หนึ่งหญิงสองชาย
เรื่องราวของหนุ่มนักธุรกิจถูกเปิดเผยเมื่อเขามาปรึกษานักสืบกุ้งว่าต้องการให้ติดตามดูพฤติกรรมหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นคนรักกัน มีการวางแผนว่าจะแต่งงานกันในอนาคตแต่ระยะหลังรู้สึกว่าฝ่ายหญิงสาวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เริ่มหลบหน้าทำตัวออกห่างจะเจอหน้าเฉพาะช่วงที่ต้องการใช้เงินเท่านั้น และไม่ยอมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องแผนการแต่งงานกันอีก หนุ่มนักธุรกิจหวังต้องการให้หนังสืบกุ้งเปิดเผยความจริง ว่าที่แท้แล้วที่เธอเปลี่ยนไปด้วยสาเหตุอะไรกันแน่ เขาเล่าให้ฟังว่าเค้าทำธุรกิจเป็นนักบริหารหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อายุเกือบจะถึงห้าแยกปากเกร็ดแล้ว แต่ยังไม่มีครอบครัวไม่เคยผ่านการแต่งงาน พอมาได้รู้จักหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอทำธุรกิจออนไลน์ เขามีความรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนทำมาหากินเป็นคนทำงานและหน้าตาดีจึงได้คบหากันมาเรื่อยประมาณเกือบ2ปีแล้ว เขาได้เช่าคอนโดหรูอยู่กลางเมืองให้หญิงสาวพักอาศัยและฝ่ายหญิงก็อ้างว่าจะนำพ่อแม่มาอาศัยอยู่ด้วย ทุกครั้งที่เค้ามาหาเธอที่คอนโด เขาก็ไม่สามารถที่จะขึ้นไปข้างบนได้เนื่องจากหญิงสาวบอกว่าพ่อแม่พักอาศัยอยู่ข้างบน หญิงสาวจะมายืนรอข้างล่าง ไปข้างนอกไปทานข้าวและต่อด้วยการไปมีความสัมพันธ์กัน เขามีการตั้งเงินเดือนให้หญิงสาวใช้เดือนละ 50,000 บาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ หญิงสาวไม่มีรถยนต์เนื่องจากเธอขับรถยนต์ไม่เป็น เขาจึงไม่ซื้อรถยนต์ให้ ระยะหลังที่เขานัดเจอ เธออ้างว่างานยุ่ง ต้องแพคของส่งลูกค้าเนื่องจากขายสินค้าออนไลน์ โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย เขาจึงตัดสินใจมาหานักสืบกุ้ง ซึ่งเมื่อดิฉันได้รับข้อมูลแล้วก็เตรียมวางแผนทีมงาน ปรากฎว่าคอนดโดที่เธออาศัยและอยู่กลางเมืองกรุงเทพ ไม่มีสถานที่จอดรถ หรือทีมงานนั่งเฝ้าได้ เราจึงแนะนำให้ผู้ว่าจ้างไปเช่าคอนใดไว้สักห้องเพื่อสะดวกกับการทำงาน เขาเห็นด้วย ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เขายินดีจ่าย ดิฉันจึงให้ส้มแป้นไปติดต่อขอเช่าห้อง กว่าจะได้ห้องที่เหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อทีมงานได้ห้องพัก พร้อมคีย์การ์ดเพื่อเดินเข้าออกสะดวก ก็เริ่มงานทันที ในระหว่างที่ทำงานผู้ว่าจ้างก็มารับเธอเกือบทุกวันเราก็สงสัยว่าแบบนี้มันจะได้เรื่องเหรอคะเพราะหญิงสาวก็อยู่กับเขาทุกวัน เราจึงวางแผนกับผู้ว่าจ้าง ควรจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศซักหนึ่งสัปดาห์ อาจจะมีความเคลื่อนไหวของเธอบ้าง เมื่อทางทีมงานเราได้ห้องเช่าคอนโดเดียวกับเธอแล้วก็เดินทางเข้าออกสบาย ผู้ว่าจ้างได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศตามที่เราวางแผนกันไว้ วันแรกที่ผู้ว่าจ้างไม่อยู่ เธอก็ออก ไปเดิน shopping ในห้างสรรพสินค้ากลางใจเมืองและกินข้าว นัดพบชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางสนิทสนมกันเราเข้าใจว่าเป็นพี่ชายจึงส่งภาพให้ผู้ว่าจ้างดูเค้าบอกว่าเธอไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีพี่ชายหรืออาจจะเป็นเพื่อนสนิทแต่ก็จะเป็นไปได้ ทีมงานเฝ้าดูพฤติกรรมเธอต่อไปหลังจากที่ทั้งสองกินข้าวกันแล้ว ทั้งสองก็เดินไปที่รถซึ่งฝ่ายชาย