งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ผัวเมียละเหี่ยใจ
เรื่องราวจะเล่าต่อไปนี้เป็นของครอบครัวหนึ่งที่ยุ่งวุ่นวายกับความเจ้าชู้ของสามี เธอผู้เป็นภรรยามาหานักสืบกุ้ง เธอเล่าเรื่องของสามีเล่าไปร้องไห้ไปด้วย! เธอเพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกับสามีเมื่อสองปีที่ผ่านมา แต่ก่อนจดทะเบียนสมรสก็ได้อยู่กินเป็นผัวเมียกันมาประมาณ 7- 8 ปีแล้วในระหว่างอยู่กินกันมานั้นสามีเป็นคนเจ้าชู้มาก มีผู้หญิงหลายคน ฝ่ายสามีจะแอบผู้หญิงทุกคนแต่เธอก็สามารถจับได้ ช่วงนั้นเธอทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ไหวจึงขอเลิก เพราะจับได้ว่าฝ่ายชายแอบมีลูกกับหญิงคนหนึ่ง เธอเลิกกับฝ่ายชายไปประมาณหนึ่งปีฝ่ายชายก็กลับมางอนง้อขอคืนดีด้วยให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมและจดทะเบียนสมรสอยู่เป็นครอบครัว รับปากกับเธอว่าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นและรับผิดชอบเฉพาะดูแลเรื่องลูกเท่านั้น เธอคิดว่าฝ่ายชายก็เป็นคนดีเนื่องจากอยู่ด้วยกันมานาน จึงตัดสินใจกลับมาอยู่ด้วยกันอีก เธอและสามีจดทะเบียนสมรสกันและมีลูกด้วยกัน 1 คน ผ่านไปสองปี เธอสังเกตพฤติกรรมของสามี มีความรู้สึกว่าพฤติกรรมมันแปลกๆและเปลี่ยนไป กลับบ้านดึกอ้างว่าเรื่องงานต้องประชุมต้องรับผิดชอบเนื่องจากเป็นหัวหน้า เธอก็โอเค! คิดว่าไม่เป็นไรน่าจะไม่มีอะไร แต่วันนึง ฝ่ายชายได้กลับไปบ้านต่างจังหวัด ไปช่วยน้องชายเตรียมงานแต่ง สามีบอกเธอ “ไม่ต้องไปร่วมงานหรอก มันไกลเดินทางลำบาก” เธอก็ยืนยันว่าจะไปร่วมงานเนื่องจากว่าเป็นงานแต่งงานของน้องชายสามี อยากจะไปร่วมงานเป็นเจ้าภาพด้วย สามีเดินทางไปก่อนส่วนเธอและลูกขับรถตามไป มาถึงบ้านของสามีแม่สามีไม่ยอมให้เข้าบ้านบอกว่าที่บ้านยุ่งมากวุ่นวาย เธอมีลูกเล็กเกรงว่าจะลำบาก ให้เธอและหลานไปพักที่รีสอร์ทซึ่งอยู่ห่างบ้านไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร แม่สามีและสามีบอกว่าไม่ต้องเข้ามาร่วมงานช่วงพิธีตอนเช้าก็ได้ให้ไปร่วมงานฉลองสมรสช่วงเย็นที่สโมสรเลย “หนูก็ยืนยันว่าจะเข้าไปร่วมงานช่วงเช้าช่วงแห่ขันหมาก” เธอกับลูกออกจาก
รีสอร์ทไปถึงงาน ที่เขากำลังแห่ขันหมากไปบ้านเจ้าสาว สามีเห็นเธอก็ตกใจ รีบเดินไปหาเธอและพาเธอกับลูกน้อยออกจากงานแต่เธอก็ยืนยันว่าจะอยู่ในงานต่อ สายตาเธอมองไปเห็นหญิงคนหนึ่งที่เป็นแม่ของลูกสามี เธอปี๊ดขึ้นมาทันทีผู้หญิงคนนั้นมาร่วมงานได้อย่างไรไหนบอกว่าเลิกรากันแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ในวงศาคณาญาติของฝ่ายสามีได้ สามีบอกว่า “เค้ามาเยี่ยมลูกเฉยๆ” เธอไม่เชื่อและด้วยความโมโห จึงเดินเข้าไปแต่ว่าผู้หญิงคนนั้นและทะเลาะกันกลางงานแต่งน้องชายสามี แม่สามีไม่พอใจเพราะเธอทำให้เสียหน้าไล่เธอออกจากงานและให้กลับกรุงเทพทันที หลังเสร็จพิธีงานแต่งของน้องชาย สามีเธอเดินทางกลับกรุงเทพและมาขอโทษบอกว่าไม่มีอะไร หญิงคนนั้นมาเพียงเยี่ยมบุตรชายเท่านั้น หลังจากนั้นสามีก็ทำดีกับเธอมาได้สักพักนึง ก็เปลี่ยนไปเป็นเหมือนเดิมอีกกลับบ้านดึกกลับบ้างไม่กลับบ้างสุดท้ายเธอกับสามีทะเลาะกัน ไล่สามีออกจากบ้านฝ่ายชายก็หอบเสื้อผ้าออกไปอยู่คอนโดตัวเองที่เคยซื้อไว้ เธอก็อยู่ที่บ้านกับลูก เธอติดค้างในใจมาตลอดว่าสามีจะต้องยังไม่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นแน่นอนเพราะหญิงคนนั้นอายุเพียง 25 ปีเท่านั้นขณะที่สามีด้วยหล่อนยังเป็นนักศึกษาท้องก่อนเรียนจบ เธอและสามีปัจจุบันอายุ 40 กว่าปีแล้ว เธอมาหากุ้งเพราะว่าอยากให้ติดตามดูพฤติกรรมสามี ยังได้คบหากับผู้หญิงคนนั้น เธอบอก! ..