ประกันไม่จ่ายเมื่อไม่เข้าเงื่อนไขกรมธรรม์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2565
กรมธรรม์ประกันภัย หมวดคุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ ข้อ 1 ข้อตกลงคุ้มครอง ระบุว่า จำเลยร่วมจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อรถยนต์สูญหายไป อันเกิดจากการกระทำความผิดเฉพาะฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ข้อ 2 การชดใช้ความเสียหายหรือสูญหายต่อรถยนต์ ข้อ 2.1 ระบุว่า ในกรณีรถยนต์สูญหาย อันเกิดจากการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ จำเลยร่วมจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนเงินเอาประกัน โดยผู้เอาประกันหรือผู้รับประโยชน์แล้วแต่กรณีต้องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้แก่จำเลยร่วม ข้อ 5 การยกเว้นรถยนต์สูญหาย ระบุว่า การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง ข้อ 5.1 ความสูญหายอันเกิดจากการลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ โดยบุคคลได้รับมอบหมายหรือครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่า สัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจำนำ หรือโดยบุคคลที่จะกระทำสัญญาดังกล่าว ดังนั้น การพิจารณาความรับผิดของจำเลยร่วมจึงต้องพิจารณาว่ากรณีรถยนต์สูญหายได้รับความคุ้มครองตามข้อ 1 หรือไม่เป็นลำดับแรก หากได้รับความคุ้มครองตามข้อ 1 แล้ว จึงจะพิจารณาว่าเข้าข้อยกเว้นที่การประกันภัยไม่ได้คุ้มครองตามข้อ 5 หรือไม่เป็นลำดับถัดไป ส่วนข้อ 2 เป็นเพียงข้อกำหนดเกี่ยวกับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจะนำมาพิจารณาต่อเมื่อวินิจฉัยว่าจำเลยร่วมต้องรับผิด
อ.หลอกลวงจำเลยที่ 1 ว่าต้องการเช่าซื้อรถยนต์พิพาทซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 โดยจะไปขอเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับโจทก์เองอันเป็นความเท็จ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 หลงเชื่อมอบรถยนต์พิพาทให้ อ. จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง กรณีมิใช่รถยนต์พิพาทสูญหาย อันเกิดจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์ แต่เกิดจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อ 1 จำเลยร่วมจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยแก่โจทก์และจำเลยที่ 1
#ทนายคลายทุกข์ #กรมธรรม์ประกันภัย #ค่าสินไหมทดแทน
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161