สามี...ไม่ทำการบ้าน
ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลเลี้ยงลูกอยู่บ้าน สามีมีหน้าที่ทำงานหาเงิน แต่เดี๋ยวนี้ให้สามีหาเงินคนเดียว คงอดตายแน่ ค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ ไอแพค ไอโฟน เทคโนโลยี่สารพัด ใครไม่มีก็เชย ไหนจะของคุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก ไว้เล่นเน็ต เล่น LINE ไว้แชท แชร์ กันอีกล่ะ คุณแม่บ้านทั้งหลายก็ต้องออกไปทำงานนอกบ้านเพื่อหาเงินช่วยเหลือแบ่งเบาภาระ แต่ผู้หญิงสมัยนี้ก็เก่ง สามีบางคนก็ไม่ชอบที่มีเมียเก่งกว่า เพราะจะทำให้เค้ารู้สึกว่าตัวเองด้อย
เป้าหมายของดิฉันเคสนี้เธอเป็นหญิง สามีเธอมาหาดิฉันที่สำนักงาน อยากให้ติดตามพฤติกรรมภรรยา เพราะมีผู้หวังดี(ประสงค์ร้าย) โทรมาเล่าให้ฟังว่า ภรรยาของตนมีนิสัยไม่ดี ชอบคบชาย แย่งแฟนเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งแฟนเธอด้วย แรกๆ เขาก็ไม่สนใจ รู้สึกรำคาญด้วยซ้ำ แต่หล่อนโทรมาบ่อยเหลือเกิน จนรำคาญและก็อยากรู้เหมือนกันเป็นอย่างที่หล่อนมากล่าวหาหรือเปล่า อยู่ๆก็มาใส่ร้าย บังเอิญครูที่โรงเรียนโทรมาบอกให้ไปรับลูกด้วย ได้สอบถามจึงรู้ว่าภรรยาทิ้งให้ลูกอยู่โรงเรียนกว่าจะไปรับก็ดึก ก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นมา หรือว่าจะเป็นจริงอย่างคนอื่นพูดกัน ตัวเองทำงานเป็นวิศวกร ออกไปดูงานตามไซค์ต่างๆ กลับดึกทุกวันเกือบเที่ยงคืน ส่วนภรรยาทำงานบริษัทเอกชน ระดับผู้บริหาร เช้าส่งลูกก่อนไปทำงาน โรงเรียนลูกไม่ไกลจากที่ทำงานเธอเท่าไหร่นัก เมื่อเล่าเรื่องราวเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายสามีก็ตกลงมอบหมายหน้าที่นี้ให้นักสืบกุ้งเป็นผู้ดูแลให้ พอดิฉันรับงานก็ส่งทีมงานไปตรวจสอบสถานที่ทันที ที่ทำงานของเธอมีทางออก 2 ทาง มีที่จอดรถประจำตำแหน่งเนื่องจากเป็นระดับผู้บริหาร ส่วนที่พักเป็นคอนโดจะเข้าไปข้างในได้ต้องมีคีย์การ์ด วันแรกที่เริ่มงานได้มอบหมายให้นักสืบต้นหอมและทีมงานไปปฏิบัติงาน วันแรกก็พลาดซะแล้ว ไม่เห็นรถเป้าหมายจอดอยู่ที่ทำงาน เพราะผู้ว่าจ้างบอกว่า ไม่ต้องไปเฝ้าที่คอนโดหรอก เธอไปส่งลูกแล้วเดี๋ยวก็เข้าที่ทำงาน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ต้นหอมโทรมาหา “พี่กุ้ง..