งานนี้....โดนซะเอง
เรื่องนี้ขอบอกว่าฟินสุดๆ คะท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลาย ตั้งแต่เป็นนักสืบมาเกือบ 20 ปี ไม่คิดว่าจะถูกย้อนศรเข้าให้ ต้องติดตามอ่านกันนะคะ ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เรื่องเกิดเมื่อไม่นานมานี้เอง ปกติดิฉัน(นักสืบกุ้ง) ก็รับงานทั่วราชอาณาจักรคะ ต่างประเทศก็ไปสืบ ถ้าผู้ว่าจ้างใจถึง ยอมจ่ายค่าจ้างราคาที่แสนแพง แลกกับของรักของหวง เรื่องนี้มีอยู่ว่า มีชายสูงอายุคนหนึ่งติดต่อนักสืบกุ้ง ต้องการให้ติดตามพฤติกรรมภรรยา เพราะมีการใช้จ่ายเงินมากผิดปกติ เขาเล่าว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจ ทำเกี่ยวกับอู่ซ่อมรถ ขายรถมือสอง ให้เช่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาเขาล้มป่วยต้องผ่าตัดสมอง นอนพักรักษาตัวอยู่นานหลายปี จนหายเกือบจะปกติ และกลับมาบริหารงานได้เหมือนเดิม แต่สมองยังสั่งการช้ากว่าเดิม ในช่วงที่ภรรยาดูแลกิจการอยู่ ธุรกิจขาดทุน เงินหายไปจากระบบเยอะ และได้พาญาติพี่น้องตัวเองเข้ามาทำงานหลายคน กระจายอยู่ตั้งแต่แม่บ้าน ยันผู้จัดการ เธอใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย และสังเกตว่าเธอจะหายออกไปจากบ้านบ่อย หายไปครั้งละ 10 วัน อ้างว่าไปทำสมาธิ ฝ่ายสามีก็เกิดความสงสัยและกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจึงติดต่อนักสืบให้ไปทำงาน ติดตามพฤติกรรมภรรยา และพนักงานบางคนที่เป็นญาติเธอ งานนี้ต้องไปทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง หลังจากที่คุยข้อมูลและตกลงรับงานกันเรียบร้อยแล้ว ดิฉันพร้อมทีมงานก็เดินทางไปเพื่อเริ่มงาน ในการทำงานช่วงสัปดาห์แรกยังไม่มีอะไรผิดปกติ เพราะเป็นจังหวะที่ลูกสาวของผู้ว่าจ้างจะแต่งงาน เธอและลูกสาวจึงสาระวนกับการเตรียมงาน ดิฉันได้รายงานให้เฮีย (ผู้ว่าจ้าง) ทราบ และเว้นระยะไปประมาณ 1 เดือน เฮียก็ติดต่ออีกว่าต้องการให้ไปทำงานอีก ดิฉันพร้อมทีมงานก็เดินทางไปทำงานอีก สิ่งที่เห็นได้จากพฤติกรรมคือ เธอจะชอบไปเดินช้อบปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าในเมือง ซื้อของเป็นเวลานานๆ และบางครั้งก็เข้าไปนวดสปา แต่งตัวสวยๆ และนัดพบกับคนที่เฮียไม่รู้จัก แต่ยังไม่เห็นเรื่องชู้สาวกับชายอื่น ดิฉันรายงานไปตามความเป็นจริงทั้งหมด เฮียจ้างให้ทำงานหลายครั้ง แต่ละครั้งก็ประมาณหนึ่งสัปดาห์ เอาเป็นว่าเป็นลูกค้าขาประจำว่างั้น เพราะใช้บริการกันมาหลายปี และเมื่อประมาณต้นเดือนเมษายน 2557 เฮียโทรศัพท์มาหาดิฉันอีกบอกว่าจะมีงานให้ทำ ให้ไปพบที่จังหวัดระยอง และจะเล่ารายละเอียดให้ฟังเมื่อเจอกัน ด้วยความที่ไว้ใจเพราะใช้บริการกันมาหลายครั้งเรื่องเงินยังไม่ต้องพูดถึง ดิฉันและทีมงานก็เดินทางไปตามวัน เวลานัด ซึ่งเฮียนัดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ข้อมูลว่ามีการทุจริตภายใน ต้องการให้นักสืบเข้าไปฝังตัวอยู่ในโรงงานและสะกดรอย ในขณะที่นั่งคุยกัน ดิฉันไม่ทราบว่ามีคนจับตาดูอยู่ หลังจากคุยข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เฮียได้นั่งรถกับดิฉันพร้อมทีมงาน เพื่อจะไปพาชี้สถานที่ต่างๆ ในขณะระหว่างทาง ดิฉันมีความรู้สึกว่ามีรถอีกคันขับตามมา จึงถามผู้ว่าจ้าง “อ้าวมันรถภรรยาผมนี่ คันนี้ผมเพิ่งซื้อให้ไม่นาน” “ แล้วเขาขับตามมาทำไมล่ะคะ” “ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมเคลียร์เอง” (เฮียบอก) ดิฉันก็ขับรถไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่ผู้ว่าจ้างบอก ในระหว่างทางผ่านแหล่งขายของฝาก “ขอจอดซื้อของแป๊ปนะคะ” ดิฉันลงจากรถพร้อมทีมงานเข้าไปเลือกซื้อของ ก็มีหญิงวัยกลางคนเดินลงจากรถอีกคันเดินมาถ่ายรูปหน้าดิฉันและเธอก็พูดว่า “หน้าตาก็น่ารักดี ทำไมมาแย่งผัวชาวบ้าน..” ตอนนั้นงง ก็เฉยๆ ไม่ตอบโต้อะไร เพราะเธอคือเป้าหมายคนนึง ซื้อของเสร็จดิฉันพร้อมทีมงานก็เดินขึ้นรถขับต่อ โดยมีผู้ว่าจ้างอยู่ในรถด้วยเพราะจะพาไปชี้สถานที่ทำงาน เธอยังขับรถตามหลังอยู่ “เฮีย..วันนี้คงยังทำงานไม่ได้หรอกนะ มีปัญหาแน่ เธอคงเข้าใจผิด ถ้ามีเรื่องความก็จะแตก นักสืบจะทำงานยาก ข้อมูลส่งทางอีเมลก็ได้ เฮียลงตรงนี้นะ” เมื่อพูดจบดิฉันได้ชะลอจะจอดให้ผู้ว่าจ้างลง แต่เธอขับรถมาด้วยความเร็วสูงและพุ่งชนท้ายแล้วก็ขับหนีไป และเธอก็โทรศัพท์เข้ามือถือสามี ด่าๆๆๆๆ หาว่าดิฉันจะไปแย่งผัว จะแอบไปเอา..กันที่ไหน (เธอตะโกนพูดเสียงดังมากจนออกนอกโทรศัพท์) ครั้งแรกดิฉันเฉยๆ แต่พอได้ยิน “ว่าจะไปแย่งผัว..นี่ซิ” รับไม่ได้เลย “พี่กุ้ง.มันว่าเราเหรอ ตามไปจัดการกับมันมั้ย” น้องส้ม ทีมงานที่ไปด้วยกันว่าอย่างนั้น “ช่างมันเถอะ เค้าเข้าใจผิด” “มันไม่ได้นะพี่..ทำไมมันไม่ไปถามผัวดูล่ะ” น้องส้มของขึ้นอารมณ์เสีย “พี่จะเสียได้งัย ไม่ใช่นักสืบกระจอกนะ” “เอ่อช่างเถอะน่า เดี๋ยวงานเราจะเสีย” “ไปแจ้งความเถอะพี่ ”ผู้ว่าจ้างขอร้องว่าไม่ให้แจ้งความ จะรับผิดชอบเองกับความเสียหายที่เกิดขึ้น “ไม่ได้หรอกคะ” ดิฉันขับรถไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความขับชนแล้วหนี ตั้งแต่ทำงานนักสืบมาก็มีคราวนี้แหล่ะที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับผัวชาวบ้าน เฮ้ย!ตลกสิ้นดี การที่เราไปนั่งคุยกับผู้ชายสักคน แม้จะเป็นเรื่องงาน ก็มีปัญหาได้เหมือนกันนะ อยาก จะฝากเตือนกับสาวๆไว้แล้วกันว่า ต้องระวังคะ ถ้าเจอ ประเภทไม่มีเหตุผลหึงขึ้นสมอง ทั้งๆที่เธอเป็นเป้าหมาย กลายเป็นนักสืบซะเองที่โดนสืบ คิดๆไปแล้วก็เจ็บใจอยู่ เป็นเพราะนักสืบกุ้งหน้าตาดีรึป่าว (ชมตัวเองค่า)555 แต่ไม่ตอบโต้หรอก นี่คืองานของดิฉัน ป่านนี้เธอคงรู้แล้วละมั่งว่าดิฉันเป็นใคร วันถัดมาตำรวจโทรมาตามบอกว่าคู่กรณีมาพบแล้วและขอรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อมให้และยอมรับผิด ดิฉันไม่ติดใจอะไรหรอกคะเรื่องนั้น แต่ยังเจ็บใจไม่หายเรื่องถูกกล่าว “แย่งผัวชาวบ้าน” นี่เป็นบทเรียนสำคัญเลยนะเนี่ย ท่านผู้อ่านก็ระวังนะคะลูกเขาผัวใคร เมียใคร อย่าไปยุ่ง ซวยมาถูกน้ำกลดสาดหน้าเสียโฉม หมดอนาคตเลยเชียว เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นในสังคมไทยเสมอ อ่านแล้วก็ถือเป็นอุทาหรณ์ คนเราการที่คนรักเปลี่ยนไปอาจเกิดจากตัวเองด้วย ควรจะสำรวจและปรับปรุงตัวเองก่อน ถ้าทำแล้วเราดีทุกอย่าง ก็แสดงว่าเกิดจากสันดานเขาแล้วล่ะคงรักษายาก มีทางเดียวคอนเวิร์ด ทางใคร..ทางมันคะ มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้คะ ขอบคุณคะ