ผู้หวังดีประสงค์ร้าย..
วันหนึ่งมีโทรศัพท์โทรมาหานักสืบกุ้ง “วันนี้ว่างมั้ยค่ะ ดิฉันขอพบค่ะ” “เอ่อ! จากไหนค่ะ?” “ออ! ดิฉันชื่ออุษาค่ะ มีเรื่องจะปรึกษานักสืบกุ้งด่วน มีเรื่องร้อนใจค่ะ” “ได้ค่ะ.. ช่วงบ่ายนะคะ” เมื่อถึงเวลานัด คุณอุษาเดินหน้าตาตื่นเข้ามาหาดิฉันที่สำนักงาน “มีเรื่องอะไรจะปรึกษาหรือค่ะ?” “คือ.... เมื่อไม่นานนี้มีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาหาอุษาค่ะ บอกว่าเป็นผู้หวังดี “นี่เธอรู้มั้ย?สามีเธอนะมีเมียน้อย เค้าคบหากันมาหลายปี ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว เค้ายังพากันไปสวีทหวานแหว๋วที่เชียงใหม่เลย นี่ชั้นไม่ได้พูดปรักปรำนะ มีรูปให้ดูด้วย เดี๋ยวชั้นจะส่งให้เธอทาง SMS นะ” และแล้วผู้หวังดีประสงค์ร้าย ก็ส่งรูปมาให้อุษา แหม่!..มันน่าเจ็บใจ รูปก็ไม่ค่อยจะชัดคะคุณกุ้ง ไม่ค่อยเห็นหน้าผู้หญิงชัดเจน “เหมือนมันจะแกล้งส่งแบบเบลอ ๆมาให้อุษาค่ะ อุษาก็ของขึ้นซิคะ” “คุณกุ้งค่ะช่วงนี้อุษามีประชุมหลายวัน คุณกุ้งช่วยจัดทีมนักสืบส่งคนไปดูให้ด้วย” อยากรู้นักว่าช่วงที่คุณอุษาไปประชุมหลายวัน สามีจะทำตัวอย่างไร แมวไม่อยู่หนูอาจจะร่าเริงมั้ย อุษาให้ข้อมูลรูปภาพถ่ายของสามี ที่บ้านที่จะให้เริ่มติดตาม คุณอุษาก็เดินทางไปประชุม ทีมงานนักสืบก็ทำการเป็นหมาเฝ้าให้คุณอุษา มีหน้าที่ดูแลสามีให้คุณอุษา ปรากฏว่าช่วงที่คุณอุษาไปประชุมหลายวัน สามีตัวดีของคุณอุษาทำตัวปกติอยู่บ้านดูและครอบครัวไม่ไปไหน จนถึงกำหนดกลับของคุณอุษาภริยา สามีผู้แสนดี ก็นัดหมายบอกกับภริยาว่าจะไปรับที่สนามบิน ช่วงเช้าไปทำงานปกติ พอช่วงสายก็โทรหาภริยาบอกว่าจะออกไปพบลูกค้า เจรจาธุรกิจ คุณอุษาก็โทรแจ้งทีมงานให้ทราบ ทีมงานนักสืบก็เห็นสามีคุณอุษาก็ทำอย่างที่พูดจริง แต่นักธุรกิจที่บอกทีมงานเห็นเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี หน้าตาดี ทั้งสองพูดคุยกันไปรับรับประทานอาหารกันด้วยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมแม่น้ำ เวลาผ่านไปชั่วโมงเศษ หลังจากนั้นทั้งสองออกจากร้านอาหาร ฝ่ายสามีคุณอุษาขับรถพาหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นลูกค้าไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากร้านอาหารมากนัก ซึ่งโรงแรมนี้แบ่งออกเป็นสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นโรงแรมที่มีร้านอาหารและคอฟฟี่ช็อป สำหรับนั่งสนทนากันตามปกติ ส่วนอีกด้านของโรงแรมเปิดบริการเป็นโรงแรมชั่วคราว มีม่านกั้น ที่เรียกว่าม่านรูดนั่นแหละ สามีของคุณอุษาก็เลี้ยวรถเข้าไปในโซนที่เป็นโรงแรมชั่วคราว อ้าวไหนว่าคุยธุรกิจนักธุรกิจ หรือว่าเขาจะไปคุยกันต่อในม่านรูด ดิฉันแจ้งให้คุณอุษาทราบ อุษาของขึ้น! ฉันไม่อยากให้มันนอนกัน ฉันจะโทรไปจัดการมันเดี๋ยวนี้ ไม่ทันที่ดิฉันจะตอบโต้ เธอวางสายทันที ผ่านไป 10 นาที ก็เห็นสามีคุณอุษาขับรถออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็วพร้อมหญิงสาว ทีมงานนักสืบรีบสตาร์ทรถขับตามไป เมื่อเห็นท้ายรถสามีคุณอุษาก็แอบขับติดตามไปเรื่อยๆ เขายังขับปกติอยู่ ไม่เห็นความผิดปกติร จนไปถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง สามีคุณอุษาและหญิงสาว เดินเข้าไปนั่งคุยกันในร้านกาแฟหนึ่งหนึ่งเป็นเวลานาน เมื่อชำระค่าเครื่องดื่มแล้ว ทั้งสองก็ออกมาด้วยกันเหมือนไม่มีอะไร นั่งรถกินลมชมวิว กันสักพักใหญ่ ก็ขับรถเลี้ยวเข้าโรงแรมอีกแห่ง คราวนี้คงสมใจเพราะไม่มีใครโทรรบกวน เพราะคุณอุษาอยู่ระหว่างการนั่งเครื่องบินกลับ ทีมงานก็ได้แต่เก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน เมื่อทั้งสองเสร็จสมอารมณ์หมาย ก็ออกจากโรงแรมแบบสบายใจ หญิงสาวนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง ส่วนสามีที่แสนดีก็ขับรถกลับบ้าน เพื่อเตรียมตัวไปรับภริยาที่สนามบิน ส่วนผู้หวังดีประสงค์ร้ายคือใครนั้นยังไม่แน่ใจเพราะหน้าหญิงสาวที่ผู้หวังดีส่งมานั้นหน้าเบล่อๆ ไม่แน่ใจว่าคนเดียวกันมั้ย และคนที่อ้างว่าเป็นผู้หวังดีนั้น หล่อนหวังประโยชน์อะไร หรือเพื่อนหญิงคนที่สามีคบหาอยู่จะแกล้งทำเนียนอ้างตัวว่าเป็นผู้หวังดี เพื่อต้องการให้เกิดความร้าวฉานในครอบครัว หรืออาจเป็นเพื่อนสนิทของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่รู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างมาวันนี้เสียประโยชน์จึงเปิดเผยความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง... เมื่อเธอลงเครื่องบินก็แจ้งทีมงาน “วันนี้ยุติการทำงานได้ค่ะวันนี้ เดี๋ยว! สามีจะมารับค่ะ” ทีมงานยังไม่ทันจะรายงานเรื่องที่สามีพาหญิงสาวเข้าโรงแรมอีกรอบในขณะที่เธอนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพ อุษาก็วางสายไปก่อน .. ทีมงานก็กลับบ้านแบบงงๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ยังมีวันทำงานอยู่อีก 2 วัน วันนี้ขอพักผ่อนก่อน .. ในรุ่งขึ้นทีมงานก็ไปเริ่มงานปกติ โดยที่ยังติดต่อคุณอุษาไม่ได้ เนื่องจากสามีของเธอยังอยู่ในบ้าน อาจจะกำลังสวีทกัน เวลาผ่านไปครึ่งวันทีมงานเห็นสามีคุณอุษาขับรถออกจากบ้านไปที่ทำงาน ขณะที่เฝ้าสามีอยู่ ทีมงานนักสืบก็ทักไลน์ไปหาคุณอุษา เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงคุณอุษาก็ไม่อ่านไลน์ จนกระทั่งสี่โมงเย็นคุณอุษาอ่านไลน์ และทักกลับมาว่าเพิ่งตื่น “อุษาหลับยาวค่ะ” “เอ่อ! เมื่อวานส่งรายงานผ่านไลน์ไปคุณอุษาอ่านแล้วใช่ไหมค่ะ?” “ ค่ะ! อุษาถามสามีแล้ว เขาบอกอุษาว่า ไปทานข้าวกับเพื่อนรุ่นน้องค่ะช่วงบ่าย เห็นว่าคุยเรื่องงานกันด้วย ... “สามีบอกมั้ยค่ะว่าไปคุยกันที่ไหน เขาพากันไปโรงแรมด้วย..” “เค้าบอกคะว่าไปที่โรงแรมแต่ไปนั่งทานกาแฟกันเฉยๆ” ไม่ใช่ล่ะ! แสดงว่าสามีเธอไม่ทราบเรื่องที่มีนักสืบสะกดรอยตาม “ออ! แต่อุษาได้ไม่เชื่อเค้านะคะ แต่ไม่กล้าพูดมากค่ะ เดี๋ยวแผนแตก อุษาจะให้ทีมงานตามต่ออีกสักหนึ่งอาทิตย์นะคะ อุษาต้องการความชัดเจน.. และอยากรู้ว่าคนที่อ้างเป็นผู้หวังดีเป็นใคร เป็นเรื่องจริงมั้ย? และหญิงคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่นักสืบเห็นมั้ย “ได้ค่ะ....” สรุปทีมงานก็ต้องทำงานติดตามพฤติกรรมสามีของคุณอุษาต่ออีก 1 สัปดาห์ งานยังไม่จบ... มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ!