เชิญโขกค่าทวงหนี้ไม่ต้องมีผู้ทวงถาม
ข่าวทนายคลายทุกข์วันนี้ ถือว่าเป็นข่าวร้ายของผู้บริโภคหรือลูกค้าธนาคารเกี่ยวกับสินเชื่อต่าง ๆ อาทิเช่น บัตรเครดิต ธปท. หมดท่ายอมให้สถาบันการเงินเรียกเก็บค่าต๋งในการติดตามทวงหนี้ได้
อัตโนมัติแม้ไม่มีการ ทวงถาม แต่ต้องเป็นอัตราที่เหมาะสม นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการติดตามทวงหนี้จากลูกค้าได้ตามต้นทุนที่แท้จริงและมีความเหมาะสม เพราะธปท.ไม่ได้กำหนดอัตราที่เหมาะสมเอาไว้ตายตัว จึงขอให้คิดในอัตราที่เหมาะสม กับต้นทุนที่แท้จริง
นายสรสิทธิ์ กล่าวว่า รายละเอียดที่ จะพิจารณาว่าเหมาะสมกับต้นทุนหรือไม่นั้น ธปท.จะดูจากต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วยต้นทุนการปฏิบัติการ ต้นทุนด้านพนักงาน ต้นทุนระบบไอที รวมถึงต้นทุนที่เกิดจากการจัดจ้างบริษัทจากภายนอก (Out Source) มาทำแทนด้วย
ข้อมูลเหล่านี้จะต้องนับเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งที่ธปท. ต้องนำมาพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งในแต่ละปีธปท.จะเข้าไปตรวจสอบ ดังนั้นการจะบอกว่าต้นทุนการติดตามทวงหนี้ แค่การยกหูโทรศัพท์ก็คิดเงินจากลูกค้าก็คงไม่ถูกต้องนัก
นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงินธปท. กล่าวว่า การเก็บค่าธรรมเนียมการติดตามหนี้สามารถทำได้ เพราะระบุอยู่ในสัญญาการขอทำบัตรเครดิตไว้แล้ว แต่หากลูกค้าเห็นว่าขั้นตอนปฏิบัติไม่เป็นธรรม หรือต้นทุนการติดตามทวงถามหนี้น่าจะต่ำกว่าอัตราที่ ถูกเรียกเก็บ ก็สามารถร้องเรียนมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของธปท. ได้ที่เบอร์โทร. 02-283-5900 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ธปท. รับเรื่อง และดำเนินการติดตามปัญหาและ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไป
สำหรับค่าติดตามทวงหนี้นั้น ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศจะเรียกเก็บสำหรับ ผู้ที่มียอดค้างชำระ 1 หรือ 2 รอบบัญชี ติดต่อกัน 250 บาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยาคิดค่าทวงถามหนี้ครั้งแรก และครั้งที่สองครั้งละ 267.50 บาท ครั้งที่สาม 321 บาท ธนาคารยูโอบีและบริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) คิดค่าทวงถามครั้งละ 267.50 บาท ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) คิดที่ 310.30 บาท โดยอัตโนมัติไม่ต้อง มีการแจ้งจากเจ้าหน้าที่
ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์