เพราะรัก..เธอ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สดๆร้อนๆเลยเชียว เป็นเรื่องของหนุ่มญี่ปุ่นนักการทูตประจำประเทศไทย ครบวาระต้องย้ายไปประเทศอื่น แต่ภรรยาเอ่ยปากว่าขออยู่ต่ออีกสัก 2 สัปดาห์ นี่คือสาเหตุที่ใช้บริการนักสืบ โดย มีหนุ่มไทยอายุประมาณ 35 ปีเป็นคนประสานงานให้ ติดต่อมาที่ดิฉันบอกว่ามีเรื่องจะให้ช่วยเหลือ จำได้ว่าเวลา 22.00 น. ของคืนวันหนึ่งเล่ารายละเอียดคร่าวๆ และนัดว่ารุ่งเช้าจะเข้ามาพบพร้อมรายละเอียด เมื่อถึงเวลาหนุ่มที่นัดยังไม่มา ดิฉันมีงานด่วนต้องทำเลยไม่รอ เวลาผ่านชั่วโมงเศษ ทีมงานโทรบอกว่าคนที่ “นัดพี่ไว้มาแล้วคะ” “ งั้นเพชรซี่สอบข้อมูลเลยนะ” “คะ” ไม่นานเพชรซี่โทรมาอีกแล้ว ถามอะไรเขาก็ไม่มีข้อมูลอะไรเลย” “ขอเขาเท่าที่มีเช่นภาพถ่าย ..ชื่อโรงแรม.. ชื่อเป้าหมาย” เป้าหมาย เป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่น อายุ 35 ปี” “ถามบอกวัตถุประสงค์เขาด้วยนะ ว่าต้องการอะไร” ดิฉันกำชับทีมงาน ที่ลืมไม่ได้เลยคือ ชำระค่าบริการด้วย หนุ่มคนที่มาว่าจ้างนี้บอกว่าเพื่อนชาวญี่ปุ่น สาเหตุคือเธอไม่ยอมบินไปพร้อมเขา ภรรยาบอกว่าขอเวลาเที่ยวก่อนเดี๋ยว จะบินตามไป เขาคิดมากมีความหวาดระแวงว่า ภรรยาจะแอบคบชู้ที่เมืองไทย “พี่เขาเริ่มงานวันนี้เลยนะ” เพชรซี่โทรบอกดิฉัน “คิวใครว่างจัดไปเลยนะ ไม่ต้องรอ” “OK” ตามนั้นงานนี้มอบหมายให้หนุ่มโจไปเริ่มงานวันแรกก่อน เพราะโจจะมีความชำนาญเส้นทางย่านสุขุมวิท เมื่อโจเดินทางไปถึงโรงแรมของเป้าหมายอยู่ “พี่กุ้งครับ..โรงแรมระดับ 4 ดาวเลยนะครับ จะให้ผมเฝ้าตรงไหน ด้านหน้าไม่มีที่จอดรถเลย รปภ.เพียบ” “เธอนำไปจอดที่อื่นซิ..แล้วไปหาน้ำทานที่ล๊อปบี้ เธอไม่มีรถถ้าลงมาคงเห็นชัด..อย่าสั่งของแพงนักนะเอาพอประมาณ งบน้อย” “ครับพี่” เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง โจโทรอีกพี่ไม่มีวี่แววเป้าหมายเลย “ยังไงก็ต้องเฝ้านะ เพราะไม่รู้ว่าเขาอยู่หรือไม่” วันนี้ทั้งวันผ่านไปไม่เห็นแม้วี่แววเป้าหมาย ตรวจสอบรายชื่อเธอยังไม่เช็คเอ้าท์ สอบถามห้องพักราคา 6,500 บาทต่อคืน ผู้ว่าจ้างคงไม่ยินดีเสียแน่ วันนี้ผ่านไป 8 ชม. โจบอก “พี่ยามมันมองหน้าผมแล้วอ่ะ” “เธอก็ออกมารอด้านนอกแล้วกัน