เด็ก.....ใจแตก
หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาพบนักสืบกุ้งที่สำนักงาน โดยเล่าให้ฟังถึงปัญหาครอบครัว กลุ้มใจเรื่องลูกสาวเรียน ม.2 ที่โรงเรียนเอกชนชื่อดัง ส่วนเธอและสามีเปิดร้านขายของสารพัดที่จะขายได้ และมีร้านทองด้วยอยู่ย่านห้วยขวาง ตอนเช้าพ่อขับรถไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ตอนเย็นให้กลับเอง “ระยะนี้กลับดึกบ่อย บอกว่าต้องอ่านหนังสือที่ห้องสมุด บางครั้งก็ไปทำรายงานบ้านเพื่อน เธอเห็นว่าลูกสาวเป็นคนเรียบร้อย ก็ไม่ว่าอะไร บางวันขอนอนค้างบ้านเพื่อน แต่เมื่อเริ่มบ่อยครั้งขึ้นเธอจึงตักเตือนลูกสาว ลูกสาวไม่พอใจหนีออกจากบ้านไปเลย กว่าจะตามกลับมาได้ก็เหนื่อย
เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เธอได้รับหนังสือจากทางโรงเรียนเชิญผู้ปกครองไปพบ คุณครูแจ้งให้พ่อแม่ทราบว่า ลูกสาวขาดเรียนบ่อย ไม่ตั้งใจเรียน เกรดตก เธอตกใจ เป็นไปได้ยังไง..เธอกลุ้มใจมากมีลูกสาวคนเดียว จึงนำเรื่องราวไปเล่าให้น้องสาวของเธอฟัง น้องสาวเธอจึงพามาหานักสืบกุ้ง เห็นว่าเป็นผู้หญิง และเคยได้ยินชื่อเสียงมาจากทางทีวีบ้าง จึงไว้ใจที่จะให้ติดตามดูพฤติกรรมของหลานสาว “เกิดอะไรขึ้นทำไมเป็นเช่นนี้” เมื่อดิฉันได้รับรายละเอียดทั้งหมดแล้ว จึงเรียกประชุมทีมงาน ซึ่งงานนี้เน้นนักสืบหญิงเป็นหลัก รวมดิฉันด้วยต้องลงมือปฏิบัติการเองเพราะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดซะหน่อย แม่และน้าอุตส่าห์ไว้วางใจเรา
ในวันรุ่งขึ้นดิฉันพร้อมด้วยนักสืบแนนซี่ อายุเธอเข้าไปเลข 4 และนักสืบส้มเช้ง อายุ 19 ปี ยังวัยรุ่น ใช้งานตามสถานการณ์ ดิฉันได้นัดแนะกับผู้ปกครองไว้ว่าเราจะไปดักรอที่หน้าโรงเรียน ตอนที่พ่อมาส่งจะได้เห็นหน้าน้อง ตามเวลานัดเป๊ะเลย เราเห็นพ่อน้องขับรถเข้ามาจอดที่หน้าโรงเรียนแล้วขับออกไปทันที ส่วนลูกสาวลงจากรถเดินเข้าโรงเรียน เธอดูโตกว่าวัย สูงใหญ่ หน้าตาดี มีเทคโนโลยีครบ ทั้งไอโฟน ไอแพค เดินก้มหน้าแชทโทรศัพท์ไม่สนใจใคร ที่หูมีสายสมอล์ท๊อคเสียบอยู่ น้องเดินเข้าประตูรั้วโรงเรียน ดิฉันพร้อมทีมงานรอด้านนอก(เราต้องรอถึงเย็นเลยหรือเนี่ย!) หาที่จอดเหมาะๆก่อน เกะกะคนอื่นเค้า “แนนซี่ ส้มเช้ง เราไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” อิ่มท้องกันแล้วก็ประจำจุดตามที่วางแผนไว้ แนนซี่ไปหลบในรถก่อน เพราะเธออายุเยอะเก็บตัวไว้ก่อน ค่อยเปิดตัวเมื่อจำเป็น นักสืบส้มเช้งเดินเตร็ดเตร่หน้าโรงเรียน ดิฉันก็ค่อยดูอยู่ห่างๆ รับรายงานและสังเกตการณ์
