ลูกชาย...ชู้
วันอาทิตย์เป็นวันหยุดพักผ่อนของดิฉัน “นักสืบกุ้ง” นอนอยู่บ้านกำลังดูละครจักรๆวงศ์ๆ ได้รับโทรศัพท์ จากสำนักงานบอกว่ามีชาย หนุ่มวัยกลางคน สวมขาสั้น เสื้อยืด มาปรึกษาเรื่องเมียมีชู้ จะให้ทำงานด่วนจี๋ เดี๋ยวนี้เลย เมียพาชู้เข้ามานอนที่บ้าน ต้องการให้นักสืบไปถ่ายรูปให้ ไว้เป็นหลักฐาน จะฟ้องหย่า “พี่รีบมาเลยนะเขาจะให้ทำงานทันที” เสียงเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานบอก แหม่! หนังกำลังสนุกเชียว แต่งานเข้า เงินมา..ต้องเอาไว้ก่อน ดิฉันรีบอาบน้ำแต่งตัว มาสำนักงาน พอมาถึง เอ้า! ไม่เห็นมีลูกค้าเลย “เขาบอกว่าจะกลับบ้านไปเอารูปถ่ายภรรยาคะพี่” อ๋อ! เวลาผ่านเกือบชั่วโมง ชายหนุ่มวัยกลางคนท่านนี้ก็เดินหอบถุงกระดาษมา วางตรงหน้าดิฉัน “พี่มีเอกสารอะไรมาบ้างคะ” “เยอะแยะเลยภาพถ่าย ผมไปเก็บมาจากถังขยะ ดีนะที่ยังไม่เผาทิ้ง ผมไม่อยากเก็บภาพอะไรของเมียไว้หรอก ผมขอหย่ากับเขาหลายครั้งแล้ว ก็ไม่ยอม ตอนนี้แยกบ้านอยู่ เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว ลูกๆ ก็ย้ายมาอยู่กับผม
เมื่อหลายเดือนก่อน มีเพื่อนในกลุ่มกินเหล้ากันแล้วพูดทำนองว่า เขากับเมียผมเมื่อสมัยเป็นนักเรียนเคยกินกันมาก่อน ไอ้เพื่อนคนนี้ก็สนิทกับผมดี และรู้จักครอบครัวกันดี ไปมาหาสู่กันตลอด แต่เค้าเป็นทหารอยู่ทางใต้ เคยพาภรรยาไปเยี่ยมเพื่อนและนอนค้างที่บ้านเพื่อนคนนี้ ภรรยาของเพื่อนพูดว่านอนคู่ใครคู่มันนะ ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนเพื่อนอีกคนมาเล่าให้ฟัง จึงเอะใจ ..นอกจากคนนี้แล้วยังมีอีกหลายคน เคยพูดและบอกให้หย่าเมีย ให้เงินไปแล้วก้อนหนึ่ง แต่ก็ไม่ยอมหย่า ภรรยาบอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เรื่องอะไรจะหย่า เขาว่าผมบ้า ประสาท ในขณะสนทนากับนักสืบอยู่ พี่แกก็พูดกลับไปกลับมา สับสน (สงสัยแกจะเครียด) กว่าจะเล่าจบเรื่องราวจบสองชั่วโมง “พี่จะให้นักสืบทำงานวันไหนคะ” “วันนี้เลย เดี๋ยวไปเลย” “สายโทรมาบอกว่าเมื่อคืนมีผู้ชายเข้ามานอนที่บ้าน ตัวใหญ่ๆ ดำๆ สูงลักษณะคล้ายคนใต้ เมื่อเช้ายังเห็นเดินไปปากซอยด้วยกัน “ พี่มั่นใจเหรอ สายพี่เป็นใครละ” “ยามหมู่บ้าน” เอองั้นสงสัยจะชัวร์ โอเค...งั้นไปเลย พี่รอด้านนอกนะ เดี๋ยวนักสืบเข้าไปสังเกตการณ์แถวหน้าบ้านเอง ถ้าเห็นอะไรผิดปกติ จะรีบโทรหา
นัดแนะกันเรียบร้อยก็เดินทางทันที ดิฉันพร้อมทีมงานเดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าวทันที...บ้านเงียบ มองจากข้างนอกไม่เห็นคนเลย เฝ้าไปเรื่อยๆ พี่แกบอกว่าเดี๋ยวเขาก็จะออกมาหาอะไรกินกัน ไม่มีรถยังไงก็ต้องเดินออกมาด้วยกัน หมู่บ้านนี้เราขับรถเข้าออกไปสบายเลย ทั้งๆที่ต้องใช้สติกเกอร์ผ่านเข้า-ออก แต่เราไม่ต้อง เพราะเราใช้เงิน จ่ายยามไว้หมดแล้ว เวลาผ่านไปเกือบห้าโมงเย็น เห็นหญิงวัยกลางคนนั่งตัดหญ้าที่ลานบ้าน นักสืบรายงานไป ผู้ว่าจ้างรีบนั่งแท๊กซี่เข้ามาหา “เนี่ย.. ผมว่าชู้มันต้องอยู่ในบ้านแน่เลย “เฝ้ามายังไม่เห็นมีผู้ชายเดินในบ้านเลยนะพี่” “มันต้องอยู่แน่ๆ ยามมันบอกเห็นมาเมื่อวาน มันคงจะกกกันอยู่ข้างในนั่นแหล่ะ” นักสืบอยู่ในรถนั่งเป็นไก่อบมาทั้งวัน.. จะเอายังไงก็ว่ากัน เริ่มจะคุยกับแกไม่รู้เรื่องแล้ว “ผมว่าจะปืนเข้าหลังบ้าน” เข้าหน้าบ้านเลยพี่มีกุญแจบ้านไม่ใช่เหรอ จะได้รู้กันไปเลยถ้ามั่นใจ “ จับได้เคาหนังคาเขา” พี่แกยืนยันจะปีนรั้วหลังบ้านเข้าไปให้ได้ เอาซิทีนี้ ตัวเตี้ย ปืนรั้วบ้านไม่ไหว เพื่อความสบายของแก ..