โจทำตามที่ดิฉันสั่ง เวลาผ่านไปอีก 3 ชั่วโมง เวลานั้นก็ประมาณ 5 ทุ่มไปแล้ว มีสายตรวจขี่จักรยานยนต์ผ่านมาจอดแอบมองหน้าแล้วก็ผ่านไป โชคดีไป คงเห็นเป็นพวกเดียวกัน เพราะหน่วยกร้านโจก็คล้ายๆ คนมีสีเหมือนกัน โจรีบโทรหาดิฉัน “พี่หาทีมอื่นมาแทนเลยครับ คงไม่เหมาะกับผมแล้วล่ะตรงนี้” “ไม่เป็นไรโจเฝ้าถึงเที่ยงคืนนะถ้าไม่มีความเคลื่อนไหว พรุ่งนี้พี่จัดให้กุ๊กไก่ กับส้มเช้งไปแทน” วันรุ่งขึ้นกุ๊กไก่ และส้มเช้งไปถึงสถานที่เฝ้าเป้าหมาย เช้าๆไม่มีปัญหาเพราะคนพลุกพล่าน สายๆเริ่มไม่มีที่จะอยู่ แต่โชคดีหน่อยทีมงานเป็นหญิงสาวหน้าตาพอโอเค ผิวใช้ได้แบบนี้ฝรั่งชอบ ดิฉันสั่งให้ทั้งสองคนแยกกันอยู่คนละจุด ทำเป็นเหมือนว่าต่างคนต่างมา เห็นฝรั่งก็ยิ้มเข้าไว้ ให้นั่งหน้าโรงแรมคน อีกคนอยู่ที่ล๊อปบี้ ผ่านไปหลายชั่วโมง ไม่มีวี่แววของเป้าหมายเลย ดิฉันโทรถามผู้ว่าจ้าง “ตรงลงเป้าหมายยังอยู่ที่โรงแรมนี้หรือเปล่าคะ” “ครับๆ เดี๋ยวผมเช็คให้” ผู้ว่าจ้างหายเงียบไปชั่วโมงกว่า โทรกลับมาบอกว่าได้เช็คไปยังสามีเขาแล้ว ยังยืนยันว่าอยู่ ปกติเธอไม่ค่อยออกไปไหน ให้เฝ้าดูต่อไป “อ้าวแบบนี้ถ้ามีคนมาหาเธอที่ห้องก็ไม่รู้ซิคะ” “เธอคงไม่กล้านะครับ เพราะที่นี่มีคนรู้จักเธอเยอะ เธอพักประจำกับสามี” “อ้อคะ! “ หลังจากที่ส้มเช้งเฝ้าหน้าโรงแรม เดินมั่ง... นั่งมั่ง มาอีกแล้วคนในเครื่องแบบ ขี่มอไซค์มาจอด แอบมองดูส้มเช้ง ( ยามคงโทรไปบอกว่ามาอยู่ตรงนี้หลายชั่วโมงแล้ว) ส้มเช้งก็หันไปมองแล้วก็ยิ้มให้ หนุ่มในเครื่องแบบงง ขี่มอไซค์ไปเลย ได้ผลนี่..เขาคงคิดว่าอีตัวจะมาจับแขกละมั้ง...วันนั้นจำได้ว่า ส้มเช้งแต่งตัวซะสั้นเสมอหูเลย... ผู้หญิงก็ได้เปรียบแบบนี้แหล่ะ ถ้าให้หนุ่มโจมายืนอีกวันสงสัยโดนหิ้วไปสอบสวนแน่...เวลาผ่านไปประมาณ 17.30 น. เห็นสาวญี่ปุ่นคนนึงคล้ายเป้าหมายเดินออกจากโรงแรม เธอใส่ชุดออกกำลังไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS กุ๊กไก่ตามถ่ายรูปส่งเข้า Line มาให้ดิฉัน ส่งต่อให้ผู้ว่าจ้างทันที คำตอบคือใช่เป้าหมาย ทุกคนถอนหายใจ เพราะคิดว่างานนี้จะเฝ้าลมซะแล้ว ส้มเช้งรีบตามไปช่วยกุ๊กไก่เฝ้าเป้าหมาย เธอออกกำลังกายเดินคุยกับเพื่อนต่างชาติชาวญี่ปุ่นด้วยกัน