ความรักคือ…อะไร
นิยามของความรัก ก็มีหลากกลาย แล้วแต่ว่าใครจะเจอความรักแบบไหน ยกตัวอย่างเช่น ความรักคือ...การให้ ,ความรักคือ...ความสุข , ความรักคือ...การเสียสละ ..และอีกหลายๆ แบบของความรัก แต่ในมุมมองของนักสืบ ความรักคือ...ความทุกข์ เป็นเช่นนี้ไม่ใช่ว่ามองโลกในแง่ร้ายนะ แต่ได้รับรู้จากประสบการณ์จริงจากลูกค้าที่มาหานักสืบ ทุกคนที่มามีความทุกข์ทั้งนั้น และทุกข์มากๆ ด้วย โรคมะเร็งขั้นสุดท้ายเชียว
ทุกคนเกิดมามีความรักตั้งแต่แรกเกิด มีความรู้สึกรักพ่อ รักแม่ โตขึ้นมาความรักก็เริ่มเปลี่ยนไปรักคนอื่น..ๆ ความรักก็จะเป็นอีกแบบ
เมื่อเริ่มมีความรัก อะไรๆ ก็สดใส ทุกอย่างหอมหวาน ให้ ๆ...ให้ทุกอย่างได้แม้แต่ชีวิต มีความต้องการอยากอยู่กับคนรักไปตลอด โดยการให้คำมั่นสัญญาว่า “ชั้นจะรักเธอมากกว่าชีวิตของชั้น เราจะอยู่กันจนแก่เฒ่า ไม่มีอะไรพรากจากเราได้นอกจากความตายเท่านั้น” เมื่อแต่งงานอยู่กินกันได้ไม่เท่าไหร่ ความรู้สึกเปลี่ยนไป.....ทุกสั่งทุกอย่างที่พูดไว้ จำอะไรไม่ได้ซักอย่าง (ความจำเสื่อม) ยกตัวอย่างของความรักคือ ทุกข์ ให้ท่านได้อ่านจากนักสืบ ที่นำเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับหลายคน ท่านเคยเจอแบบนี้หรือไม่
เรื่องที่หนึ่ง เป็นเรื่องความรักของหญิงสาววัยเกือบ 50 ปี เธอมีสามีแล้ว มีลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาว อยู่กินกับสามีมาประมาณ 20 ปีเศษ ไม่เคยจดทะเบียนสมรสเลย แต่ก่อนที่จะมาอยู่กินกับสามีคนปัจจุบัน เธอเคยมีแฟนเก่า เพราะแฟนไปแต่งงานจดทะเบียนอยู่กินกับหญิงอื่น และมีลูกด้วยกันโตแล้วเช่นกัน ในระหว่างที่อยู่กินกับสามี ก็มีปากเสียงกันบ้าง ในความที่มีทัศนนิสัยไม่ค่อยลงรอยกัน เธอและสามีเป็นนักธุรกิจ พอที่จะมีเงิน และเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจ
ต่อมาเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา เธอไปเจอกับแฟนเก่า ได้พูดคุยได้เล่าถึงชีวิตปัญหาให้กันฟัง ซึ่งทั้งสองต่างฝ่ายก็มีปัญหาชีวิตเหมือนกัน ฝ่ายแฟนเก่าเธอก็มีปัญหากับเมียที่บ้าน ถึงขนาดแยกห้องนอนกันมาเป็นปี เธอก็เล่าปัญหาของเธอให้แฟนเก่าฟัง ก็เลยเกิดความสงสาร เห็นอกเห็นใจ ทุกอย่างจึงรับเข้าหากันได้ง่าย ทั้งสองจึงแอบความสัมพันธ์กัน ในขณะที่ต่างฝ่ายก็ต่างยังไม่เลิกกับสามีและภรรยาเลย เธอคิดไปไกลว่าเราทั้งสองจะต้องไปอยู่ด้วย ทั้งๆเธอยังไม่รู้ว่าความจริงมันคืออะไร
เธอบอกว่าฐานะเธอดีกว่าฝ่ายชายเยอะมาก เธอเป็นนักธุรกิจ แต่ฝ่ายแฟนเก่าเป็นแค่ลูกจ้างบริษัท ตำแหน่งธรรมดา เงินเดือนไม่กี่บาท เธอจึงชวนแฟนเก่าให้ออกจากงาน และมาทำงานกับเธอ มีหน้าที่ติดต่องานให้ ซึ่งสามีและลูกๆเธอก็ไม่มีใครรู้เลย ว่าเธอแอบจ้างแฟนเก่ามาทำงาน เพราะทุกครั้งที่จะให้งานไปทำก็ต้องติดต่อทางโทรศัพท์ หรือออกไปพบลูกค้าข้างนอกด้วยกัน นอกนั้นไม่มีโอกาส
ตอนนี้เธอมีความทุกข์ใจอย่างหนักที่เล่านักสืบฟังว่า เธอบอกว่า เธอวางแผนอนาคตกับแฟนเก่าคนนี้ว่า จะเป็นเปิดบริษัททำธุรกิจด้วยกันที่ต่างจังหวัด และซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน 2 คน ซึ่งเงินทุกบาททุกสตางค์เธอเป็นคนออก แต่มาระยะหลังเมื่อทุกอย่างเริ่มต้น ชีวิตเขาสบายขึ้น มีเงินทอง มีรถขับ ซึ่งเธอเป็นคนซื้อให้ เมื่อต้องการเจอเขาก็โทรศัพท์ไปหาแฟนเก่าก็จะออกมาพบกัน ตอนนี้แฟนเก่าเริ่มไม่ว่าง วันเสาร์-อาทิตย์ ต้องให้เวลากับลูก (ทั้งที่ลูกโตเท่า........) โทรศัพท์ไปก็ไม่สะดวกคุย
