ยกเลิกการเช่าบ้านแต่เรื่องไม่จบ
ดิฉันได้ทำสัญญาเช่าบ้านไว้โดยที่มิได้มีสำเนาบัตรประชาชนแนบเป็นหลักฐาน แต่มีการลงลายมือชื่อในสัญญาครบถ้วน แล้วได้เข้าอาศัยอยู่ จ่ายค่าเช่าตามกำหนดโดยไม่มีการติดค้าง และในระหว่างช่วงเวลาที่น้ำท่วมก็ยังจ่ายค่าเช่าบ้านให้กับเจ้าของโดยตลอด หลังจากน้ำลดและได้เข้าไปสำรวจบ้านแล้วก็ตัดสินใจยกเลิกสัญญาว่าจะไม่อยู่ที่นั่นแล้ว จึงโทรไปแจ้งแก่เจ้าของขอยกเลิกสัญญาและยอมให้เจ้าของริบเงินประกันไว้ แต่จู่ๆ เจ้าของบ้านไปแจ้งความกับตำรวจว่าทางเราไม่ได้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เนตรายเดือน ซึ่งทางเราก็ได้จ่ายค่าบริการรายเดือนทั้งหมดไปแล้วในช่วงก่อนน้ำท่วม (ช่วงน้ำท่วม ไม่มีบิล ไม่มีการติดต่อให้จ่าย)
โดยทางเจ้าของบ้านอ้างว่าทางเราไม่ได้จ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหลายในช่วงระหว่างน้ำท่วม ทำให้เขาต้องออกค่าใช้จ่ายเอง และต้องการให้เราชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว แต่ในความเป็นจริงเราได้แจ้งแก่เจ้าของบ้านแล้วว่าเรายกเลิกการเช่าบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านก็ตกลงและขอยึดเงินประกัน ซึ่งก็น่าจะหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
และเงินที่จะต้องได้จากรัฐบาล 5000 บาท ซึ่งตอนแรกทางเจ้าของบอกว่าจะมอบให้กับเรา เราก็บอกไปว่าทางเราไม่เอาก็ได้ถือว่าช่วยค่าซ่อมบ้าน (แต่ปัจจุบันเจ้าของแจ้งว่าค่าซ่อมบ้านเค้าจ่ายไปแล้ว 20,000 กว่าบาท และต้องการให้เราชำระตรงนี้ด้วย) โดยนำเรื่องทั้งหมดไปแจ้งความแก่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน และต้องการให้เราไปชำระเงินทั้งหมดให้แก่เขา
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
สิทธิและหน้าที่และความรับผิดระหว่างท่านกับเจ้าของบ้านเช่า จะต้องบังคับกันตามสัญญาเช่าซึ่งเป็นบุคคลสิทธิใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญาเช่านั้น การที่ท่านซึ่งเป็นผู้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าแก่เจ้าของบ้านโดยยินยอมให้ริบเงินประกันการเช่า และเงินประกันดังกล่าวมีขอบเขตครอบไปถึงค่าใช้จ่ายเป็นประการใด ย่อมต้องพิจารณาตามข้อสัญญาเช่าที่เกี่ยวกับเงินประกันการเช่านี้เป็นสำคัญ