ปัญหาการกู้ยืมเงินนอกระบบ
เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ประมาณเดือนตุลาคม 51 ผมได้ติดต่อกับพวกนายหน้าซื้อขายรถมือสอง ผ่านทางรุ่นพี่ของผม (ซึ่งนายหน้าพวกนี้จะหารถในราคาที่ถูกกว่ารถที่จอดขายตามเต็นท์ประมาณ 70,000-80,000 บาท) ให้ช่วยหารถมือสองราคาประมาณ 4 แสนกว่าบาท เพราะเจ้านายเกาหลีของผม ต้องการที่จะซื้อรถมาขายต่อทำกำไร โดยเจ้านายจะเป็นคนลงทุนให้ โดยต้องการกำไรจากการขายรถคันละ 40,000 บาท ส่วนที่เหลือก็ให้ผมไปแบ่งกับรุ่นพี่ผมเอาเอง (ก่อนหน้านี้ผมเคยจัดหารถให้กับเจ้านายมาแล้ว2คัน ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี) รุ่นพี่ผมก็หารถให้ เป็นรถเก๋งราคารวมทะเบียน 400,000 บาท ผมก็ไปเบิกเงินกับเจ้านายมาเพื่อซื้อรถ โดยผมต้องขายรถให้ได้ภายใน 2 เดือน และนำเงินมาคืนพร้อมผลกำไร 440,000 บาท รถที่ผมได้มาดูเหมือนรถปกติทั่วไป แต่ติดตรงที่ยังไม่ได้เล่มทะเบียน ทางนายหน้าได้อ้างว่ามีปัญหาติดขัดที่ขนส่งทางบก แต่ทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในเดือน พฤศจิกายน51 แน่นอน
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อเวลาผ่านมาถึงเดือนมกราคม52 ผมยังไม่ได้เล่มทะเบียนรถ และทำให้ผมกับรุ่นพี่ไม่สามารถขายรถคันนี้ได้ ผมพยายามติดต่อไปที่นายหน้าขายรถ ปรากฏว่าทางนายหน้าได้หนีไปแล้ว ผมกับรุ่นพี่จึงไปขอข้อมูลจากทางขนส่งทางบก ปรากฏว่ารถคันนี้เป็นรถไม่มีทะเบียน ทำให้ไม่สามารถโอนย้ายได้ พอผมรายงานให้กับเจ้านายเกาหลีทราบ ทางเจ้านายก็ไม่พอใจบอกว่าผมผิดคำพูด เชื่อถือไม่ได้ และเจ้านายผมต้องการใช้เงินในช่วงปลายเดือนมกราคม52 จึงขู่บังคับให้ผมไปเซ็นกู้ยืมเงินจำนวน 400,000 บาทจากเพื่อนของเค้า ซึ่งเป็นคนไทย แล้วทางเพื่อนเค้าถึงจะเอาเงิน 400,000 บาทให้กับเจ้านายผม (ลักษณะเหมือนเป็นการโอนหนี้) แต่ในสัญญาที่ผมเขียนกู้ยืมเงิน เค้าให้ผมเขียนใส่กระดาษ A4ธรรมดา โดยเขียนว่า "กระผมนาย...ได้ทำการกู้ยืมเงินจำนวน 400,000 บาทจากนาย...โดยจะทำการคืนให้ภายในเดือนมีนาคม2552" และถ่ายสำเนาบัตรประชาชนของผมเอาไว้ด้วย
ซึ่งผมได้พูดคุยกับทางเพื่อนของเจ้านายเกาหลีว่า ถ้าผมยังขายรถไม่ได้ ผมก็ขอเลื่อนวันไปก่อนได้มั้ย เค้าก็ตอบกลับมาว่าไม่มีปัญหา ขอให้ผมบอกให้เค้ารู้ความคืบหน้าว่าเป็นยังไงบ้าง หลังจากนั้นผมก็พยายามหาเงินมาเพื่อทำทะเบียนรถคันนี้ แต่ก็โดนโกงจากคนที่อ้างว่ารู้จักในขนส่งเป็นอย่างดีไปอีก เงินเก็บที่ผมมีก็หมดไป ทุกๆเดือนผมก็จะโทรไปรายงานให้ทางเพื่อนเจ้านายทราบว่าสถานะของรถตอนนี้เป็นยังไงบ้าง พอถึงเดือนกรกฎาคม52 ทางเพื่อนเจ้านายได้ให้สำนักงานทนายความส่งเอกสารมาให้ผม เพื่อให้ผมชำระหนี้เงินกู้ 400,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันผิดสัญญาภายใน 7วัน หากเลยจากกำหนดนี้ทางสำนักงานทนายความจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป หลังจากที่ผมได้หนังสือ ผมก็ติดต่อไปที่เพื่อนของเจ้านายเพื่อขอผ่อนผัน และเล่าถึงสถานการณ์ตอนนี้ให้ฟังว่าตอนนี้ผมมีรถแต่ไม่มีทะเบียน ผมไม่มีงานทำเพราะต้องลาออกจากงาน ผมต้องไปรับเงินจากประกันสังคมมาใช้จ่าย แต่เหมือนทางเพื่อนเจ้านายไม่เชื่อในสิ่งที่ผมอธิบาย บอกว่าผมโกหก ตอแหล ตอนนี้ตัวผมกำลังคิดจะรวบรวมเงินจากทางญาติๆมาเพื่อใช้หนี้ 400,000 บาท แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลาในการรวมเงินนานแค่ไหน ผมจึงอยากจะขอปรึกษาอาจารย์เรื่องข้อกฎหมายครับ
1.ทางเพื่อนเจ้านายจะสามารถดำเนินคดีกับผมได้หรือไม่ครับ?
2.ผมต้องการใช้หนี้แค่ 400,000 บาท (ปลอดดอกเบี้ย) เพราะในใบที่ผมเขียนกู้ยืม ไม่ได้ระบุดอกเบี้ยเอาไว้ ผมจะสามารถไกล่เกลี่ยกับใครดีครับ? ทางเพื่อนเจ้านาย หรือว่าทางสำนักงานทนายความ แลัวผมควรจะพูดกับพวกเขาอย่างไร ผมจำเป็นต้องไปเขียนสัญญาใหม่หรือไม่ครับ? เพราะทุกวันนี้ผมกลัวและหวาดระแวง ต้องคอยหลบๆซ่อนๆ เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะใช้นักเลงมาทวงหนี้กับผมหรือเปล่า? แต่ตัวผมไม่เคยขาดการติดต่อกับพวกเขา ไม่เคยปิดมือถือหนี
3.สำเนาใบกู้ยืมที่ผมเขียนหายไปแล้วครับ มันจะมีผลอะไรร้ายแรงหรือไม่ครับ?
4.หากอาจารย์มีคำแนะนำ คำชี้แนะ อื่นใดขอได้โปรดแนะนำด้วยครับ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
1. ให้ทำหนังสือโต้แย้งว่าไม่ได้เป็นหนี้และไม่ได้รับเงินตมสัญญากู้ นอกจากนี้ให้ไปแจ้งความว่าถูกข่มขืนใจให้ทำสัญญากู้ตาม ป.อ.มาตรา 309 (ความผิดต่อเสรีภาพ)
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท