ข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์/ทนายคลายทุกข์/ทนายความ
โจทก์ฟ้องว่าลักทรัพย์บุคคลหนึ่ง แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนละคนกัน ไม่ถือว่าแตกต่างกันในข้อสาระสำคัญ เพราะกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องลักทรัพย์ระบุแต่เพียงว่า จะต้องเป็นทรัพย์ของบุคคลอื่น กฎหมายมิได้บังคับเด็ดขาดว่าจะต้องระบุชื่อเจ้าของทรัพย์เสมอไป เช่น กรณีที่ไม่อาจทราบตัวเจ้าของทรัพย์ที่แน่นอนได้ เป็นต้น อ้างอิงฎีกาที่ 9425/2559
คำพิพากษาฎีกาที่อ้างอิิง
คำพิพากษาฎีกาที่ 9425/2559
แม้ความผิดฐานลักทรัพย์จะต้องเป็นทรัพย์ของผู้อื่น แต่กฎหมายมิได้บังคับเด็ดขาดว่าต้องระบุชื่อเจ้าของทรัพย์เสมอไป เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎในชั้นอุทธรณ์ว่า บริษัทส. นายจ้างของจำเลยเป็นเจ้าของเงินที่จำเลยลักไปแตกต่างจากข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องว่าบริษัท ช. เป็นนายจ้างของจำเลยและเป็นเจ้าของเงินที่จำเลยลักไป จึงเป็นเพียงรายละเอียด มิใช่เป็นข้อแตกต่างในข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพแสดงว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคสอง