อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
เรื่องราวของหนุ่มคนนี้ เขามีเมียอยู่แล้ว เมียหลวงพักอาศัยอยู่จังหวัดอุบลราชานี ส่วนตัวเขามาทำงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นช่างไฟฟ้าประจำบริษัทเอกชน เขามีเพื่อนคนบ้านเดียวกันมาทำงานด้วย เป็นระดับหัวหน้างาน บริษัทมีบ้านพักคนงานให้อยู่รวมกันหลายคน ส่วนเขากับเพื่อน อยู่ดีหน่อยบริษัทเช่าห้องพักที่เป็นนอพาร์ทเม้นท์ให้อยู่คนละห้องกับเพื่อน ลักษณะงาน เขาทำหน้าที่ควบคุมลูกน้องทำงานตามไซร์งานต่างๆซึ่งอยู่ภายในจังหวัด ไม่ไกลมากนัก เลิกงานประมาณ 17.00 น.เกือบทุกวัน ถ้าไหนงานเร่งก็ทำโอทีบ้าง เขาบอกกับภรรยาว่าบางวันรับงานนอกเวลา หลังเลิกงานของบริษัทแล้ว ต้องกลับดึกไม่สะดวกในการเดินทางกลับห้อง ต้องไปต้องนอนหอพักกับเพื่อนอีกคนที่ทำงานโรงงานเดียวกัน ทุกครั้งที่เธอวีดีโอคอล หาสามีก็เห็นเพื่อนคนนี้ตลอด นั่งกินเหล้าบ้าง หรือนั่งคุยก็จะเจอเพื่อนคนนี้ เธอเชื่อสนิทใจ เป็นระยะผ่านมา 3 ปี วันนึงเพื่อนเขาที่อยู่จังหวัดเดียวกัน กลับบ้านที่จังหวัดอุบล ซึ่งไม่ไกลจากบ้านเธอนัก เธอพบเขาโดยบังเอิญที่ตลาด ก็สอบถามสารทุกข์สุกดิบกัน เพื่อนสามีบอกว่าสามีเธอย้ายที่อยู่ไปเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่อีกที่หนึ่งนานแล้ว ตอนที่เพื่อนสามีเขาเล่าคงไม่ได้คิดอะไร คงคิดว่าผัวเมียกันคงไม่มีปิดบัง เธอทำใจเย็นเก็บไว้ในใจก่อน กลับถึงบ้านนั่งคิดทบทวนเรื่องราวของสาม ย้ายที่อยู่ทำไมไม่บอก ทุกครั้งเขาก็ยังบอกว่าพักที่เดิม เพียงแต่บางวันที่ทำงานดึกแล้วนอนกับเพื่อน เวลาที่เธอจะมาเยี่ยมหาที่สมุทรสงคราม สามีก็ห้ามไม่ให้มาบอกว่าไม่ว่าง งานเข้าเยอะ และอีกอย่างที่เธอไม่เอะใจเพราะเงินทองค่าใช้จ่ายสามีส่งตรงทุกเดือนไม่เคยมีปัญหา “นี่แหล่ะสำคัญ” แต่เธอเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้ อยากพิสูนจ์ความจริง จึงติดต่อนักสืบกุ้ง เพื่อไปค้นหาความจริง เธอได้เล่าถึงพฤติกรรมของสามีให้ฟัง ...หลังจากรับภารกิจนี้ ดิฉันได้ประชุมวางแผนทีมงานเพื่อปฏิบัตินี้ น้องโอ๋กับส้มได้รับปฏบิบัติภารกิจนี้ เริ่มต้นจากที่ทำงาน ถ้าจะเริ่มจากที่พักคงไม่แน่นอน วันแรกโอ๋กับส้มเหนื่อยหอบเลย เพราะเป้าหมายไปหลายที่มาก ตรวจงานหลายจุดทั้งวัน หลังเลิกงานไปนั่งสังสรรค์กับเพื่อนหลังตลาดสด.. กว่าเขาจะกลับเข้าห้องพัก..นักสืบก็หมดสภาพพอดี สามีเธอจอดไว้ที่ตลาดและนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปพร้อมเพื่อน เพื่อนคนที่เขาอ้างว่ามานอนค้างด้วยเป็นประจำ วันแรกเราเดินขึ้นอพาร์ทเม้นท์ไม่ได้เพราะต้องใช้คีย์การ์ด ก็เข้าใจว่าเขาคงมาพักกับเพื่อนตามที่บอกเมียจริงๆ ความสงสัยยังไม่หมดเพราะทีมงานสืบทราบมาว่าเพื่อนคนที่อ้างนั้นเขาพักอาศัยอยู่กับครอบครัว มีลูกเมียอยู่ด้วย ความเป็นไปได้น้อยมาก ไหนๆก็ไหนแล้วทีมงานขอเช่าห้องพักระยะสั้นเป็นเวลา 1 เดือนเพราะไม่มีรายวัน ยอมเสียเงินค่ามัดจำ แต่ห้องชั้นเดียวกับเป้าหมายพักเต็ม ไม่เป็นไร พักที่เดียวกันเดินไปตรงไปหนก็ได้ กลางวันไม่ต้องสนใจเพราะเขาไปทำงาน ทีมงานก็พักไปก่อน เน้นๆช่วงเข้าห้อง เรารู้แล้วว่าเขาพักห้องไหน รอจับตาดูอยู่หลังเลิกงานมาเป้าหมายเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนๆ รอโทรศัพท์เมียโทรมาช่วงค่ำของทุกวัน ทำเป็นเนียน “ อยู่ไหนทำอะไรกับใคร” “อยู่กับไอ้...