ผู้พิพากษายกฟ้องคดี จึงฟ้องผู้พิพากษากลับว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 มีความผิดฐานดูหมิ่นผู้พิพากษาแต่ไม่ผิดฟ้องเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4302/2563
จำเลยฟ้องโจทก์ร่วม จำเลยบรรยายฟ้องในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้่นตามกระบวนพิจารณาซึ่งรวมทั้งได้คัดใจความที่โจทก์ร่วมในฐานะผู้พิพากษามีคำสั่งในสำนวนความคดีอาญาตรงตามความเป็นจริง แต่จำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของโจทก์ร่วมในปัญหาข้อกฎหมายว่าด้วยการออกคำสั่งงดไต่สวนมูลฟ้องและมีคำพิพากษายกฟ้อง รวมทั้งคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วม เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นการระบุบทกฎหมายในฐานความผิดจากข้อเท็จจริงตามฟ้อง ข้อความดังกล่าวมิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงให้แตกต่างจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตามกระบวนการพิจารณาในคดีดังกล่าว แต่เป็นการยืนยันความเห็นที่แตกต่างในข้อกฎหมายตามความเข้าใจของจำเลยซึ่งไม่อาจถือว่าเป็นความเท็จ การฟ้องคดีอาญาของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175
โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้พิพากษาเป็นผู้พิจารณามีคำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง ย่อมเป็นการยืนยันถึงการใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ร่วมว่า เป็นการมีคำสั่งภายในขอบอำนาจตามกฎหมายบัญญัติไว้ มิได้เป็นการสั่งโดยไม่มีเหตุผลรองรับตามกฎหมายที่จะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีและมีความรู้ทางกฎหมายย่อมทราบและเข้าใจถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาว่าโจทก์ร่วมใช้ดุลพินิจมีคำสั่งในคดีตามบทบัญญัติของกฎหมาย มิใช่เป็นการมีคำสั่งโดยอคติและไม่ยุติธรรมแก่จำเลย แต่จำเลยกลับนำคดีมาฟ้องกล่าวหาโจทก์ร่วมว่าการที่โจทก์ร่วมมีคำสั่งงดไต่สวนมูลฟ้องและพิพากษายกฟ้องโจทก์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นับว่าเป็นเรื่องร้ายแรง กรณีเช่นนี้แม้จำเลยมิได้กล่าวก้าวล่วงโจทก์ร่วมมาในคำฟ้อง แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการกล่าวหาว่าโจทก์ร่วมมีเจตนากระทำโดยมิชอบด้วยหน้าที่และข้อกล่าวหาในฟ้องย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าการใช้ดุลพินิจของโจทก์ร่วมไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการบั่นทอนและลดคุณค่าในการพิจารณาพิพากษาคดีในหน้าที่ของผู้พิพากษาคดีในหน้าที่ผู้พิพากษาของโจทก์ร่วม ทำให้ประชาชนทั่วไปซึ่งมิได้รู้ข้อเท็จจริงในเชิงลึกของคดี ขาดความเชื่อมั่นหรือเชื่อถือต่อกระบวนการยุติธรรมของศาลยุติธรรม จำเลยจะอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิทางศาลและได้รับ ความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญย่อมเป็นเหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้ เพราะการใช้สิทธิทางศาลนั้นจะต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย และต้องกระทำโดยสุจริตที่บุคคลทั่วไปพึงกระทำ เมื่อไม่ปรากฎว่าโจทก์ร่วมใช้อำนาจในทางที่มิชอบผิดไปจากที่กฎหมายให้อำนาจไว้ จึงฟังได้ว่าการฟ้องคดีของจำเลยเป็นการฟ้องแกล้งกล่าวหาโจทก์ร่วมตามอำเภอใจโดยอาศัยเหตุที่จำเลยเสียประโยชน์ในผลแห่งคดี หาใช่เป็นการใช้สิทธิทางศาลตามปกติและโดยสุจริตหรือไม่ จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198(เดิม)
#ทนายคลายทุกข์ #หมิ่นประมาท
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161