เวลาผ่านซักระยะ ส้มเช้งโทรมาบอก “พี่กุ้งหนูเห็นน้องเดินสะพายกระเป๋าเป้นักเรียนออกมาคะ” อ้าวเหรอ! ดิชั้นก้มดูนาฬิกา ฮ้า! ยังไม่เที่ยงเลยจะไปไหน “สงสัยจะหิวหรือไง ครูปล่อยเร็วจัง” แต่นักเรียนคนอื่นๆก็ไม่มีใครออกมาเลยนะ “ส้มเช้งไปทางไหนแล้ว” “เดินไปทางถนนใหญ่ หนูเดินตามอยู่” “โอเคๆ ดูไว้ก่อนนะ โทรหาแนนซี่ก่อน “ฮัลโหล แนนซี่ เด็กหนีเรียน ..เอ้ยไม่ช่าย.. เป้าหมายออกแล้ว ขับรถมาหน้าโรงเรียนด่วน” ..ไม่นานรถแนนซี่มาถึงหน้าโรงเรียน แนนซี่บอกเหยียบกระจุยเลย ดิชั้นกระโดดขึ้นรถไปกับแนนซี่ ส่วนส้มเช้งเดินตามน้องอยู่ “พี่ตอนนี้น้องยืนอยู่ป้ายรถเมล์ ชะเง้อคอยาว เหมือนมองหาใคร” ส้มเช้งว่างั้น รถของเราหลบในซอยก่อน ดิฉันเดินแอบข้างกำแพง รถเมล์ผ่านมาหลายคันน้องก็ไม่ขึ้น นั่งป้ายรถเมล์ก้มหน้าแชทโทรศัพท์ไอโฟนไม่สนใจใคร ดิชั้นโทรศัพท์รายงานผู้ปกครอง แม่ของเด็กตกใจ ว่าลูกออกมาจากโรงเรียนทำไม และฝากฝังกับดิชั้นว่าให้ช่วยดูด้วยให้ คิดเสียว่าเป็นลูกเป็นหลาน (แหม่! เป็นหลานน่ะพอไหวนะ เป็นลูกคงยากเพราะหาพ่อพันธุ์ ยังไม่ได้เลย) รถตู้ผ่านมาเธอก็ไม่สนใจ แท็กซี่ผ่านมาเธอก็เฉย รอใครรึเปล่า (ดิชั้นเริ่มคิดฟุ้งซ่านจินตนาการสารพัด จะไปไหนก็ไม่ไป นั่งแชทอยู่ได้)
แท็กซี่สีชมพูผ่านมา เธอลุกจากป้ายเมล์เรียกให้จอด เปิดประตูคุยกะคนขับแล้วขึ้นไป แท็กซี่ขับออก แนนซี่มองเห็นขับตามอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมรับดิชั้นและส้มเช้งไปด้วย แท็กซี่วิ่งไปเรื่อยๆ ทางถนนพหลโยธิน เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ไปจอดที่ห้างยูเนี่ยนมอลล์ น้องสะพานกระเป๋าเป้นักเรียนเดินเข้าไปในห้างไปที่ห้องน้ำหญิง หน้าที่นี้เป็นของส้มเช้งหล่ะ เดินตามไปและออกมา ส้มเช้งสะกิดให้ดิชั้นดูว่าคนนี้นะเป้าหมาย เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นจุ๊ดจู๋ เสื้อยืดเอวลอยสีดำ รองเท้าผ้าใบ แสดงว่าในกระเป๋าเป้นักเรียน มีแต่เสื้อผ้า ไม่มีหนังสือเรียนเลยหรือ? เธอเตรียมมาพร้อมทุกอย่าง ส้มเช้งเดินตามไป ส่วนดิชั้นเดินตามไปห่างๆ ไม่อยากให้เป้าหมายเห็นหน้าและจำได้ ส่วนแนนซี่ก็นำรถไปจอดที่ลานจอด เราแบ่งหน้าที่กันทำ เป้าหมายเดินไปที่หน้าห้าง และนั่งเล่นอยู่ตรงบันไดทางเข้าห้าง ไม่นานมีเพื่อนหญิง-ชายวัยเดียวอีก 5-6 คน มาสมทบ นั่งคุยกันและควักบุหรี่ออกมาสูบกัน กอดคอหอมแก้มกันตามประสาวัยรุ่น โดยไม่สนใจสายตาคนที่เดินผ่านไป (คงคิดมั้งว่านี่เรื่องของตู...)
ดิชั้นถ่ายภาพเก็บหลักฐานไว้ก่อน โทรแจ้งผู้ปกครอง...ตกใจมาก ลูกหนีเรียนแล้วสูบหรี่อีก ย้ำกับดิชั้นให้ตามต่อจนกว่าเด็กจะกับบ้าน (แม่เจ้า..) “ได้คะ..ไม่มีปัญหา” เป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว บ่ายแล้วหน้าห้างมีขายของ แต่ไม่เห็นเด็กพวกนี้ไม่ยอมไปไหน บ่ายสามโมงเพื่อนของเธอบางคนเริ่มทยอยแยกย้ายกันกลับ เหลือเธอกับเพื่อนสาวอีกสองคน เดินไปที่รถสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ทีมงานเราเดินประกบคนละมุม งานนี้เราต้องดูอย่างใกล้ชิดจริงๆ แม้กระทั่งตอนซื้อตั๋วก็ต้องดูว่าเด็กๆเค้าจะไปลงที่ไหนกัน พวกเธอตีตั๋วไปลงที่สถานีจตุจักรแล้วไปขึ้น BTS ไปลงสยาม โอ้โห!! ทำไมคนเยอะแบบนี้ พวกน้องๆ เดินกันเร็วมาก ดิชั้นกึ่งวิ่งกึ่งเดินตาลายไปหมด (อยากจะเอา GPS ผูกติดตัวจิงจิ้ง) น้องๆ เดินไปที่ลานกว้างหน้าห้างสยาม มีเพื่อนวัยรุ่นชายหญิงอีกกลุ่มนั่งเล่นกันอยู่ คุยกันอย่างสนิมสนม “ส้มเช้งเฝ้าไปก่อนนะ จะพาแนนซี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน) ดิชั้นกับแนนซี่ ใช้เวลา 14 นาที เลือกซื้อเสื้อผ้าสไตล์วัยรุ่น แล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย แต่นั่งคนละมุม อะไรๆก็เปลี่ยนได้นะ แต่สังขารเรานี่แย่นะ ทำเอาเหนื่อยหอบเลย ทั้งวิ่งและเดิน พวกน้องๆนั่งตรงนั้นหลายชั่วโมงมาก ได้เวลาห้างใกล้จะปิดแล้ว เห็นเด็กบางคนแยกย้ายกัน ส่วนเธอและเพื่อนบางส่วนเดินไปเรื่อย มุ่งหน้าราชเทวี เราสามคนตามไป พวกน้องๆไปหยุดที่ลานสถานบันเทิง พวกน้องๆเข้าไปเปิดเหล้าดื่ม ดูดบุหรี่ครบ! ตีสองผับปิด คิดว่าน้องๆจะกลับบ้าน นั่งแท็กซี่กับเพื่อนชายหญิงไปต่อที่รัชดาซอย 4 เธอและเพื่อนๆเข้าเธคแห่งหนึ่ง ดิชั้นและแนนซี่มองหน้ากัน “ไหวมั้ยเนี้ย” งานนี้คิดว่าแม่มาตามลูกแน่เลย แนนซี่เอาเสื้อคลุมออกเหลือสายเดียว เดินเข้าไปดู และออกมาบอกว่า “ ไม่ต้องเข้าไปหรอกพวกเด็กๆ แด้นซ์กระจายอยู่ข้างใน เข้าไปเดี๋ยวจะโดนเหยียบตาย แทบไม่มีที่ยืนเลย” ส่วนส้มเช้งนั่งหมดแรงหน้าเธค ตั้งแต่เช้านี่ก็ตี่สี่ไปแล้ว..เรานั่งคุยกัน ว่าทำไมตำรวจไม่มาจับ ปิดผับปิดเธคบ้าง? ไหนบอกกฎหมายให้ปิดตีสองไง นี่ปาเข้าไปตี่ห้ากว่าแล้ว คนเริ่มทยอยออกเห็นกลุ่มเป้าหมายเดินปัดเป๋เซไปเซมาออกมา เรียกแท็กซี่ไปด้วยกัน 2 คู่ รวมเป้าหมายด้วย ไปที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง...เจ็ดโมงแล้วกลับบ้านดีกว่า โดยไม่ลืมโทรบอกผู้ปกครอง..เห็นมั้ยคะ นักสืบไม่ได้สืบเฉพาะเรื่องชู้สาวอย่างเดียว สืบทุกเรื่องที่คุณอย่างรู้ค่ะ งานนี้ได้ทำให้พ่อแม่ตาสว่างซะที การให้เงินลูกใช้ไม่ได้ทำให้ลูกเป็นคนดีได้ ต้องใส่ใจให้เวลาเขาด้วย..รู้แล้วต้องหาทางแก้ไข..ลูกใครหายไปหาได้ที่นักสืบค่ะ