เห็นหน้าด้วย..จบ” เมียไม่สงสัย หลังคุยวีดีโอคอลกับเมีย เดินเอารถไปจอดให้ไกลตึกที่พัก ซึ่งอพาร์ทเม้นท์เเห่งนี้มีหลายอาคาร จอดรถไกล ระหว่างเดินเข้าอาคารเอาแมสปิดหน้าเดินขึ้นอพาร์ทเม้นท์โดยมีวิธีการเดินเข้าอาคารหนึ่งเดินทะลุอีกอาคาร เดินขึ้นห้อง ไม่นานเห็นมีหญิงวัยเดียวกันเข้าไปห้องนี้บ้าง หล่อนเอาแมสปิดหน้าเช่นกัน “สงสัยเพื่อนร่วมงานมาหามั้ง” เราก็จินตนากันคิดไปในทางที่ดี แต่มันหายไปทั้งคืนนี่ซิ คงไม่ใช่เพื่อนแล้วหล่ะ แล้วหล่อนเป็นใคร เราวางแผนกันว่าเช้าโอ๋กับส้มต้องตื่นมาเฝ้าแต่เช้า ว่าเขาออกจากห้องกันอย่างไร ที่สุดความเล่ห์เหลี่ยมเลย เขาออกห้องพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ทั้งคู่ก็ได้ปิดแมส เมื่อลงลิฟต์มาถึงข้างล่าง ต่างคนต่างแยกย้ายเดินไปคนละฝั่ง. เหมือนคนไม่ได้รู้จักกันเลย เนียนมากหล่อนเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร ไม่ชัดเพราะหล่อนปิดหน้าปิดจมูกหมด เราได้รายงานเธอไปตามความเป็นจริงเธอลมออกหูเลย “นี่มันยังไม่ตายยังหลอกกันได้ขนาดนี้...ถ้าชั้นตายมันจะมาเผามั้ย” “ใจเย็นๆค่ะพี่” “ถ่ายภาพเป็นคาหนังคาเขามาให้ด้วยนะ” “แบบไหนค่ะ ในห้องหรือค่ะ แค่หน้าห้องชัดเจนแล้วค่ะ ถ้าเขาอยู่ด้วยกันคงปฏิเสธไม่ได้ จัดปายนะ.. เดินตามก็ถ่ายภาพยาก หาทางตั้งกล้องเลยดีมั้ย วันถัดมาทีมงานเอากระถางต้นไม้ไปวาง แม่บ้านก็งงว่าใครเอามาตั้งจะเก็บทิ้งซะงั้น เปลี่ยนใหม่นั้งเฝ้าตรงบันไดหนีไฟ เมื่อไหร่จะออกจากห้องกัน วันนี้มาแปลกออกจากห้องไม่พร้อมกัน เอาแมสปิดหน้าอีก จะปิดเผื่อ.... มันไม่ใช่เรื่องยากที่จับผิดคนทำผิดแต่มันก็ไม่ง่ายนะ ปัจจัยมันเยอะ บอกได้เลยพฤติกรรมเนียนมาก ทุกคืนก่อนเข้าห้องจะต้องรับโทรศัพท์มือก่อน เธอเปลี่ยนเวลาเห็นเขาวิ่งกระหีดกระหอบไปที่ตลาดเพื่อรับวีดีโอคอลจากเมีย นักสืบก็งงๆวิ่งตามไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น คิดว่าไฟไหม้ที่ไหนเห็นยืนคุยหวานกับเมีย “ตอแหล่” เขายังไม่รู้ว่าเมียทราบแล้วว่าโกหก เราบอกเธอให้ใจเย็นสุดๆทำเหมือนเดิมไว้ เดี๋ยวเขาระแวงว่าเราเปลี่ยนใป คุยวีดีโอเสร็จเดินหอบกลับเข้าห้องพัก อยากจะขำนะ แต่ขำไม่ออกเพราะยังเก็บหลักฐานไม่ได้ ยังไงพรุ่งนี้เช้าต้องรู้ให้ได้หล่อนเป็นใครกันแน่ เช้านี้เอาถุงขยะใส่กล้องมาวางข้างหน้าห้องเขา ภาพชัดเจนมาออกจากห้องภาพพร้อมกัน แต่ไม่เห็นหน้าเช่นเดิม แมสปิดหน้าทั้งสองคน เราตัดสินใจตามหล่อนไป หล่อนขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานซึ่งไม่ไกลจากตลาดและที่พักมากนัก หล่อนเปิดหน้าเอาแมสออกเผยโฉม หน้าตาไม่เลว หล่อนเป็นลูกจ้างร้านขายกาแฟใกล้ตลาด ชัดเจนสุดๆว่าคู่นี้คือผัวเมียกันเพราะคนในอาคารที่พักแม้กระทั่งพนักงานรักษาความปลอดภัยและแม่บ้านก็ยีนยัน ทุกคนเข้าใจว่าทั้งคนเป็นภูมิแพ้เห็นปิดหน้าทุกวัน ดิฉันรายงานไปตามจริงตามนั้น ผลจะเป็นอย่างไรแล้วแต่เมียสุดรักค่ะ มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