บอกน้องทีมงานผู้ชาย “เฮ้ย ไปช่วยพี่แกหน่อย” ยังไงพี่ “ ก็ไปเป็นบันไดให้เขาหน่อย ..ยังไง ก็เอาบ่าบึกบึนของเธอให้เขาเหยียบไง ผัวจะเข้าไปจับชู้ ช่วยแกหน่อยจะได้จบ แต่ระวังตัวหน่อยนะ ..เดี๋ยวโดนลูกปืน หาว่าเป็นขโมย พี่จะคอยดูต้นทางให้ ...ถ้ามีอะไรจะได้วิ่งก่อน 5555 ค่อยยังชั่ว เวลานี้คนผ่านไป-มาน้อย...ไม่มีใครสงสัยอะไร มีแต่ยามขี่จักรยานผ่านมา มันจำหน้าเจ้าของบ้านได้ และก็กินเงินไปแล้วด้วย มันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
เวลาผ่านไป 30 นาที เงียบ.... ร้อนก็ร้อน (ร้อนอก..ร้อนใจ) ว่าทำไมมันนานจัง กะไอ้แค่ปีนเข้าบ้าน หายไปทั้งนักสืบและผู้ว่างจ้าง “ยังไงเนี่ย ..โดนส่องไปหมดแล้วหรือไง” เห็นนักสืบต้นเดินเหงื่อไหลย้อยมาเชียว เป็นไงได้เรื่องเปล่า เขาบอกว่าในบ้านไม่มีผู้ชายครับพี่ เห็นแต่เมียนั่งตัดหญ้าอยู่ เขาเห็นอะไรหรือเปล่า ปีนเข้าไปนะ “ไม่เห็นหรอก” ผู้ว่าจ้างเดินคอตกมาโน่น... ไม่รู้มันหลบอยู่ตรงไหน ก็ยามมันบอกว่า เมื่อวานเห็นผู้ชายเข้าแน่นอน แล้วผมเองก็รู้ว่าต้องเป็นไอ้...แน่นอนเลย ลักษณะที่บอกมามันใช่เลย เราเฝ้าดูต่อสักหน่อยก็ได้คะ ใจเย็นๆ เราอบตัวอยู่ในรถต่อ ให้ผู้ว่าจ้างนั่งอยู่ด้านหลัง เราขับรถเข้า-ออก หมู่บ้านนี้หลายรอบแล้ว ทั้งวันยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวชายเลยจริงๆ ผู้ว่าจ้างก็กระวนกระวาย ปีนรั้วบ้านเข้าไปดูแล้วก็ไม่เห็นมี แต่ยามยืนยันมาเมื่อวานตอนเย็นเห็นจริงๆ ด้วยความสงสัย ผู้ว่าจ้าง โทรไปถามยามคนที่บอก ถึงลักษณะของชายที่มานอนค้างคืน ยามบอกว่ามีมอเตอร์ไซค์มาด้วย ตัวอ้วนๆ อายุไม่เกิน 30 ปี เอ๊ะ! ถ้ามันมาจากต่างจังหวัด จะขี่มอไซค์มาเหรอ ...ยามบอกสี ยี่ห้อ เลขทะเบียนรถ “ทำไมไปเหมือนของลูกชายจัง” แกเล่าให้นักสืบฟัง “พี่ลองโทรหาลูกชายดูซิว่าเมื่อคืนไปไหนมา” ได้ความว่าเมื่อวานลูกชายเป็นวันหยุดงาน เลยขี่มอไซค์ไปนอนเป็นเพื่อนแม่ เห็นแม่อยู่คนเดียว เมื่อเช้าออกไปซื้อของที่ปากซอยกัน แล้วๆ ก็กลับออกมา... นั่นว่าแล้วไง หน้าแตกเป็นแถว...โดนยาม ต้มจนเปื่อย... แต่จะว่าไปแล้ว จะโทษยามไม่ได้หรอก เพราะแกไปบอกว่าสงสัยเมียมีชู้ ถ้าเห็นผู้ชายมาที่บ้านให้รีบบอก ยามเขาก็ตามกติกา รับสินบนมาแล้ว พอเห็นเป็นชายปุ๊บ รายงานปั๊บ ทันใจจริงๆ เขาจะไปรู้ได้ไงไอ้คนนั้นคือลูกชาย เกือบไปแล้วมั้ยละ ทั้งผู้ว่าจ้างและนักสืบ เกือบโดนแจ้งข้อหาบุกรุก....ซวยเลย ..สงสัยผัวจะเป็นคนขี้ระแวงมาก เมียถึงได้รำคาญ ขออยู่คนเดียว ตั้งแต่นักสืบทำงานมา งานนี้แหล่ะ เสี่ยงลูกปืน ไปปีนรั้วบ้านเขา แถมไม่ได้ผลงานอะไร แต่ผู้ว่าจ้างก็พอใจนะ เพราะเราทำงานจริง เต็มที่กับเขาด้วย แต่ก็ดีนะ แกจะได้สบายใจที่เมียไม่มีชู้ ...แต่ไม่รู้ต่อไปจะคิดมากอะไรอีก หาเรื่องเสียเงินไปงั้น.. “คิดว่าชู้ ที่แท้เป็นลูกชาย” ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ใจเรา....ถ้าเราไม่คิดมาก ทำอะไรใช้สติ ก็ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาแบบนี้!