ซึ่งน่าจะขับรถยนต์มาจอดไว้ที่ร้านจอดหลังจากนั้นทั้งสองก็ไปที่คอนโดแห่งหนึ่งที่ไม่ใช่คอนโดของเธอแต่ไม่ได้ห่างไกลจากย่านที่เธอพักมากนักเธอและชายหนุ่มคนนั้นเดินจูงมือกันไปซื้อของที่ 7-11 ที่อยู่หน้าคอนโดแล้วก็เดินไปที่คอนโดด้วยกัน หญิงสาวจะกลับออกมาจากคอนโดขายหนุ่มอีกทีก็ประมาณเที่ยงคืนเศษ ซึ่งก่อนที่เธอจะออกจากคอนโดชาย ผู้ว่าจ้างโทรศัพท์สอบถามเธอว่าอยู่ไหนเธอตอบว่านอนอยู่ที่ห้องมันเริ่มแปลกและผิดปกติแล้วว่าทำไมถ้าเป็นพี่ชายหรือเพื่อนสนิทเธอก็น่าจะบอกได้ว่าอยู่กับใครที่ไหน แต่นี่เธอโกหกเค้าว่านอนพักอยู่ที่ห้องซึ่งทางทีมงานเราก็ยืนยันว่าเธอยังอยู่อีกคอนโดชายหนุ่ม ช่วงเธอออกจากคอนโดของชายหนุ่มกลับมาที่พักตังเอง ทีมงานได้ส่งภาพไปให้ผู้ว่าจ้างดู ว่าเธอออกมาแล้วผู้ว่าจ้างจึงเชื่อถือและยอมรับสิ่งที่นักสืบบอก ว่าเธอไม่ได้อยู่ที่ห้องในวันรุ่งขึ้นเธอออกจากบ้านตั้งแต่10 โมงโดยนัดชายหนุ่มคนเดิมมารับที่หน้าคอนโดแล้วก็ไปเดินซื้อของกันตามตลาดนัดเนื่องจากเป็นวันเสาร์ตลาดเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าและก็ไปทานอาหารเที่ยงด้วยกันเดินShopping กันแบบสนิทสนม เดินจูงมือกันเหมือนคนรักช่วงบ่ายก็กลับไปที่คอนโดของฝ่ายชายเหมือนเดิมเมื่อผู้ว่าจ้างถามเธอก็ยังยืนยันว่าเธออยู่ที่ห้องกับพ่อแม่ ซึ้งมันทำให้เขาสงสัยมากนักว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่ที่เขาวางแผนกับทีมงานว่าเดินทางไปต่างประเทศ ความจริงแล้วเขาก็ยังอยู่ที่เมืองไทยแล้วก็พักไม่ไกลจากที่เธอพักมากนักคอยรับรายงานจากทีมงานนักสืบ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เธอนัดพบชายหนุ่มคนนี้เกือบทุกวันและทุกครั้งก็จะไปนอนคลุกคลีอยู่ที่ห้องของชายหนุ่มจนกระทั่งเค้าทนไม่ไหวจึงบอกเธอว่า กลับมาเมืองไทยแล้วและขอนัดเจอซึ่งตอนนั้นที่เค้าบอกว่าจะมาหาที่คอนโดนั้นหญิงสาวยังอยู่กับผู้ชายที่คอนโดอีกแห่งหนึ่งซึ่งเธอก็รีบกลับมาอย่างรวดเร็วที่ห้องพักนั้นทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเธอยังนอนอยู่ที่ห้องพักเหมือนเดิมและเขาก็มารับเธอที่หน้าคอนโด ครั้งแรกเค้าคิดว่าจะไม่พูดอะไรแต่ทนไม่ไหว จึงบอกให้หญิงสาวว่ารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ให้ต่อสายโทรศัพท์หาชายคนนั้นเดี๋ยวนี้! หญิงสาวปฏิเสธบอกว่าไม่มีอะไรเป็นแค่เพื่อนสนิท เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์เสียงเป็นผู้ชายอ้างว่าไม่รู้ว่าหญิงคนนี้มีแฟนแล้วเพราะเธอก็ไม่ได้บอกเค้าเหมือนกัน ผู้ว่าจ้างถามชายหนุ่มว่า ถ้ารู้แล้วแบบนี้จะเลิกไหม? ฝ่ายชายไม่ตอบเค้าอ้างว่าเค้าถูกหญิงสาวหลอกเช่นกัน หลังจากนั้นผู้ว่าจ้างจึงได้เคลียร์กับหญิงสาวบอกว่าจะเลิกกับเธอและจะไม่ให้เงินใช้ซึ่งหญิงสาวก็ร้องไห้แล้วขอโทษบอกว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก หมดภารกิจของนักสืบแล้ว เพราะทุกอย่างกระจ่างแล้ว หญิงคบซ้อน หนึ่งหญิงสองชาย เวลาผ่านมาได้สองสัปดาห์ผู้ว่าจ้างติดต่อกลับมาหานักสืบกุ้งอีก “ผมต้องการให้ทีมงานทำวานให้ต่อครับ” “ต้องการทราบอะไรค่ะ!” “ผมคืนดีกับเธอแล้ว เธอรับปากว่าเลิกกับหนุ่มคนนั้นและเลือกผม” “ช่วยจัดคนให้ผมด้วย ว่าเธอยังติดต่อคบหากันชายกนุ่มอีกมั้ย” เฮ้ยนี่เป็นเรื่องของคนมีเงินนะคะทั้งที่รู้ว่าหญิงสาวคบซ้อนก็ยังคิดจะรักและดูแลต่อ มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ!