โควิค 19 เป็นเหตุ
ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ การค้าการขายหยุดชะงัก ด้วยเรื่องปัญหาโรคโควิด 19 เรื่องการเมือง ภัยพิบัติต่าง ๆสารพัด มันรุมเร้าถาโถมเข้ามา คนทำการค้า ทำธุรกิจ พบวิกฤตทั่วหน้า คุณจิรกานต์ ในนามสมมุติ เธอมีสามีเป็นผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการธุรกิจ เป็นที่ปรึกษาโครงการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายโครงการ และเปิดการอบรมสัมมนาเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เมื่อเกิดโรคโควิด 19 โครงการโปรแจ๊คปิดไปหลายโครงการ สามีเธอจึงเริ่มเปิดโครงการขยายเครือข่ายไปสู่ภาคเอกชนต่าง ๆ มากขึ้น อยู่มาวันหนึ่งสามีคุณจิรกานต์ ก็มาบอกว่า “ผม ต้องไปทำงานประจำการอยู่ต่างจังหวัดมากขึ้นนะ อาจจะไม่ค่อยได้กลับบ้าน เพราะต้องไปดูแลโครงการโรงงานน้ำตาล..ที่อุดร แต่ เอ๊ะ! ปกติสามีก็ไปปฏิบัติงานต่างจังหวัดบ่อยๆ ปกติ 2-3 วันก็กลับ ไม่เคยไปไหนนานๆ เพราะสาขาหรือโครงการที่สามีดูแลอยู่ ก็มีผู้จัดการประจำโครงการดูแลอยู่แล้ว ก็เป็นปกติแบบนี้มาตลอด วันหนึ่งต่อมาเพื่อนคุณจิรกานต์ ได้ถ่ายรูปสามีเธอพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งส่งมาให้เธอดู เป็นถ่ายจากงานแสดงสินค้าที่เมืองทองธานี สามีเธอกับหญิงสาวคนนั้นอยู่ในซุ้มขายอาหารพื้นเมืองเหนือ ดูท่าทางที่แสดงออกต่อกันสนิทสนมมาก เมื่อเธอได้ภาพถ่ายจากเพื่อนแล้ว เธอจึงแอบไปที่งานแสดงสินค้า ไปแอบดูซุ้มอาหารที่ว่า .. เธอเห็นผู้หญิงตามรูปถ่ายที่เพื่อนส่งมาแต่ไม่เห็นสามีตนเอง ซึ่งช่วงนี้สามีบอกว่าทำโปรแจ๊คอยู่ที่อุดร หลังจากนั้นเธอพยายามสังเกตสามี ยังไม่เห็นความผิดปกติ แต่ก็เห็นมีรถยนต์คันหนึ่งขับมาส่งสามีที่หน้าบ้านหลายครั้ง เธอเห็นแว๊บๆว่าเป็นผู้หญิงขับมาส่ง ลักษณะคล้ายกับหญิงคนที่ขายของในซุ้มอาหารงานแสดงเมืองทองธานี เธอไม่เก็บอาการแล้วเมื่อสามีกลับมาถึงบ้านเธอตัดสินใจถามสามี “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” เธออ้างว่าเพื่อนเห็น.. ตามประสาผู้ชายปากแข็ง ไม่มีหลักฐานใครจะยอมรับล่ะ คุณจิรกานต์ เธอยังคล่องใจอยากรู้ความจริง ...ถ้าไม่รู้..เหมือนมันมีอะไรคาใจอยู่ เธอจึงตัดสินใจโทรศัพท์มาหานักสืบกุ้ง เธอบอกเห็นดิฉันให้สัมภาษณ์ในรายการเปอร์สเปคทีพ เห็นแล้วชอบน่าจะช่วยเธอหาหลักฐานได้ ว่าจริงหรือไม่จริง หลังจากที่พูดคุยกันแล้วเธอส่งข้อมูลให้ดิฉัน ดิฉันได้จัดวางแผนทีมงานว่าทีมงานได้จะลงพื้นที่ เอาเข้าจริงๆ ทีมงานลงพื้นที่หลายวันมากยังไม่เจอตัวเป้าหมายสามีเธอเลย เพราะเขาบอกว่าทำงานอยู่โครงการนี้ พอนักสืบไปก็ไม่พบเห็นสามีเธอ ง่ายๆว่าสามีเธอสับขาหลอก สุดท้ายดิฉันต้องขอใช้ไม้ตายแล้วกัน เช็คตำแหน่งจากโทรศัพท์เคลื่อนที่สามีเธอ แล้วให้ทีมงานไปดูตามสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ได้มา ปรากฎว่าสามีตนเองพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี่แหล่ะ เมื่อเราพบสามีเธอแล้ว ทีมงานก็เฝ้าติดติดตามพฤติกรรม เห็นสามีเธอไปทำงานโครงการในกรุงเทพทุกวัน เป็นปกติไม่ได้ไปทำงานต่างจังหวัดตามสามีเธอหลอก เอ้ย!บอกเลย เธอลมออกหูเมื่อรู้เช่นนี้ เธอเอ่ยปากว่าคืนนี้จะไปลุย “ไม่ได้นะคะพี่ ถ้าพี่ไปลุย แผนแตก แล้วจะได้ข้อมูลอะไร พี่อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าเค้ามีหญิงอื่นรึเปล่า” “ใช่ค่ะ” “งั้นพี่ใจเย็นๆนะคะ” “อือๆๆ” หลังจากวันที่คุยกับเธอแล้ว ทีมงานเรายังติดตามพฤติกรรมต่ออีกหลายวัน ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัว หลังจากเลิกงานสามีเธอกับหญิงคนหนึ่งอายุน่าจะห่างกันมากกว่า 10 ปี ไม่ใช่ลูกสาวแน่ เพราะลักษณะสนิทสนมกันเดินจูงมือกันในซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้ออาหารสด กลับไปที่คอนโดพร้อมกัน ดิฉันส่งรูปภาพ ให้เธอดู “อีนี่..มันคนเดียวกันที่พี่เห็นมันที่งานเมืองทอง และมันเคยขับรถมาส่งสามีพี่หน้าบ้านด้วย” “น้องรู้มั้ยเขาพักห้องอะไรกัน” “ไม่รู้เลยค่ะ เพราะเข้าคอนโดไม่ได้ตั้งแต่ประตูแรกแล้วอ่ะค่ะ คอนโดนี่ค่อนข้างหรู ถ้าไม่พักที่นี่ก็เข้าไม่ได้ค่ะ” “ค่าเช่าที่นี่เดือนละ 25,000 บาทค่ะจะเช่าล่วงหน้า 2 เดือน ถ้าจะเช่าต้องเจ่าย 75,000 บาท เข้าอยู่ได้เลยค่ะ” “จองเลยน้อง” ฮ้า! เราก็พูดไปงั้น ตามที่หาข้อมูลมาให้ ไม่คิดว่าเธอจะเอาจริง ดิฉันให้ทีมงานไปหาข้อมูล.. ได้ห้องว่างที่เจ้าของห้องปล่อยเช่ามาละ จัดไปค่ะ ทำสัญญาจ่ายตังค์ เขาอยู่ได้... เราก็อยู่ได้ผู้ว่าจ้างจ่ายค่ะ แฮ่ๆๆ เราเป็นพักอาศัยแล้วนี่..จะเดินไปตรงไหน นั่งตรงไหนก็ได้ .. คราวนี้สังเกตพฤติกรรมได้ไม่ยาก แต่ส่วนจะเห็นแต่ชายคนเดียวที่ออกไปทำงาน จะเห็นหญิงช่วงที่หล่อนลงมาซื้อของหรือออกไปกับชายช่วงวันหยุดเท่านั้น แต่ก็เก็บหลักฐานได้อยู่ หาข้อมูลเพิ่มเติมดีกว่า เราเป็นคนในแล้วนี่ ใครที่พอคุยได้บ้างว่ะเนี่ย1 เห็นป้าแม่บ้านคนนี้ ท่าทางช่างเมาท์ “ป้าซื้อชานมมาฝาก พอดีเดินไปกินข้าวมา..”จ๊ะๆขอบใจ เพิ่งมาอยู่เหรอ..มาหลายวันแล้ว ช่วงนี้นอนค่ะไม่ได้ไปไหน โดวิด “นั่นซิลำบากช่วงนี้ ป้าก็กลัว” จังหวะนั้นเหลือบไปเห็นเป้าหมายหญิงพอดี “เอ่อ ป้าหญิงคนนั้นเขาอยู่กับพ่อ2คนเหรอ หนูเห็นเค้าไปซื้อของกันปล่อย แต่ไม่เห็นแม่เค้าเลย” “ไม่ใช่พ่อ..นั่นมันผัว เค้าได้ผัวแก่ เขามาเช่าอยู่นานแล้วนะ ป้าเห็นผู้หญิงไม่ได้ไปทำงานนะ แต่ผู้ชายน่ะออกไปทุกวัน เค้าอยู่ชั้น 11 ออกจากลิฟท์ซ้ายมือสุด” ชานม 1 แก้วนี่ได้ผลจริงๆ ป้าแกสมชื่อจริงๆ แกชื่อป้าหมอย สรุปว่าสามีเธอใช้ชีวิตกับหญิงคนนี้ฐานะสามีภรรยาทั่วไป จบข่าว ไอ้ที่สามีเคยบอกว่าต้องย้ายไปดูแลโครงการต่างจังหวัดนั้น เป็นการสร้างเรื่อง. มีโปรแจ๊คต่างจังหวัดจริงแต่ส่วนใหญ่จะบินไปเช้าเย็นกลับ เธอบอก “ไม่เสียดายเงินที่จ้างนักสืบกุ้ง ยอมเสียเงินจ้างนักสืบ.. แต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร” นี่คือสโลแกนของเธอ โอ้โห้.. พี่รักเขาขนาดนั้นเลยหรือ? เปล่า! พี่ไม่ยอมหย่ากับมันหรอก ไม่อยากเสียสมบัติไป.. อ้าว อิอิ คิดว่ารักจริง เรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์นะคะ รักผัวดูแลผัวให้ดีค่ะ เดี๋ยวจะเป็นเหมือนผู้ว่าจ้างรายนี้ มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