หมู่บ้านสร้างบ้านไม่ได้มาตราฐาน
ดิฉันทำสัญญาในเดือน พ.ค.53 ค่ะ และได้ผ่อนดาวน์บ้านมาตั้งแต่เดือน ก.ค.53 เป็นต้นมา ได้เข้าไปดูการก่อสร้างเรื่อยๆ จนถึงเดือน ต.ค.53 พบว่าผู้รับเหมาทำงานตั้งแต่โครงสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐานจึงได้แจ้งกับโครงการหมู่บ้านไปเพื่อขอให้ทุบทำใหม่ แต่ทางโครงการเจรจาขอย้ายแปลงจึงได้ตกลงกัน (แต่ยังไม่ได้ทำสัญญาตัวใหม่ค่ะ) จนมาเดือน ม.ค.54 เข้าไปเจอผู้รับเหมายังคงทำเรื่องเสาโครงสร้างไม่ได้มาตรฐานอีก ดิฉันจึงยกเลิกสัญญาและร้องเรียนไปที่ สคบ.ค่ะ จนเดือน มี.ค.54 สคบ.เรียกไปไกล่เกลี่ยครั้งแรก ซึ่งจากที่สังเกตเห็นคือ ทางคู่กรณีกับเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยรู้จักกันค่ะ ทักทายกันและเรียกชื่อกันถูกต้อง (ดิฉันอัดคลิปเสียงไว้ค่ะ) ซึ่งในวันนั้นดิฉันได้เรียกร้องไปคือ
1.ขอเงินดาวน์คืนพร้อมดอกเบี้ย 1.25 ต่อเดือน
2.ค่าเช่าบ้าน 4 เดือน (ในสัญญาไม่ได้ระบุค่ะว่าจะต้องโอนบ้านวันไหน แต่มีเอกสารที่ทางโครงการทำขึ้นมาว่าต้องโอนบ้านให้ในเดือน ธ.ค.53ค่ะ)
3.ค่ารถที่ต้องเข้าไปดูการก่อสร้าง ทั้งสิ้น 10 เดือน
4.ค่าขาดประโยชน์ในการซื้อบ้านค่ะ เพราะดิฉันซื้อบ้านในราคาปีก่อนค่ะ ซึ่งปัจจุบันราคาบ้านได้เพิ่มสูงขึ้น และโครงการที่เลือกก่อนตัดสินใจซื้อโครงการนี้ก็ได้ปิดโครงการไปแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยพยายามพูดถึงแต่ ข้อ 1-3 ไม่พูดถึงข้อสุดท้ายเลย ซึ่งดิฉันก็โต้แย้งมาตลอด สิ้นเดือน มี.ค.54 ดิฉันได้รับเงินตามข้อ 1 โอนเข้าบัญชีมา แต่ ณ เวลานี้ เพิ่งได้รับ Mail ติดต่อแจ้งจากโครงการหมู่บ้านค่ะว่าตามที่เรียกร้องไปข้อ 2-4 ทางโครงการจะไม่จ่ายให้ เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ดิฉันสามารถร้องเรียนหรือว่าฟ้องร้องอะไรได้ไหมค่ะ และจะมีการไกล่เกลี่ยรอบที่ 2 อีกครั้ง ดิฉันควรทำอย่างไรค่ะ
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
เมื่อมีกำหนดนัดไกล่เกลี่ยรอบที่ 2 ท่านควรไปตามกำหนดนัด หากผลการไกล่เกลี่ยไม่สามารถตกลงกันได้ แนะนำให้ท่านไปใช้สิทธิทางศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายตามข้อ 2-4 แต่เนื่องจากค่าเสียหายดังกล่าว เป็นความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ ท่านมีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ให้ได้ว่าโครงการ(จำเลย) ได้คาดเห็น หรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้า ก่อนตาม ป.พ.พ.มาตรา 222 วรรค 2 หากท่านไม่สามารถพิสูจน์ความเสียหายดังกล่าวได้ จำเลยไม่มีหน้าที่ต้องชำระ