสังกัดเยอะจัง เอามาจากแคทตาลอค หรือว่าเจ้แกเป็นเจ้าของซุปเปอร์โมเดล ...? เธอพาเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ไปทานข้าวร้านอาหารจีน ออกจากร้านมาพาเด็กหนุ่มไปซื้อเสื้อผ้าจัดไปหลายชุด เดินข้ามฝั่งไปโซนโรงแรม เจ้เดินไปเอากุญแจ ขึ้นลิฟท์ไป คราวนี้อยากรู้ว่าเจ้จะขึ้นไปไหนเข้าห้องหรือเปล่า วิ่งตามเข้าลิฟท์ไปด้วย เธอออกชั้น 50 “ออกด้วยค่ะ” เดินตามแบบเนียนๆเธอไขห้องเข้าพร้อมหนุ่มหน้าตาดี กุ๊บกิ๊บเดินเลยไปสุดทางรอให้เธอเข้าไปให้เรียบร้อยก่อน เดินย้อนจะกดลิฟท์ลง “อ้าว..มันต้องคีย์การ์ด” ยืนเล่นมือถือเนียนๆไปจ้า “ ป้าคะๆ ! กดลิฟท์ให้ด้วยค่ะพอดีลืมเอาการ์ออกมาค่ะ” เฮ้ย! โล่งอกไปที คิดว่าไม่รอด...งานนี้เธอคงไม่ได้เลี้ยงใครเป็นตัวตน เพราะหนุ่มที่เจอไม่ซ้ำหน้า เงินที่หมดคงใช้จ่ายไปกับการซื้อบริการเด็กหนุ่ม ตามที่เราเห็นนะคะ ลูกชายได้รับรายงานพูดไม่ออก พูดสั้น “ขอบคุณมากครับพี่กุ้ง เดี๋ยวผมจะจัดการเอง” ที่เหลือไม่ทราบแล้วค่ะ หมดภาระกิจของนักสืบกุ้งแล้ว มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