ยังไม่เห็นเป้าหมายเลย ทำไงดีอ่ะ” “รอไปก่อนอาจจะเข้าบ่าย” “ได้คะ” เหตุการณ์ผ่านไป ทั้งวันเป้าหมายไม่มาทำงาน เช็คไปในที่ทำงานรับแจ้งว่า เธอลาพักร้อน โทรรายงานสามีเธอ “ผมไม่ทราบเลยครับ เมื่อเช้าก็เห็นแต่งตัวออกไปบอกว่าจะไปทำงานนะครับ...งั้นเริ่มต้นพรุ่งนี้ใหม่” ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว ดิฉันสั่งทีมงานถอนกำลังกลับ (แหม! ยังกับกะชับพื้นที่งั้นแหล่ะ) “พรุ่งนี้เริ่มตั้งแต่เช้านะที่คอนโด” ดิฉันสั่งต้นหอมและทีมงาน
เช้ารุ่งขึ้นต้นหอมโทรรายงาน “ประจำจุดแล้วคะพี่กุ้ง ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหว” เสียงต้นหอมแทรกมา พี่ๆๆเห็นรถคันหนึ่งคุ้นๆขับลงมาจากลานจอดของคอนโด อ้าว! นั่นมันพี่นนท์ ..(คนรู้จัก) พี่แกมาทำไรที่นี่อ่ะ มาหากิ๊กหรือไง “เอ่อ ช่างเขาเถอะไม่เกี่ยวกับเรา ดูเป้าหมายให้ดีแล้วกัน” วันนี้เธอออกสายขับรถออกจากลานจอดคอนโดไปส่งลูกแล้วก็แวะไปร้านเสริมสวยทำผม เห็นเธอครั้งแรก โอ้โห้สวยปิ้ง แต่งตัวเปรี้ยวเชียว หลังจากนั้นเธอขับรถเข้าที่ทำงานจอดรถไว้ที่ประจำตำแหน่ง เที่ยงเธอขับรถออกจากที่ทำงานแต่ข้างๆมีเด็กหนุ่มรุ่นน้องนั่งมาด้วย เธอแวะไปรับลูกที่โรงเรียนซึ่งอยู่ไม่ไกล พาไปที่ร้านอาหารที่มีสนามสำหรับเด็กเล่น เธอและเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมงานนั่งทานข้าวคุยกันกระหนุงกระหนิง ถ่ายรูปคู่กันอย่างสนิทสนม ปล่อยให้ลูกสาววัย 4 ขวบวิ่งเล่นแบบไม่สนใจ จนบ่ายสองโมง เธอพาลูกไปส่งที่โรงเรียน และขับพาหนุ่มไปที่คอนโดของตัวเอง ดิฉันโทรบอกสามีเธอ พอทราบของขึ้นทันที “ใจเย็นนะคะ เธออาจจะมาเอาของที่ห้องก็ได้มั้งคะ”(ดิฉันปลอบใจ) ผ่านไปสองชั่วโมงเธอก็ยังไม่ลงมา ได้เวลารับลูกเธอออกจากคอนโดพร้อมเด็กหนุ่ม ไปรับลูกพาไปทำงาน อยู่ในที่ทำงานจนถึงสี่ทุ่มเศษ สงสัยจะมาทำงานนอกเวลา ก็เธอเป็นผู้บริหารนี่นะ จะทำงานตอนไหน เข้าออฟฟิตกี่โมงก็ได้ เด็กหนุ่มคนนั้นสืบทราบว่าเป็นผู้ช่วยเธอ เธอมักจะอ้างกับที่ทำงานว่าออกไปประชุม
ในวันถัดมา พฤติกรรมของเธอทำในลักษณะคล้ายๆเดิม เที่ยงเธอขับรถออกจากที่ทำงานกลับไปคอนโดพร้อมเด็กหนุ่มผู้ช่วยขึ้นไปบนห้องครั้งละ 2-3 ชั่วโมง สามีทราบก็เลือดขึ้นหน้า แต่ทิ้งงานมาไม่ได้ สุดท้ายก็วางแผนลาหยุดเพื่อจะจับผิดให้ได้คาหนังคาเขา วันนี้ก็เช่นเดียวกันพอเธอพาหนุ่มเข้าห้อง ทีมงานโทรบอกเขาก็ขึ้นไปเคาะห้องเธอไม่ยอมเปิดประตู จึงโทรเข้าไปอ้างว่าลืมของไว้ เธอเปิดประตูบอกว่าไม่สบายเผลอหลับไป เขามองไม่เห็นเด็กหนุ่ม จึงแกล้งไปหยิบของแล้วก็เดินออกมา ไม่กล้าทำอะไร ทีมงานยืนยันมีผู้ชายอยู่ในห้องแน่นอนเพราะตั้งแต่เข้าไปยังไม่ออกจากห้องเลย พอผู้ว่าจ้างลงมา เด็กหนุ่มก็วิ่งออกจากห้องลงบันไดหนีไฟไปทันที ทีมงานบันทึกภาพไว้ได้ หล่อนก็รีบลงมารับทันทีเช่นกัน ต่างคนต่างไปคนละทาง และไปนัดเจอข้างนอก ทุกอย่างอยู่ในสายตาของนักสืบ “ผมว่าเขาต้องซ่อนผู้ชายคนนั้นไว้ในตู้เสื้อผ้าแน่ๆ ผมเห็นอาการเขากังวลตอนที่ผมเดินเข้าในห้อง แต่ผมไม่กล้าเปิดดู” เขาเล่าด้วยความตื่นเต้น “ไม่เป็นไรค่ะมีหลักฐานแล้วทีมงานถ่ายภาพเก็บไว้ให้เรียบร้อยแล้ว” เขายังยืนยันว่าจะต้องการจับให้ได้คาหนังคาเขาอีก แต่ว่าเธอจะรู้ตัวหรือเปล่า ในวันถัดมาอีกทั้งสองก็ยังเจอกันเหมือนเดิมอีก แสดงว่าเมื่อวานนี้เธอคิดว่าเป็นเหตุบังเอิญคิดว่าสามีคงโง่อยู่ แต่แปลกเธอและเด็กหนุ่มจอดรถระหว่างทางทะเละกันโยนสิ่งของลงข้างทาง ไม่พ้นสายตาของนักสืบ พอเธอไปทีมงานก็ลงไปเก็บหลักฐานทันที เป็นแว่นตา หมวก ผ้าพันคอ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกัน อาจจะเกิดความหึงหวงกันเอง (จินตนาการของนักสืบล่ะ) วันนี้เธอกลับบ้านคงงอนกับเด็ก ในวันรุ่งขึ้นเธอและหนุ่มก็ยังนัดเจอกัน เธอลาพักร้อน ไม่เข้าที่ทำงาน ทั้งสองขับรถออกต่างจังหวัด นักสืบติดตามไป สามีเธอตามไปอีกคัน ทั้งสองไปกินข้าวริมทะเล แล้วก็เช่าบังกะโลพักผ่อนในตอนกลางวัน สามีตามมาทันพร้อมทีมสังหารเพื่อนร่วมงานอีก 4-5 คนมาด้วย ไปถึงสามีแสดงตัวนำเธอแยกออกมาคุย ส่วนเพื่อนๆ ก็เอาพาชายหนุ่มไปคุยอีกทาง (งานนี้ไม่เข้าโรงพยาบาลหรอกคะแค่สองสามตุ๊บเอง) เธอเห็นหน้าสามีไม่สะทกสะท้านอะไร เธอด่าต่อว่าสามี “สาเหตุที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้เพราะสามีไม่ยอมนอนกับเธอ มานานแล้ว ไม่สนใจเธอ ทำแต่งาน กลับก็ดึก เธอจึงเป็นแบบนี้” สามีฟังแล้วก็อึ้งพูดไม่ออก ทะเลาะด้วยไม่ลง สรุปว่างานนี้เธอไม่ผิด มีชู้เพราะสามีไม่ยอมทำการบ้าน สุดท้ายชวนกันกลับบ้านและตกลงแยกทางกัน นี่แหล่ะคะท่านผู้อ่าน สำรวจตัวเองบ้างนะคะ เดี๋ยวมันจะเกิดแบบนี้กับท่าน อย่าปล่อยให้ภรรยานอนเหงา ใครว่าเรื่องเซ็กส์ไม่สำคัญ ทุกวันนี้มีปัญหาก็เพราะเรื่องนี้แหล่ะ มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้