ฟังไม่รู้เรื่องว่าเธอคุยเรื่องกัน แต่ถ้าท่าทางHappy หัวร่อต่อกระซิกกัน หลังจากที่ฟิตเนสเสร็จเธอนั่ง BTS กลับโรงแรม เวลาประมาณ 3 ทุ่มเธอเดินออกโรงแรม แต่งตัวสวมกระโปรงสั้น เสื้อกล้าม เรียกตุ๊กๆ หน้าโรงแรม กุ๊กไก่และส้มเช้ง ไม่รีรอ เรียกตุ๊กๆเช่นกัน บอกไปด้วยกันกับคันหน้า ใครไม่เคยขึ้นตุ๊กๆบ้านเราไปลองซะนะคะ ซิ่งสุดๆ ถ้าถนนว่าง พี่กระชากไม่ยั้งเลย ส้มเช้งถ่ายคลิปส่งให้ดิฉัน ดูไม่รู้เรื่องภาพกระโดดไปกระโดดมาเพราะรถเหวียงไปเหวียงมา ได้ยืนแต่เสียงรถ ปรืดๆๆๆ ตุ๊กๆๆๆ อะไรประมาณนั้น เธอไปเที่ยวผับย่านสีลม มีเพื่อนต่างชาติมาสมทบ นั่งดื่มไป คุยกันไปไม่มีเรื่องชู้สาวให้เห็น ดิฉันรายงานพร้อมภาพถ่ายส่งทาง Line ให้ผู้ว่าจ้าง คืนนั้นเธอสนุกสนานกับเพื่อน ส่วนนักสืบสาวของเรานั่งหงอยเพราะไม่มีใครดื่มเหล้า เบียร์เป็นสักคน กินน้ำอัดลมกับน้ำเปล่า เธอกลับที่พักประมาณ ตีหนึ่ง เช้ารุ่งขึ้น กุ๊กไก่และส้มเช้งต้องมาเฝ้าต่อ “พี่คะ หนูขอพักโรงแรมใกล้เป้าหมายได้มั้ย ถ้ากลับไปกลับมาหมดแรงแน่เลย” “ โอเคหาโรงแรมราคาพอไหวนะ ที่เดียวกับเป้าหมายคงไม่ไหว ค่าจ้างหมดแน่” “คะๆ” หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ทีมงานเฝ้าต่อเหตุการณ์เหมือนเดิม ไม่เห็นเป้าหมายอีกเลย 3 วัน เธอจะมาให้เห็นที่ไปออกกำลังเหมือนเดิม กุ๊กไก่เอ่ยปากขอเปลี่ยนตัวให้คนอื่นมาทำแทน เพราะล้าไปหมด หลับนอนไม่เป็นเวลา ดิฉันสั่งให้น้องนุชไปทำแทน น้องนุชเฝ้าไปสองวัน เห็นเป้าหมายลากกระเป๋าใบใหญ่ไปที่เคาเตอร์ เช็คเอาท์ และเรียกแท๊กซี่ไปสนามบิน “พี่กุ้งเป้าหมายมาสนามบินแล้วนะคะอยู่สุวรรณภูมิแล้ว” ดิฉันรีบรายงานให้ผู้ว่าจ้างทราบทันที เขาก็ไม่ทราบว่าเป้าหมายจะกลับวันนี้เช่นกัน เป้าหมายขึ้นเครื่องแล้ว เราจบภารกิจนะคะ โล่งอกทั้งผู้ประสานงานและนักสืบ งานนี้เธอไม่ได้มีชู้ แต่เธอคงอยากอยู่เที่ยวต่อเฉยๆ คงชินกับเมืองไทยมากกว่าจะที่เริ่มต้นกับประเทศใหม่ที่ต้องเดินทางไป ผู้ว่าจ้างบอกว่า สามีเขารักภรรยาเขามาก ..จึงจ้างนักสืบเพื่อความสบายใจ นี่แหล่ะอาชีพนักสืบทำได้ทุกอย่างละ อยากเป็นไรเป็นได้หมด ยกเว้นเป็นนักสืบคะ มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้คะ!