เธอมีความรู้สึกว่าเปลี่ยน เกิดอะไรขึ้นกับชีวิต เธออุตสาห์คิดจะบอกเลิกกับสามีที่บ้านมาอยู่กับชู้ แต่มาเป็นแบบนี้อีก เธอบอกต่อว่า เธอรักเขามากกว่าสามีที่บ้าน เพราะเคยเป็นแฟนกันมาก่อน ก็เลยเข้าใจกันง่าย เธอให้นักสืบช่วยติดตามพฤติกรรมเขาให้ เพราะจะได้ติดสินใจต่อว่าจะเอาอย่างไร เกือบบอกเลิกสามีแล้วเชียว ไม่งั้นซวยหลายเด้ง นักสืบเห็นหน้าเธอแล้ว เธอกลุ้มจริง เพราะจากสีหน้า แววตา บ่งบอกว่าถึงความผิดหวัง และอกหักเลยหละ ไม่ใช่กับสามีที่บ้านนะ แต่กับชู้นอกบ้านต่างหาก นี่แหล่ะน้า! เขาว่าเรื่องของความรักไม่เข้าใจใครหรอกนะ
มาอ่านเรื่องที่สองกันบ้าง หนุ่มคนนี้แต่งงานกับภรรยาอยู่กินกันมา 20 ปี จดทะเบียนสมรสด้วยกัน มีบุตรหนึ่งคน อายุ 14 ปี เขาบอกกับนักสืบเมียมีชู้ “เฮ้ย! พี่รู้ได้งัย ใส่ความปล่าว” พี่แกบอกว่า “ผมมีหลักฐานทุกย่างไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย เสียงสนทนา และอีกหลายๆอย่าง…แต่ผมไม่เคยบอกเมียผมเลยนะว่าผมรู้ ได้แต่เก็บความเจ็บมาตลอด” นอกจากนี้พี่แกยังหาข้อมูลของชายชู้มาอีกเพียบเลย (เป็นนักสืบได้นะเนี้ย....) หนุ่มคนนี้ด้วยความรักเมีย ไม่ต้องการที่จะเสียเมียไป จึงมีความประสงค์จะฟ้องชายชู้คนนั้น
ซึ่งในขณะที่ภรรยาไปทำงานนอกบ้านก่อนกลับเข้าบ้าน ก็จะนัดแนะชายชู้ไปนอนก่อนกลับบ้าน พี่แกก็รู้มาตลอดแต่ไม่อยากทำให้ครอบครัวมีปัญหา กลัวลูกไม่มีแม่ และด้วยความที่รักเมียมากด้วย เขาพยายามมาหานักสืบเพื่อระบายความทุกข์ในใจให้ฟัง และไปพบจิตแพทย์ ด้วยความกังวลหลายอย่าง พี่แกบอกให้นักสืบช่วย เพราะไม่อยากเสียเมีย หลังจากที่มาพบนักสืบกลับไปบ้าน ด้วยความสบายใจ ว่านักสืบต้องช่วยได้แน่นอน วันนั้นได้นัดทานข้าวกับภรรยา อยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อแม่ลูก อย่างมีความสุข สงสัยชีวิตจะกลับมาเหมือนเดิม
ในคืนวันนั้น เขาและภรรยาได้มีความสัมพันธ์กัน เมื่อเสร็จกิจ ภรรยาก็บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย เธอบอกว่า “ขอหย่า เพราะมีคนอื่นแล้ว” ผมช๊อก แต่พูดไม่พูดอะไร ได้แต่นิ่งเงียบ แต่กลุ้มหนักมาก เครียดมาก ก็เลยเฉย คำพูดแบบนี้ผมไม่คิดว่าจะออกจากปากภรรยาของผม (คนเราก็แปลกนะ เพิ่งจะนอนกับผัวตัวเองเสร็จแล้วบอกเลิก ...สมัยนี้เน๊าะ) พี่แกโทรศัพท์มาหานักสืบ บอกว่าผมไม่ไหว คิดจะ “ฆ่าให้ตายหมด ซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย” ใจเย็นคะ ทุกอย่างมีทางออก แทนที่นักสืบจะได้ติดตามพฤติกรรม กลับมานั่งปลอบใจอีก
เห็นมั้ยล่ะคะ ความรัก คือความทุกข์ ในมุมมองของนักสืบ ท่านที่อ่านจะเห็นด้วยหรือไม่นั้น ต้องเจอกับตัวเสียก่อน ถึงจะรู้รสชาติของการเจ็บปวดว่ามันทรมานขนาดไหน..... ความรัก คือความสุข แป๊บเดียว...แต่ความทุกข์ ทำไมมันนานแบบนี้นะ
ยังงัยก็แล้วแต่นะคะ คุณยังมีนักสืบเป็นเพื่อน ติดต่อมาได้ค่ะ ที่ กุ้ง “อำนวยพร มณีวรรณ์” 089-6695026 , 02-9485700