เจ็บใจมากและแค้นมากถ้ากลับไปคบผู้หญิงคนนั้น ถ้าได้หลักฐานจะฟ้องชู้..ฟ้องหย่าทันที ตั้งแต่ฝ่ายชายออกจากบ้าน ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูบุตรเลยและไม่เคยให้เงินเธอใช้เลยแม้แต่บาทเดียว เธอต้องขายสินค้าออนไลน์เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกและเลี้ยงตัวเอง เธอเล่าไปด้วยความเจ็บใจว่าอยากได้หลักฐานฟ้องชู้มากๆ ดิฉันได้อธิบายให้เธอฟังว่าหลักฐานที่จะได้มาก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเป้าหมายทั้งสองคนว่ายังคบกันอยู่หรือไม่ ถ้ายังติดต่อกันอยู่หรือคบหากันอยู่หลักฐานก็จะได้ตามความเป็นจริง ปัจจุบันเธอมีทะเบียนสมรสและก็ไม่ยินยอมให้สามีไปมีผู้หญิงอื่น ..ดิฉันได้รับหลักฐานภาพถ่ายข้อมูลของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมาแล้วก็มีการวางแผนงานส่งทีมงานลงพื้นที่ทันที เริ่มต้นจากการติดตามพฤติกรรมผู้หญิงก่อนเนื่องจากว่าฝ่ายชายทำงานอิสละที่ทำงานไม่ค่อยแน่นอน ฝ่ายหญิงนั้นมีที่อยู่และที่ทำงานแน่นอน ได้เริ่มติดตามฝ่ายหญิงไปประมาณ 3-4 วันยังไม่พบความเคลื่อนไหว ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าทั้งคู่ยังคบหากันอยู่หรือไม่ ก่อนครบกำหนดการว่าจ้างจำนวนเจ็ดวัน ทีมงานทำงานเป็นวันสุดท้าย เห็นหญิงขับรถไปที่คอนโดของชาย เพียงแต่จอดรถไว้ที่ลานจอด ไม่ได้เข้าไปที่คอนโด และหญิงได้นั่งแท็กซี่ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากคอนโดมากนัก ฝ่ายหญิงเข้าไปในโรงแรมเปิดห้องพักและเข้าไปที่ห้องพัก ทีมงานนักสืบ เอ๊ะ! ผู้หญิงเค้าจะเอารถมาฝากไว้ที่คอนโดชายทำไม ที่โรงแรมก็มีที่ลานจอดรถ เวลาผ่านไปประมาณ2 ชั่วโมง เห็นชายคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาคล้ายเป้าหมาย เดินเข้าไปในโรงแรม และเข้าไปที่ห้องของหญิง ทีมงานถ่ายภาพส่งให้เธอดูว่าคนนี้ใช่สามีมั้ย? เธอร้องกรี๊ดขึ้นมาทันที “กูว่าแล้วเชียวว่าพวกมึงยังไม่เลิกกัน กูจะฟ้องมึงให้ยับ” เมียหลวงกำลังโมโห ... “ใจเย็นๆคะ.” เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงขณะที่นักสืบนั่งเฝ้า เห็นชายวิ่งพรวดพราดออกจากห้องมา “มันเกิดอะไรขึ้น” โทรศัพท์ไปหาผู้ว่าจ้างว่าทำไมผู้ชายรีบออกจากห้อง เธอบอกว่า โทรศัพท์ไปหาสามี ถามว่าอยู่ไหน “ทำงานอยู่” “กูรู้นะว่ามึงอยู่ที่โรงแรมกับอีนั่น” เท่านั้นแหละชายกระโดดจากเตียงออกจากห้องทันที เฮ้ย! แทนที่จะได้หลักฐานเอาไปฟ้องชู้ ภาพที่เค้าไปเดินเที่ยวกันต่อ แสดงตนโดยเปิดเผยต่อบุคคลทั่วไปและต่อหน้าสาธารณะ เฝ้าติดตามรอคอยตั้งเจ็ดวัน ไม่เหลืออะไรเลยเพราะเมียงหลวงเก็บอารมณ์ไม่อยู่นี่แหละค่ะ! มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